xs
xsm
sm
md
lg

ผมร่วงมากเกิน ส่งสัญญาณว่าป่วยเป็นโรค จริงไหม?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ถ้าคนเรามีความผมร่วงอยู่บ้างในทุกๆ วัน ย่อมเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ว่าเป็นเพราะกลไกของเซลส์ของผมที่ย่อมมีเวลาที่แตกต่างของมัน แต่ถ้าในวันหนึ่งเกิดร่วงมากกว่า 30-50 เส้น ล่ะ เพราะมีข้อมูลมาบอกแล้วว่า อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคต่างๆ ได้

นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ ได้เปิดเผยว่า โดยเฉลี่ยผมของคนเรามีประมาณ 80000 ถึง 1200000 เส้น และมีการงอกขึ้นประมาณวันละ 0.35 มิลลิเมตรและมีอายุนาน 2-6 ปี โดยปกติจะมีผมร่วงเป็นประจำทุกวัน แต่ไม่เกินวันละ 30-50 เส้น แต่ถ้ามีการผมร่วงอย่างผิดปกติ อาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ผมร่วงจากกรรมพันธุ์ พบได้จากทั้งผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จะพบในฝ่ายหลังมากกว่า เนื่องจากจะมีความไวต่อฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย ทำให้เส้นผมมีอายุสั้นกว่าปกติและเส้นผมที่ความไวต่อฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย ทำให้เส้นผมมีอายุสั้นกว่าปกติ แล้วเส้นผมที่เกิดใหม่จะมีขนาดเล็กและบางลง ส่วนมากจะเป็นบริเวณกลางศีรษะและหน้าผากเริ่มสังเกตได้เมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไป ส่วนผู้หญิงมักแสดงอาการหลังหมดวัยประจำเดือน

โดยในแต่ละวันจะมีเส้นผมประมาณ 10-15% ที่หยุดเจริญและหลุดร่วงไป แต่ในบางภาวะเส้นผมที่กำลังเจริญอาจหยุดการเจริญในทันที ทำให้มีเส้นผมเสื่อมและหลุดร่วงเพิ่มจำนวนมากกว่าปกติ เช่น ผู้หญิงหลังคลอด ทารกแรกเกิด หลังจากไข้ขึ้นสูงได้รับการผ่าตัดใหญ่ เจ็บป่วยเรื้อรัง การเสียเสือด การบริจาคเลือด การใช้ยาบางชนิด และภาวะเครียดทางจิตใจ ซึ่งผมร่วงชนิดนี้มักจะเกิดขึ้นใน 1-3 เดือน หลังจากนั้นจะหยุดร่วงและงอกขึ้นใหม่ตามปกติ

ซึ่งโรคผมร่วงนี้ อาจจะมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น ผมร่วงจากการถอนผม, เชื้อรา หรือ เชื้อราศีรษะ, จากการทำผม. จากยาและการฉายรังสี และ ผมร่วงจากโรคอื่นๆ เช่น ไทรอยด์, ซิฟิลิส, โรคตับ หรือ โรคไต

ทั้งนี้ อธิบดีกรมการแพทย์ แนะนำถึงผู้ที่ป่วยเป็นโรคผมร่วง ให้ปฎิบัติดังนี้

1.ควรสระผมทำความสะอาดเส้นผมและผิวหนังของศีรษะอย่างสม่ำเสมอ
2.ไม่ควรเกาหรือขยี้หนังศีรษะแรงเกินไป
3.หลีกเลี่ยงความเครียดเพราะจะกระตุ้นให้อาการผมร่วงมากขึ้น
4.หลีกเลี่ยงการดึงหรือถอนผมเล่น
5.หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกับหนังศีรษะ เช่น การย้อม ทำสี ตัด ผมที่บ่อยเกินไป
ทั้งนี้ อาการผมร่วงในผู้ป่วยบางราย อาจมีการหายเองได้ แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุของโรคและได้รับการรักษาที่ถูกต้อง



กำลังโหลดความคิดเห็น