xs
xsm
sm
md
lg

‘ลูกสำรอง’ สมุนไพรมากประโยชน์ที่ไม่เป็นสองรองใคร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ลูกสำรอง มีลักษณะคล้ายกับลูกสมอ ผลแก่เป็นสีน้ำตาล ผิวเหี่ยวย่น แห้ง และขรุขระ ส่วนเมล็ดจะเป็นรูปมนรี มีเยื่อหุ้มอยู่ ซึ่งเป็นสารเมือกมีอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อถูกน้ำหรือนำมาแช่ในน้ำจะพองตัวออกและขยายตัวเป็นวุ้นคล้ายกับเยลลี่สีน้ำตาล นำมารับประทานได้ เพราะเชื่อว่าสามารถช่วยลดความอ้วน ล้างไขมันในลำไส้ และช่วยในการขับถ่ายได้ดี ซึ่งเนื้อวุ้นลูกสำรองจะประกอบไปด้วย (ผลวิเคราะห์โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย) คาร์โบไฮเดรต 68.59%, โปรตีน 8.45%, ไขมัน 0.11%, ใยอาหาร 3.97%, เถ้า 8.01%, แคลเซียม 0.25%, ฟอสฟอรัส 0.20%, ธาตุเหล็ก 0.007%, โซเดียม 0.12%, โพแทสเซียม 0.14%

ประโยชน์ของลูกสำรองต่อสุขภาพ

1. ลูกสำรองเป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่ใส่ใจสุขภาพและรูปร่าง เนื่องจากวุ้นจากเนื้อของผลแก่มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้ เนื่องจากมีเส้นใยอาหารมาก จึงช่วยทำให้อิ่มท้องได้นาน

2.ในวุ้นสำรองมีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำ ช่วยดูดซับไขมัน น้ำตาล สารต่าง ๆ (รวมถึงสารที่มีประโยชน์อื่น ๆ อย่างเช่น วิตามินและเกลือแร่ไปด้วย) จึงมีส่วนช่วยชะลอการดำเนินของโรคเบาหวานและโรคไขมันในเลือดสูง 

3.ช่วยลดอาการท้องผูกและขับถ่ายได้คล่อง เพราะเนื้อวุ้นช่วยไปเพิ่มปริมาณของใยอาหาร ทำให้มีการบีบรูดของลำไส้เพื่อขับเป็นอุจจาระได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งข้อมูลทางเภสัชวิทยา พบว่าสำรองเป็นพืชในวงศ์ STERCULIACEAE สามารถนำไปใช้เป็นยาระบายได้ โดย Srivastava GS และคณะ ได้ทำการศึกษาการใช้พืชในวงศ์นี้เดี่ยวๆ ในขนาด 10 กรัม มาใช้กับผู้ป่วยที่ท้องผูกจำนวน 50 ราย เป็นระยะเวลา 1 เดือน พบว่าผู้ป่วยหายจากอาการท้องผูกจำนวน 47 คน

4.ช่วยลดคอเลสเตอรอล ความดันโลหิต ไขมันในลำไส้ และช่วยลดสารพิษตกค้างได้ โดยให้รับประทานในช่วงก่อนนอน จะช่วยในการขับถ่ายตอนเช้า กากใยที่รับประทานเข้าไปจะไปช่วยชะล้างไขมันที่สะสมอยู่ในลำไส้ ทำให้ลำไส้ใหญ่สะอาดขึ้น

5.ช่วยแก้อาการร้อนในกระหายน้ำ โดยใช้รับประทานทั้งเนื้อและน้ำ วันละ 3 ครั้ง

6.ช่วยแก้พิษได้

โทษของลูกสำรอง

แม้ว่าจะยังไม่มีรายงานเรื่องโทษของลูกสำรอง แต่หากนำมาเพื่อรับประทานแทนอาหารมื้อหลัก อาจส่งผลทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น และการรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารต่าง ๆ โดยเฉพาะวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดลดลงได้ อีกทั้งการดื่มน้ำสำรองที่มีจำหน่ายในท้องตลาดอาจจะมีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณมาก ซึ่งเหตุนี้อาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูง และส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ ทางที่ดีหากทำรับประทานเองและควบคุมปริมาณความหวานที่ใส่ลงไปได้จะดีกว่า

วิธีรับประทานลูกสำรอง

นำเอาผลไปแช่น้ำ แล้วเนื้อที่หุ้มเมล็ดจะพองออกมาคล้ายวุ้น โดยขยายใหญ่กว่าขนาดเดิมเกือบ 10 เท่า จนบางคนเรียกลูกสำรองนี้ว่า "พุงทลาย" เวลากินก็นำวุ้นนี้มาเติมน้ำตาล หรือจะทำเป็นน้ำสำรองดื่มคลายร้อนก็ได้เช่นกัน

วิธีทำน้ำสำรอง


1.นำลูกสำรองไปล้างน้ำให้สะอาด
2.นำไปแช่ในน้ำทิ้งไว้ประมาณ 8-12 ชั่วโมง โดยพยายามกดให้ลูกสำรองจมน้ำ เพื่อจะได้พองออกมามากที่สุด
3.เมื่อลูกสำรองพองออกแล้วจะเห็นเป็นวุ้นลอยอยู่ ให้คัดเอาเมล็ดออก
4.นำวุ้นที่ได้มาใส่ในตะแกรงตาถี่ เปิดน้ำไล่น้ำเก่าออกจนเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีใส
5.ตักเอาวุ้นมาใส่ผ้ากรอง แล้วรวบผ้าบีบรูดเอากากออก เก็บเอาเฉพาะเนื้อวุ้นไว้
6.นำวุ้นที่ได้ไปต้ม ระหว่างต้มก็คอยคนอย่าให้เนื้อวุ้นติดก้นหม้อด้วย และให้ใส่น้ำตาลทราย น้ำเชื่อม หรือหญ้าหวานตามแต่ต้องการ

เวลาที่เหมาะแก่การรับประทาน  (ที่มา : กินลืมป่วย)

-03.00-05.00 ช่วยบำรุงปอด
-05.00-07.00 ช่วยบริหารและบำรุงลำไส้ใหญ่
-07.00-09.00 ช่วยรักษาและเคลือบกระเพาะอาหาร
-09.00-11.00 ช่วยดูดซับไขมันในลำไส้และในกระเพาะอาหาร ลดไขมันหน้าท้องได้ดี,
-ช่วงบ่ายถึงเย็น ช่วยบำรุงไต
-ช่วงหลังเวลา 19.00 หากดื่มคู่กับน้ำดอกคำฝอย จะช่วยลดไขมันในเลือด
-ช่วงก่อนเข้านอน หากรับประทานช่วงนี้จะช่วยในการขับถ่ายได้ดีในตอนเช้า
ข้อมูลประกอบ : medthai.com, puechkaset.com
ภาพประกอบ : http://www.phargarden.com



กำลังโหลดความคิดเห็น