จากหุ่นพัง ร่างแย่ กลายเป็น “ตัวแม่” เรื่องดูแลสุขภาพ “บุ๊คกี้-ศุภานุช มณีเนตร”

จากสาวหุ่นพัง สุขภาพแย่ และเคยกินยาลดน้ำหนักมาหลากหลายยี่ห้อ แต่ปัจจุบันเธอกลายเป็นคนที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพไปแล้ว บุ๊คกี้-ศุภานุช มณีเนตร

เจ้าของเพจสุขภาพชื่อว่า booky healthyworld ที่มีคนติดตามเป็นหลักแสน อีกทั้งเธอยังไปสอบจนได้เป็น ACE Certified Personal เพื่อที่จะได้ให้ความรู้เรื่องสุขภาพได้อย่างถูกต้องอีกด้วย

• ก่อนจะมาเป็นเจ้าของเพจ booky healthyworld เพจสุขภาพที่มีคนติดตามเป็นหลักแสน เห็นว่าเคยหุ่นพัง สุขภาพแย่มาก่อน

ขอเล่าย้อนไปเมื่อสามปีที่แล้ว ตอนนั้นบุ๊คหนักอยู่ที่ 60 กว่ากิโลกรัม ที่น้ำหนักเยอะเนื่องจากนิสัยส่วนตัวเป็นคนชอบกินมากๆ อยู่แล้ว แล้วพอเข้ามหาวิทยาลัย มันก็เลยเหมือนเป็นการได้รับอิสระทางด้านการกินมากขึ้นค่ะ เพราะเมื่อก่อนแม่จะคอยห้ามไม่ให้กินพวกขนมถุง ของทอด ของมันเลย แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยเราต้องหอคนเดียว บุ๊คเลยกินทุกอย่างที่อยากกินเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เค้ก ไอศกรีม พิซซ่า ไก่ทอด เฟรนฟราย เบคอน น้ำหวาน ช็อคโกแลต ขนมกรุบกรอบ อะไรที่อร่อยจะกินหมด แม้ว่าจะอิ่มแล้วก็ยังยัดเข้าไปได้ หรือดึกดื่นแค่ไหน เที่ยงคืนแล้วก็ยังสามารถกินได้เรื่อยๆ โดยที่ขณะนั้นบุ๊คก็ไม่ได้ออกกำลังกาย

เนื่องจากเราใช้ชีวิตแค่ กิน เรียน นอนเท่านั้น เลยทำให้ขนาดตัวขยายขึ้นเรื่อยๆ จนพ่อแม่ เพื่อน คนรอบข้างทัก ที่เห็นชัดเลยคือเสื้อผ้าเปลี่ยนไซส์ สิวบุก ป่วยบ่อย เริ่มมีอาการภูมิแพ้เข้ามาเยือน ทำอะไรนิดหน่อยก็เหนื่อยง่าย รู้สึกไม่สดชื่นเลย

พอรู้สึกว่าตัวเองหุ่นพัง สุขภาพแย่ บุ๊คก็เลยหาวิธีลดความอ้วนเลยค่ะ ซึ่งวิธีแรกที่เข้ามาในหัวเป็นวิธีที่นิยมมากๆ ในยุคนั้น นั่นก็คือการกินยาลดความอ้วนค่ะ

• ใช้วิธีลดน้ำหนักโดยวิธีทานยาลดความอ้วนเป็นอันดับแรก?

ตอนนั้นบุ๊คคิดว่าเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลเร็วที่สุด ช่วงนั้นการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารยังไม่เป็นที่นิยมอย่างตอนนี้ ดังนั้นบุ๊คก็เริ่มสั่งยาลดความอ้วนมากิน แต่ก่อนจะกินบุ๊คหาข้อมูลอยู่พอสมควรเลยนะคะ ทั้งถามเพื่อนที่กิน ทั้งเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ ปลอดภัย และมีรีวิวเยอะๆ

พอกินแล้วผลลัพธ์ที่ได้จากการกินยาลดความอ้วนนี่มันเร็วจริงๆ นะคะ เพราะหลังจากที่บุ๊คเริ่มกินไปวันถึงสองวัน ออกอาการเลยค่ะ นั่นคือ เวียนหัว ใจสั่น ไม่อยากอาหาร คอแห้ง หิวน้ำ รู้สึกง่วงแต่นอนไม่หลับ เรียนหนังสือไม่รู้เรื่องเลย แต่ถึงแม้จะมีอาการแบบนี้ก็ยังไม่ล้มเลิกความพยายามนะคะ เราจะชอบคิดไปเองว่า เราอาจจะไม่ถูกกับยาตัวนี้หรือเปล่า ลองยาตัวอื่นดูดีกว่าไหม ก็ซื้อลองไปเรื่อยๆ รวมๆ นี่หมดไปหลายพันบาทเหมือนกันค่ะ แต่ผลที่ได้ก็คือมีอาการแบบเดิมและค่อยๆ แย่ลงกว่าเดิม

หลังจากนั้นทำให้บุ๊คหันกลับมาคิดเลยว่าถ้าเราฝืนกินต่อไปเราอาจจะอยู่ได้ไม่นาน ต้องตายก่อนเรียนจบแน่ๆ ก็เลยหยุดกิน แล้วสัญญากับตัวเองว่า ชีวิตนี้เราจะไม่ใช้ยาลดความอ้วนอีกแล้ว!

• ทานยาลดความอ้วนแต่ไม่ได้ผล แถมสุขภาพยังแย่ลงยิ่งกว่าเดิม แบบนี้มาค้นพบการลดน้ำหนักที่ถูกต้องได้ยังไงคะ

หลังจากที่กินยาลดความอ้วนไม่ได้ผล บุ๊คก็ศึกษาหาข้อมูลด้วยตัวเองจึงค้นพบว่าการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย คือวิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติที่ได้ผลและยั่งยืนที่สุดค่ะ

หลังจากพอรู้หลักแล้วเราก็เริ่มลงมือทำเลย โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของตัวเอง จากที่เมื่อก่อนชอบกินของมัน ของทอด ของหวาน อาหารจังก์ฟู้ด ก็พยายามค่อยๆ ลดปริมาณการกินลงเรื่อยๆ แล้วเปลี่ยนเป็นกินอาหารที่ผ่านกระบวนการ นึ่ง ต้ม ยำ แทน บุ๊คไม่เคยอดอาหาร แต่เวลากินแต่ละมื้อต้องได้สารอาหารครบห้าหมู่ เน้นโปรตีนและผักใบเขียวในเยอะๆ เช่น ยำวุ้นเส้น สุกี้ไก่ ผัดผักรวม สลัดทูน่า ของหวานก็จะกินผลไม้แทน บางครั้งถ้ามีเวลา เราก็จะซื้อของสดมาทำอาหารกินเอง เพราะได้ลองนู่น ประยุกต์นี่ ปรุงตามความชอบของตัวเอง และที่สำคัญการทำเองทำให้ได้เลือกวัตถุดิบที่ดี มีคุณภาพ สดใหม่ และสะอาดด้วยค่ะ

ส่วนต่อมาที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการออกกำลังกายค่ะ ซึ่งบุ๊คเริ่มจากการวิ่งรอบสนามกีฬาที่มหาวิทยาลัย และเล่นบอดี้เวทเพื่อบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ให้กระชับ โดยบุ๊คจะเปิดยูทิวบ์ช่องสอนออกกำลังกายของต่างประเทศแล้วทำท่าออกกำลังกายตามไปเรื่อยๆ ช่วงแรกที่เริ่มต้นออกกำลังกายยอมรับเลยว่าเหนื่อยและท้อมาก เพราะบุ๊คไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ออกแค่ 5 นาทีก็จะไม่ไหวแล้ว แต่ก็พยายามฮึดใจสู้ค่ะ พอไม่ไหวก็พัก แล้วทำต่อ พอทำไปเรื่อยๆ บ่อยๆ เข้า ในที่สุดหัวใจและกล้ามเนื้อก็แข็งแรงขึ้น สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้นเองโดยที่ไม่เหนื่อยมากเหมือนเมื่อก่อน

ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือภายในระยะเวลา 6 เดือนน้ำหนักลดไป 10 กว่ากิโลกรัม มีสุขภาพดีขึ้น ไม่ป่วยบ่อย และหุ่นก็เป็นทรวดทรงมากยิ่งขึ้น ขึ้นแบบเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะ

• 6 เดือนน้ำหนักลดลง 10 กว่ากิโลกรัม แรกๆ ทำยากไหมคะ เคยมีช่วงที่ท้อหรือล้มเลิกความตั้งใจบ้างหรือเปล่า

แน่นอนว่าการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ มักยากเสมอ ทั้งเรื่องออกกำลังกายและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน พอทำไปนานๆ จะรู้สึกเหนื่อย ท้อแท้ ไม่อยากลดแล้ว แต่พอท้อบุ๊คจะคิดถึงเป้าหมายไว้เลยค่ะ อย่างตอนนั้นบุ๊คอยากใส่เสื้อผ้าสวยๆ แบบผู้หญิงคนอื่นได้ อยากสุขภาพดีแข็งแรงไม่ป่วยบ่อย บุ๊คก็พยายามเอาเป้าหมายตรงนี้มาเตือนตัวเอง เวลาอยากกินของอ้วนๆ หรือตอนขี้เกียจออกกำลังกาย เราจะพยายามถามตัวเองอยู่เสมอว่าเราอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมเหรอ? เราโอเคกับแบบนั้นใช่ไหม? มันเลยทำให้บุ๊คคิดได้ว่าถ้าเราอยากเปลี่ยนแปลงจริงๆ เราต้องสู้ต่อไป เพราะไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ โดยไม่ใช้ความพยายามหรอกค่ะ

• แล้วปัจจุบันนี้สุขภาพเป็นยังไงบ้างคะ

ตอนนี้บุ๊คหนักประมาณ 56 กิโลกรัม น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างเยอะจากช่วงที่ลดช่วงแรก เพราะบุ๊คออกกำลังกายหนักขึ้น เล่นเวทมากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น แต่หุ่นก็ดูดีขึ้นกว่าเดิมด้วย ดังนั้นเลยไม่อยากให้สาวๆ ไปโฟกัสที่น้ำหนักจนเกินไป ดูที่สัดส่วนจะถูกต้องกว่าค่ะ

การออกกำลังกายตอนนี้ของบุ๊คก็จะออกหลายรูปแบบมากทั้ง วิ่ง ว่ายน้ำ ยกเวท เต้น ตีแบด เพราะบุ๊คมองว่าเราควรทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องสนุก เป็นไลฟ์สไตล์ที่ไม่น่าเบื่อ สำหรับบุ๊คกการออกหลายรูปแบบสลับกันไปมามันทำให้สนุกมากขึ้นเหมือนกับการเล่นเกมเลยค่ะ

ส่วนการกินตอนนี้ก็ยังกินอาหารได้สารอาหารครบห้าหมู่ เน้นผัก โปรตีนและแป้งไม่ขัดสี ลดของทอด ของมัน ของหวาน ไม่ได้ทำเองทุกมื้อ แต่เวลาไปกินข้าวนอกบ้านก็จะพยายามเลือกกิน สั่งเมนูที่ให้สารอาหารครบถ้วน ส่วนพวกขนม ของหวาน ของทอด ของมันที่ไม่เฮลตี้ กินแล้วอ้วน บุ๊คก็ยังกินอยู่นะคะ แต่จะให้ตัวเองกินแค่สัปดาห์ละครั้งสองครั้งเท่านั้น ให้ชีวิตยังมีความสุข ไม่เครียดจนเกินไปค่ะ

• เห็นว่ามีไปเรียนเพิ่ม จนปัจจุบันกลายเป็น Personal Trainer ACE ไปแล้วด้วยใช่ไหมคะ

ใช่ค่ะ หลังจากที่ตัวเองลดความอ้วนได้สำเร็จ บุ๊คก็ทำเพจ booky healthyworld ขึ้นมา เป็นเพจสุขภาพค่ะ เพื่อที่จะแบ่งปันประสบการณ์ ความรู้ และให้แรงบันดาลใจแก่ทุกคนที่อยากลุกขึ้นมาลดความอ้วน หรือเปลี่ยนแปลงตัวเองในแบบวิธีตามธรรมชาติและปลอดภัย ซึ่งการทำเพจที่เกี่ยวกับสุขภาพทำให้บุ๊คอยากศึกษาเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น เพื่อที่จะนำข้อมูลมาแบ่งปันได้อย่างไม่ผิดพลาด บุ๊คเลยไปลงเรียนคอร์สเรื่องการออกกำลังกายและการกินอาหารที่ถูกต้องที่ fit innovation thailand และไปสอบจนได้ ACE Certified Personal มาแล้วเรียบร้อยแล้วค่ะ

• ในฐานะที่เป็น ACE Certified Personal อยากให้แนะนำสำหรับคนที่อยากสุขภาพดีและมีรูปร่างที่ดีหน่อยค่ะว่าควรทำอย่างไร

อย่างแรกเลยคือต้องตั้งเป้าหมายให้ตัวเองอย่างชัดเจน เช่น ลดน้ำหนักให้ได้ 5 กิโลกรัมภายใน 2 เดือน หรือใส่กางเกงตัวเก่าไซส์ S ให้ได้ภายในปีนี้ ซึ่งการมีเป้าหมายจะเหมือนเรามีหลักยึด เอาไว้คอยเตือนสติเราอยู่เสมอค่ะ

อีกส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือต้องมีวินัย อันนี้คือสิ่งสำคัญมาก เพราะการที่จะทำให้เราสามารถควบคุมอาหารและผลักดันตัวเองให้ออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่อง เราจะต้องมีวินัยในตัวเองพอสมควร ถ้าเรามีแค่สองอย่างนี้รับรองว่าหุ่นและสุขภาพที่ดีอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนค่ะ

• จากที่เคยมีประสบการณ์ทานยาลดความอ้วนมาก่อน อยากให้เตือนหรือให้คำแนะนำสำหรับคนที่ยังใช้วิธีนี้ลดน้ำหนักอยู่หน่อยค่ะ

บุ๊คมีประสบการณ์ทั้งจากตัวเอง เพื่อน หรือลูกเพจที่เคยใช้ยาลดน้ำหนัก ซึ่งบุ๊คยังไม่เคยเจอใครที่พอใจกับผลลัพธ์ในระยะยาวของมันจริงๆ เลยสักคน บางคนที่กินแล้วเห็นผล ส่วนมากก็จะเป็นแค่ช่วงระยะเวลาที่ใช้ยาเท่านั้น พอหยุดกินก็กลับมาอ้วนเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะยังไงวิธีลดอย่างธรรมชาติ การออกกำลังกายและควบคุมอาหารคือสิ่งที่ดีที่สุด

อย่างปัจจุบันเทรนการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพตอนนี้กำลังมาแรง บุ๊คมองว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยนะคะ เพราะมันแสดงให้เห็นถึงการดูแลตัวเอง เป็นห่วงสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น รวมไปถึงการมีความรู้มากกว่าเดิม เลิกพึ่งพวกยาลดน้ำหนักเหมือนแต่ก่อน แล้วหันมาใช้วิธีธรรมชาติเพื่อที่จะได้หุ่นอย่างที่ต้องการและมีสุขภาพที่ดีแทน ซึ่งการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญมากเลยนะคะ เพราะนอกจากจะทำให้เราลดความเสี่ยงจากโรคภัยไข้เจ็บ มีร่างกายที่แข็งแรงแล้ว สุขภาพที่ดียังทำให้เราสามารถอยู่กับคนที่เรารักและทำประโยชน์ให้กับสังคมได้อีกด้วยค่ะ

5 เมนูเฮลตี้ ทำได้ง่ายๆ สไตล์บุ๊คกี้

1.ข้าวผัดปลา ทำง่ายด้วยไมโครเวฟ

วิธีทำ

1. เพียงนำข้าวกล้องหุงสุกใส่ถ้วยกระเบื้องที่ใช้เข้าไมโครเวฟได้ ตามด้วยไข่ไก่ แครอท ต้นหอม เนื้อปลา (บุ๊คใช้ปลาย่าง แต่ถ้าไม่มีสามารถใช้ทูน่าในน้ำแร่แทนได้) ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว พริกไทย แล้วคลุกให้เข้ากันในถ้วย
2. นำเข้าไมโครเวฟ 4-5 นาที ก็จะได้กินข้าวผัดแห้งๆ ไม่มีน้ำมันสักหยดแบบในรูปเลยค่ะ

เมนูนี้เหมาะกับนักศึกษาหรือสาวออฟฟิศที่อยู่หอ อุปกรณ์ทำครัวไม่เอื้ออำนวย ทำอาหารไม่เก่ง หรือไม่มีเวลาทำอาหาร ลองทำดูรับรองว่าอร่อยไม่แพ้ข้าวผัดแบบปกติเลยค่ะ

2.สุกี้น้ำอกไก่เส้นแก้ว เมนูนี้แคลอรี่ลดลงกว่าสุกี้แห้ง เพราะไม่ได้ใช้น้ำมันเลยสักหยด

วิธีทำ

1. ตั้งหม้อใส่น้ำสะอาด
2. พอน้ำเดือดใส่อกไก่ที่หมักไว้ (บุ๊คหมักอกไก่ด้วยซีอิ๊วขาว พริกป่น และพริกไทย ทิ้งไว้ข้ามคืน)
3. ใส่แครอทและเส้นแก้วลงไป (จะใช้วุ้นเส้นก็ได้ แต่เส้นแก้วให้พลังงานน้อยกว่า เส้นแก้วถุงใหญ่ให้พลังงานเพียง 10 กิโลแคลอรี่เท่านั้น) ตามด้วยผักกาดและผักบุ้งลงไป พอเริ่มสุกก็ใส่ไข่ไก่ลงไป 1 ฟอง
4. ใส่น้ำจิ้มสุกี้ตามใจชอบ โดย 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน ประมาณ 15-25 กิโลแคลอรี่แล้วแต่ยี่ห้อ คือใส่เยอะก็อ้วนนะคะ
5. เสร็จ ปิดไฟตักใส่ถ้วย กินได้

เมนูนี้ไม่ยากเลย จริงๆ ถ้าใครอยู่หอไม่มีเตา สามารถใช้ไมโครเวฟเลยก็ได้ ตอนอยู่หอบุ๊คก็ทำบ่อย แค่จับทุกอย่างมารวมกันในถ้วยกระเบื้อง แล้วเวฟ 5-7 นาที แค่นี้ง่ายๆ ชิลล์ๆ ได้อาหารเฮลตี้แคลอรี่เบาๆ กินแล้วค่ะ

3.ปังเย็นโปรตีนสูง ไขมันต่ำ เวลาอยากกินของหวานๆ เย็นๆ สดชื่นแบบได้ประโยชน์ แนะนำเมนูนี้เลย

วิธีทำ

1. ใส่เบอร์รี่รวมแช่แข็ง กล้วยหอมแช่แข็ง น้ำมะพร้าว และกรีกโยเกริ์ต มาปั่นรวมกันจนเนื้อเนียน
2. ใส่ขนมปังโฮลวีท ธัญพืชอบกรอบ และผลไม้สดตามใจชอบ ง่ายและอร่อยมากค่ะ

4.ยำปลาทูน่าแซ่บ เมนูลดน้ำหนักง่ายๆ ไม่ต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเลย

วิธีทำ

1.ใช้ทูน่าในน้ำแร่ใส่ลงชามผสม ตามด้วยหอมแดงซอย พริกสด น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลหญ้าหวาน ปริมาณที่ใส่แล้วแต่ความชอบเลย
2. จับคลุกให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ

5. พาร์เฟ่ต์โยเกิร์ตเมล็ดเจีย

วิธีทำ

1. เอาเมล็ดเจียใส่นมอัลมอนด์ผสมแก้วมังกร แล้วแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ข้ามคืน
2. เช้ามาให้นำส่วนผสมข้อ1 มาใส่กราโนล่า โยเกิร์ต แค่นี้ก็สามารถทานได้เลย

เมนูนี้ทำง่าย แถมมีประโยชน์สุดๆ เพราะมีทั้งนมอัลมอนด์ กราโนล่า โยเกิร์ต และผลไม้ ที่สำคัญก็เลยคือ เมล็ดเจีย ซึ่งหลายๆ คนคงเคยได้ยินสรรพคุณเจ้าตัวนี้กันมาแล้ว เมล็ดเจียจะอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่สูงมากกว่าปลาแซลมอนถึง 9 เท่า ช่วยบำรุงสมอง อีกทั้งยังมีแคลเซียมมากกว่านมสด มีโปรตีน ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ลดความอยากอาหารได้ด้วย ซึ่งผู้ที่เริ่มต้นไม่ควรทานเยอะ อาจจะครั้งละ 1/2 - 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ปรับตัวก่อน เพื่อป้องกันท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก

5 ท่าสร้างหุ่นสวยตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบฉบับ booky healthyworld

ท่าที่ 1 Squat

เริ่มด้วยยืนตรง แยกเท้าออกประมาณหัวไหล่ ดันสะโพกไปข้างหลังก่อนแล้วค่อยงอเข่า ย่อลงให้ต้นขาขนานกับพื้น เข่าชี้ไปทางเดียวกับปลายเท้า หลังจากนั้นดันตัวขึ้นพร้อมขมิบก้นนับเป็น 1 ครั้ง ท่านี้จะได้บริหารส่วนก้นและทำให้ต้นขากระขับขึ้น

ท่าที่ 2 Knee Push up

ท่าวิดพื้นแบบใช้เข่าวางพื้น โดยจะเป็นท่าฝึกการวิดพื้นสำหรับผู้หญิง ซึ่งทำได้ง่ายกว่า วางมือกว้างกว่าหัวไหล่ งอศอกให้อกชิดพื้นให้ได้มากที่สุด ขณะทำให้เกร็งหน้าท้อง ท่านี้จะช่วยบริหารหน้าอก หัวไหล่ และแขนได้

ท่าที่ 3 JUMPING JACK

เป็นท่ากระโดดตบเหมือนตอนเราเรียนประถมเลยค่ะ เริ่มต้นด้วยยืนเท้าชิด แขนแนบลำตัว แล้วกระโดดตบโดยมือกระทบกันเหนือศีรษะ เท้าแยกออกจากกัน 1 ก้าว กลับสู่ท่าเริ่ม ทำวนไป ท่านี้จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อขาและแขนรวมถึงเพิ่มการเต้นของหัวใจ ช่วยให้ลดไขมันได้ดีขึ้น

ท่าที่ 4 Lunge

เริ่มต้นท่านี้ด้วยการยืนตรง จากนั้นให้ก้าวขาข้างใดข้างหนึ่งไปข้างหน้า แล้วย่อตัวลง พยายามให้หลังตรง เข่าของขาที่ก้าวไปด้านหน้าต้องไม่เลยปลายเท้า ส่วนขาด้านหลังให้ย่อลงจนน่องขนานพื้น ทำซ้ำสลับข้างกันไปเรื่อยๆ ท่านี้จะได้กล้ามเนื้อส่วนก้นและขา รวมถึงแกนกลางลำตัวด้วย

ท่าที่ 5 Tricep Dip

ใช้มือวางบนพื้นให้ความกว้างอยู่ประมาณหัวไหล่ หันปลายนิ้วมือเข้าหาลำตัว กางเท้าให้อยู่ในระดับเดียวกับหัวไหล่ ยันตัวขึ้น เกร็งแขน หลังตรง แล้วย่อตัวลง ให้ศอกงอไปทางด้านหลัง ท่านี้จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อหลังแขนให้กระชับขึ้นค่ะ

เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : facebook : booky healthyworld