xs
xsm
sm
md
lg

หาวบ่อย ไม่ใช่แค่ง่วงนอน แต่อาจเป็นสัญญาณของโรคเหล่านี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ใครที่มีอาการหาวบ่อยๆ หรือง่วงนอนตอนกลางวันเป็นประจำ จริงๆ แล้วอาจไม่ใช่แค่ง่วงนอน แต่แท้จริงแล้วคุณอาจจะกำลังเผชิญกับสาเหตุเหล่านี้อยู่ก็เป็นได้

การหาว ถือได้ว่าเป็นกลไกหนึ่งของร่างกาย ที่ต้องการจะรับเอาออกซิเจนจากอากาศเข้าสู่กระแสเลือด พร้อมกันนั้นก็ช่วยขับคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดออกไป ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาความสมดุลของร่างกาย ซึ่งการหาวจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อร่างกายเรามีออกซิเจนไม่เพียงพอ หรือมีคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดมากเกินไป จนก่อให้เกิดอาการง่วง เหงา หาวนอนขึ้นมาได้นั่นเอง

ส่วนการหาวบ่อย ก็คือ อาการหาวที่เกิดขึ้นบ่อยๆ มากกว่า 1 ครั้งต่อนาที และถึงแม้ว่าสาเหตุส่วนใหญ่ของการหาวอาจมาจากความง่วง หรือความอ่อนเพลีย แต่ในบางครั้งแล้วนั้นการหาวมากจนผิดปกติอาจเป็นผลมาจากสาเหตุเหล่านี้…

-นอนหลับไม่เพียงพอ

พฤติกรรมการนอนไม่เพียงพอทำให้ส่งผลทำให้เกิดอาการง่วงนอนตอนกลางวันได้ ถึงจะดูเหมือนไม่ได้ร้ายแรงอะไร แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน รวมถึงยังก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายอย่างโรคอ้วน โรคหัวใจ หรือโรคซึมเศร้า ฯลฯ ทั้งนี้ให้ลองเช็คตัวเองดูหากเป็นเช่นนั้นควรปรับพฤติกรรมการนอนและจัดตารางการนอนใหม่ โดย 1 วันควรนอนให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงจะดีที่สุด

-นอนไม่หลับ

เป็นอาการที่ร่างกายรู้สึกอยากจะนอน แต่ไม่สามารถหลับได้ อาจจะใช้เวลานานกว่าปกติ หลับไปแล้วแต่ตื่นเร็ว หรือตื่นขึ้นมากลางดึก แล้วไม่สามารถนอนหลับต่อไปได้ ทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย พักผ่อนไม่เต็มที่ ดังนั้นควรเข้านอนให้เป็นเวลาเพื่อให้ร่างกายชิน และควรงดเครื่องดื่มที่มีสารออกฤทธิ์กระตุ้นสมอง เช่น สารคาเฟอีนที่มีอยู่ในชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นต้น แต่หากอยากดื่มควรเลือกดื่มก่อน 14.00 น. เพราะถ้าดื่มหลัง 14.00 น. อาจทำให้ร่างกายมีปัญหานอนไม่หลับได้

- กลุ่มคนที่รับประทานยา เช่น กลุ่มยารักษาโรคซึมเศร้า หรือกลุ่มยารักษาภาวะวิตกกังวล อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียง มีอาการง่วงซึม นอนไม่หลับได้

ภาวะอาการป่วยรุนแรงที่อาจทำให้เกิดอาการหาวบ่อย ๆ ได้แก่

-โรคปลอกประสาทอักเสบชนิด MS (multiplesclerosis) เกิดจากปลอกหุ้มเส้นประสาทภายในระบบประสาทส่วนกลางได้รับความเสียหายหรือถูกทำลาย ผู้ป่วยโรคนี้จะรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ เนื่องจากการนำสัญญาณของเส้นประสาทจากสมองส่วนต่างๆ ของร่างกายได้เสียไป จึงส่งผลให้เกิดอาการหาวบ่อยได้

-เนื้องอกในสมอง เกิดจากเนื้อที่เกิดจากการเจริญเติบโตอย่างผิดปกติของเซลล์ในสมองหรือบริเวณเนื้อเยื่อและต่อมต่างๆ บริเวณใกล้เคียงกับสมอง ซึ่งอาจรบกวนระบบประสาทและการทำงานของสมอง ซึ่งได้มีผลการวิจัยจากวารสาร Neurosurgery and Psychiatry พบว่าผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของเนื้อเยื่อสมองมักจะมีอาการหาวบ่อย เนื่องมาจากอาจเกิดจากระบบประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหวถูกกดทับ ทำให้เลือดส่งออกซิเจนมาเลี้ยงสมองได้ลำบาก จนร่างกายต้องรับออกซิเจนเพิ่มด้วยการหาวบ่อยๆ

-โรคหลอดเลือดสมอง คือภาวะที่เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ ทำให้สมองขาดเลือดและออกซิเจน และเหตุนี้อาจทำให้เกิดอาการหาวบ่อยได้ แต่นอกจากนี้โรคนี้อาจมีหลายอาการร่วมกัน เช่น ร่างกายอ่อนแรง มีอาการอัมพฤกษ์ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย, มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว, เห็นภาพซ้อน, มึนงงอย่างรุนแรง เป็นต้น อาการเหล่านี้จะกินเวลานาน หลังจากนั้นอาการจะหายไป ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนบอกถึงอันตรายควรรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด

-โรคลมชัก เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์สมองบริเวณผิวสมอง ทำให้สมองทำงานผิดปกติไป จึงส่งผลให้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และอาการหาวบ่อยก็เป็นหนึ่งในความผิดปกติของผู้ป่วยโรคนี้ได้เช่นกัน

-ตับทำงานล้มเหลว (ตับวาย) เป็นภาวะที่เกิดจากตับสูญเสียการทำงานจนส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆ ขึ้น ซึ่งอาการหาวบ่อยมักพบได้ในผู้ป่วยโรคตับวายในระยะที่อาการเริ่มรุนแรงแล้ว เพราะเนื่องจากผู้ป่วยโรคนี้จะมีอาการอ่อนเพลีย นอนไม่ค่อยหลับ จึงเกิดอาการหาวบ่อยๆ ได้

-กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน เป็นภาวะที่มีลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ หัวใจจะขาดเลือดและออกซิเจน ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจตายได้ หากมีอาการหาวบ่อยผิดปกติร่วมกับรู้สึกเจ็บหน้าอก จุกแน่นหน้าอก หายใจได้สั้นลง ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงหลังมีอาการ เพราะอาจอันตรายถึงชีวิตได้


วิธีแก้อาการหาวบ่อย

1.หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล เพราะการรับประทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลมากจนเกินไป เป็นตัวการที่ทำให้ร่างกายง่วงซึมได้ เพราะตับอ่อนจะส่งอินซูลินออกมาเพื่อย่อยน้ำตาลเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ก่อให้เกิดอาการง่วงนอนตามมานั่นเอง
3.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและเป็นเวลา ให้ได้อย่างน้อย  7-8 ชั่วโมงต่อวัน
4.ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย
5.หากใครเป็นมนุษย์ออฟฟิศอย่ามัวนั่งแต่หน้าคอมพิวเตอร์ ให้หาเวลาเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อผ่อนคลายบ้าง
6.งดหรือลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มคาเฟอีน

อย่างไรก็ตามหากใครที่มีอาการหาวบ่อยๆ ก็อย่าเพิ่งกังวลใจไป ให้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหลับพักผ่อนและสังเกตอาการต่างๆ ของตัวเองร่วมด้วย ซึ่งหากว่าลองทำแล้วแต่ยังพบว่ามีอาการหาวบ่อยเช่นเดิม ให้ไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการดังกล่าวจะดีที่สุด หรือหากมีอาการหาวบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากโรคหรือภาวะเจ็บป่วยที่รุนแรง เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน โรคลมชัก ตับวาย ฯลฯ ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์อย่างถูกต้องและเร่งด่วน
ขอบคุณข้อมูลประกอบบางส่วนจาก : www.pobpad.com



กำลังโหลดความคิดเห็น