เทศกาลกินเจ จะตรงกับเดือน 9 หรือเดือน 10 ของทุกปี โดยการกินจะต้องงดเนื้อสัตว์ อีกทั้งต้องไม่กินผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากเนื้อสัตว์เลย แต่การที่ไม่กินเนื้อสัตว์เลยนั้นอาจจะส่งผลทำให้ร่างกายขาดสารอาหารประเภทโปรตีนที่เป็นสิ่งสำคัญในการทำงานของร่างกาย ซึ่งหากกินไม่ถูกวิธีอาจจะทำให้ขาดสารอาหารได้ แล้วจะกินอย่างไรให้ถูกวิธี?
มีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยบราวน์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ค้นพบว่าการกินเจหรือมังสวิรัตินั้นสามารถได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนได้เช่นกัน แต่ว่าคนที่กินเจหรือมังสวิรัติจะต้องเน้นอาหารบางชนิดและจะต้องกินในปริมาณที่มากเป็นพิเศษ ซึ่งมีดังต่อไปนี้
1. โปรตีน เป็นอาหารชนิดแรก ที่คนกินเจหรือมังสวิรัติต้องทานให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย มีพืชบางชนิดที่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี เช่น ถั่ว เมล็ดพืช เห็ดต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามโปรตีนในพืชถ้านำไปเทียบกับเนื้อสัตว์ในปริมาณที่เท่ากันพบว่าในพืชนั้นมีโปรตีนที่น้อยกว่า ซึ่งควรจะบริโภคพืชที่มีโปรตีนในปริมาณที่มากขึ้น และควรบริโภคพืชที่ให้โปรตีนหลากหลายชนิดต่ออาหารหนึ่งมื้อ
2. แคลเซียม ผู้ใหญ่ที่มีอายุอยู่ในช่วง 19-50 ปี ควรได้รับแคลเซียมในปริมาณ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือคิดเป็นการดื่มนมหรือโยเกิร์ตวันละ 3 แก้ว หรือ 3 ถ้วยต่อวัน พืชที่ถือว่าเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดีสำหรับคนกินเจ ได้แก่ ผักโขม คะน้า บล็อคโคลี นมถั่วเหลือง เมล็ดดอกทานตะวัน เป็นต้น
3. วิตามินดี ซึ่งสามารถช่วยทำให้ร่างกายของคนเราดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ได้รับวิตามินดีให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย คนที่กินเจต้องเน้นการดื่มนมถั่วเหลืองและการออกกำลังกายกลางแจ้งให้มากขึ้น หรืออาจจะกินวิตามินดีเสริมได้เช่นกัน
4. วิตามินบี 12 ซึ่งเป็นสารอาหารที่ค่อนข้างที่จะสำคัญ เพราะร่างกายของเรานั้นต้องการ วิตามินบี 12 ในการสร้างเม็ดเลือดแดง สังเคราะห์ DNA และช่วยในการเผาผลาญ วิตามินบี 12 สามารถพบในพืช เช่น ข้าวซ้อมมือ เมล็ดพืช ถั่วหมัก และผักใบสีเขียวแก่
5. ธาตุเหล็ก จะช่วยในการบำรุงและสร้างเม็ดเลือดแดง บำรุงสมอง และสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ซึ่งพืชที่สามารถให้ธาตุเหล็ก ได้แก่ บล๊อคโคลี ตำลึง ผักโขม คะน้า และยังพบธาตุเหล็กในกล้วยอีกด้วย
การกินเจให้ครบทั้ง 9 วันนั้นเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้ร่างกายขับสารพิษออกมาได้หมด ทำให้ไม่มีสารพิษใดๆ ตกค้าง และเมื่อกินเป็นประจำ โลหิตจะถูกฟอกให้สะอาดขึ้นเรื่อยๆ เซลล์ต่างๆ ของร่างกายจะเสื่อมช้าลง ทำให้อายุยืนยาว ผิวพรรณสดชื่น ผ่องใส นัยน์ตาแจ่มใสไม่พร่ามัว ร่างกายแข็งแรง รู้สึกเบาสบาย ไม่อึดอัด มีสุขภาพอนามัยดี และยังทำให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้ดี ร่างกายจะเกิดการต่อต้านสารพิษต่างๆ ที่เข้ามาในร่างกายทำให้ร่างกายขับสารออกมาได้ดีและเร็วขึ้นอีกด้วย ดังนั้นการกินเจให้ได้ประโยชน์สูงสุด จะต้องเลือกกินให้ดี ศึกษาการกินเจให้เข้าใจ เพื่อที่จะไม่ทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ไม่เช่นนั้นร่างกายก็จะเกิดผลเสียมากกว่าที่จะได้รับผลดี
____________________________________________
ข่าวโดย : ธัญลักษณ์ อุ่มเจริญ
ข้อมูลประกอบบางส่วน : www.thaihealth.or.th , www.honestdocs.co
มีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยบราวน์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ค้นพบว่าการกินเจหรือมังสวิรัตินั้นสามารถได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนได้เช่นกัน แต่ว่าคนที่กินเจหรือมังสวิรัติจะต้องเน้นอาหารบางชนิดและจะต้องกินในปริมาณที่มากเป็นพิเศษ ซึ่งมีดังต่อไปนี้
1. โปรตีน เป็นอาหารชนิดแรก ที่คนกินเจหรือมังสวิรัติต้องทานให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย มีพืชบางชนิดที่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี เช่น ถั่ว เมล็ดพืช เห็ดต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามโปรตีนในพืชถ้านำไปเทียบกับเนื้อสัตว์ในปริมาณที่เท่ากันพบว่าในพืชนั้นมีโปรตีนที่น้อยกว่า ซึ่งควรจะบริโภคพืชที่มีโปรตีนในปริมาณที่มากขึ้น และควรบริโภคพืชที่ให้โปรตีนหลากหลายชนิดต่ออาหารหนึ่งมื้อ
2. แคลเซียม ผู้ใหญ่ที่มีอายุอยู่ในช่วง 19-50 ปี ควรได้รับแคลเซียมในปริมาณ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือคิดเป็นการดื่มนมหรือโยเกิร์ตวันละ 3 แก้ว หรือ 3 ถ้วยต่อวัน พืชที่ถือว่าเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดีสำหรับคนกินเจ ได้แก่ ผักโขม คะน้า บล็อคโคลี นมถั่วเหลือง เมล็ดดอกทานตะวัน เป็นต้น
3. วิตามินดี ซึ่งสามารถช่วยทำให้ร่างกายของคนเราดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ได้รับวิตามินดีให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย คนที่กินเจต้องเน้นการดื่มนมถั่วเหลืองและการออกกำลังกายกลางแจ้งให้มากขึ้น หรืออาจจะกินวิตามินดีเสริมได้เช่นกัน
4. วิตามินบี 12 ซึ่งเป็นสารอาหารที่ค่อนข้างที่จะสำคัญ เพราะร่างกายของเรานั้นต้องการ วิตามินบี 12 ในการสร้างเม็ดเลือดแดง สังเคราะห์ DNA และช่วยในการเผาผลาญ วิตามินบี 12 สามารถพบในพืช เช่น ข้าวซ้อมมือ เมล็ดพืช ถั่วหมัก และผักใบสีเขียวแก่
5. ธาตุเหล็ก จะช่วยในการบำรุงและสร้างเม็ดเลือดแดง บำรุงสมอง และสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ซึ่งพืชที่สามารถให้ธาตุเหล็ก ได้แก่ บล๊อคโคลี ตำลึง ผักโขม คะน้า และยังพบธาตุเหล็กในกล้วยอีกด้วย
การกินเจให้ครบทั้ง 9 วันนั้นเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้ร่างกายขับสารพิษออกมาได้หมด ทำให้ไม่มีสารพิษใดๆ ตกค้าง และเมื่อกินเป็นประจำ โลหิตจะถูกฟอกให้สะอาดขึ้นเรื่อยๆ เซลล์ต่างๆ ของร่างกายจะเสื่อมช้าลง ทำให้อายุยืนยาว ผิวพรรณสดชื่น ผ่องใส นัยน์ตาแจ่มใสไม่พร่ามัว ร่างกายแข็งแรง รู้สึกเบาสบาย ไม่อึดอัด มีสุขภาพอนามัยดี และยังทำให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้ดี ร่างกายจะเกิดการต่อต้านสารพิษต่างๆ ที่เข้ามาในร่างกายทำให้ร่างกายขับสารออกมาได้ดีและเร็วขึ้นอีกด้วย ดังนั้นการกินเจให้ได้ประโยชน์สูงสุด จะต้องเลือกกินให้ดี ศึกษาการกินเจให้เข้าใจ เพื่อที่จะไม่ทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ไม่เช่นนั้นร่างกายก็จะเกิดผลเสียมากกว่าที่จะได้รับผลดี
____________________________________________
ข่าวโดย : ธัญลักษณ์ อุ่มเจริญ
ข้อมูลประกอบบางส่วน : www.thaihealth.or.th , www.honestdocs.co
