xs
xsm
sm
md
lg

เม็ดแมงลัก จิ๋วแต่แจ๋ว เหมาะกับคนอยากลดน้ำหนัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แมงลักจัดเป็นพืชตระกูลเดียวกับกะเพราและโหระพา นิยมนำมาใช้ทำอาหาร โดยเฉพาะตรงส่วนใบแมงลักและเม็ดแมงลัก ซึ่งหลายคนอาจจะรู้จักและเคยรับประทานตรงส่วนเม็ดแมงลัก เพราะหาซื้อง่าย มีประโยชน์ และมากสรรพคุณทางยา แถมว่ากันว่าช่วยในเรื่องลดน้ำหนักด้วย

ประโยชน์ของเม็ดแมงลัก

ลดคอเลสเตอรอล ซึ่งจะไปลดเฉพาะคอเลสเตอรอลไม่ดี (LDL) แต่ไม่มีผลใด ๆ กับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) 
ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน และช่วยควบคุมน้ำหนัก เพราะเม็ดแมงลักสามารถสามารถพองตัวได้มากถึง 45 เท่า ช่วยให้อิ่มเร็ว อิ่มท้องนาน และลดการอยากอาหารได้

เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เพราะช่วยทำให้การดูดซึมน้ำตาลลดลง

เป็นยาระบายที่ดีมากๆ สามารถช่วยชำละล้างลำไส้ ขับถ่ายดี  และยังช่วยดีท็อกซ์แก้ปัญหาอุจจาระตกค้างได้

หากรับประทานเป็นประจำจะลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

วิธีรับประทานเม็ดแมงลัก

นำเม็ดแมงลักประมาณ 2 ช้อนชานำมาแช่น้ำ 1 แก้วใหญ่ทิ้งไว้จนพองตัวเต็ม ควรแช่ไว้ประมาณ 30-45 นาที แล้วนำมาผสมกับน้ำร้อน หรือจะเติมน้ำผึ้งเข้าไปเพิ่มรสชาติด้วยก็ได้ หรือจะเป็นน้ำสมุนไพร หรือนมก็ได้เช่นกัน แต่ไม่ควรรับประทานกับน้ำหวานเพราะจะทำให้น้ำหนักขึ้นได้

สูตรนี้จะเน้นการขับถ่าย นำเม็ดแมงลัก 1-2 ช้อนชา แช่น้ำเปล่า 1 แก้วใหญ่ ทิ้งไว้จนกว่าจะพองเต็มที่ แล้วนำมารับประทานก่อนนอน สูตรนี้สามารถทานได้ทุกวัน

สูตรนี้จะช่วยในเรื่องการลดน้ำหนัก ใช้เม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา แช่ในน้ำ 1 แก้วใหญ่ (สำหรับคนที่น้ำหนัก 50-60 กิโลกรัม) ถ้าน้ำหนักมากกว่านี้ให้เพิ่มตามความเหมาะสม แช่ทิ้งไว้ให้เม็ดแมงลักพองเต็มที่ นำมารับประทานก่อนอาหาร หรือทดแทนอาหารเป็นบางมื้อ
ภาพจาก : www.manager.co.th
ข้อควรระวัง

ไม่ควรทานดิบๆ และก่อนรับประทาน ให้แช่เม็ดแมงลักจนพองตัวเต็มที่ก่อน ไม่เช่นนั้นจะทำให้ท้องผูก และท้องอืดได้

ไม่ทานแทนมื้ออาหาร ควรรับประทานแค่บางมื้อเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะทำให้ขาดสารอาหารได้

ไม่รับประทานกับยา เพราะจะทำให้ร่ายกายดูดซึมยาเหล่านั้นได้น้อยลง

การเลือกซื้อก็สำคัญ ควรเลือกซื้อเม็ดแมงลักที่มีบรรจุภัณฑ์ปิดมิดชิด สะอาด และได้มาตรฐาน เพราะอาจจะมีการปนเปื้อนเชื้อราหรือสารพิษ อย่างเช่น สารอะฟลาทอกซิน ซึ่งสารดังกล่าวหากบริโภคเป็นจำนวนมากอาจทำให้อาการท้องเดิน อาเจียนได้

ความแตกต่างระหว่างเม็ดแมงลักกับเมล็ดเจีย ซึ่งหลายคนอาจจะยังเข้าใจผิดว่าเมล็ดพืชทั้งสองอย่างเหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วนั้นไม่ใช่ เพราะ

เมล็ดเจียจะมีลักษณะรี มีสีน้ำตาลเทา ถ้านำไปแช่น้ำแล้วจะพองเป็นเม็ดใส ส่วนเม็ดแมงลักจะเป็นเม็ดรี มีสีดำเข้ม แช่น้ำแล้วพองตัวแล้วเม็ดจะมีเมือกสีขาวขุ่น

ทั้งสองชนิดต่างกันในเรื่องราคา เพราะเม็ดแมงลักถูกกว่าเนื่องจากเป็นสินค้าในประเทศ ส่วนเมล็ดเจียบางยี่ห้อเป็นสินค้านำเข้าจึงมีราคาแพงกว่า

ต่างกันในเรื่องโภชนาการ เช่น เม็ดแมงลักให้พลังงานน้อยกว่าเมล็ดเจีย ซึ่งเม็ดแมงลัก 100 กรัมให้พลังงาน 420 กิโลแคลอรี่ ส่วนเมล็ดเจีย 100 กรัมให้พลังงาน 486 กิโลแคลอรี่

เมล็ดเจียไฟเบอร์สูงกว่าเม็ดแมงลัก โดย 100 กรัม เม็ดแมงลักมีไฟเบอร์ 1.6 กรัม ส่วนเมล็ดเจียมีไฟเบอร์ 37.7 กรัม ส่วนคุณค่าทางอาหารอื่นๆ อย่าง คาร์โบไฮเดรต เม็ดแมงลัก 100 กรัม มีคาร์โบไฮเดรต 2.65 กรัม ส่วนเมล็ดเจีย 100 กรัม มีคาร์โบไฮเดรต 43.9 กรัม และเม็ดแมงลัก 100 กรัม มีโปรตีน 3.15 กรัม เมล็ดเจีย 100 กรัม มีโปรตีน 15.6 กรัม

เมล็ดเจียกับเม็ดแมงลักมีสรรพคุณ เหมือนกันตรงที่ ช่วยลดน้ำหนัก บำรุงหัวใจ เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน

กำลังโหลดความคิดเห็น