มะม่วงหาว มะนาวโห่ ถูกเรียกเพี้ยนมาจาก “มะม่วงไม่รู้หาวมะนาวไม่รู้โห่” หรือหลายคนอาจจะรู้จักในชื่อของ ต้นหนามแดง หรือจะเรียกว่า มะนาวไม่รู้โห่ ก็ได้เช่นกัน ถือได้ว่าเป็นสมุนไพรที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเนื่องจากมีสรรพคุณต่างๆ ที่ดีต่อร่างกายถึง 53 ประการ แถมยังสามารถใช้ประโยชน์ได้แทบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็น ราก ลำต้น เนื้อไม้ ใบ เปลือก ยาง และผล อีกทั้งยังสามารถนำมาปลูกเป็นไม้ประดับได้อีกด้วย
ประโยชน์ของมะนาวโห่ส่วนต่างๆ ที่ดีต่อร่างกาย
สรรพคุณส่วนผล
-สามารถนำมารับประทานเป็นผลไม้ได้
-เนื่องจากมีวิตามินซีสูง จึงสามารถรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้
-มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยชะลอความแก่ชรา
-ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
-ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
-มีส่วนช่วยรักษาโรคต่างๆ ได้ อาทิ เบาหวาน โรคเกาต์ โรคปอด โรคถุงลมโป่งพองจากการสูบบุหรี่ โรคไต โรคโลหิตจาง เป็นต้น
-มีส่วนช่วยในการลดความอ้วนได้
สรรพคุณส่วนใบและยอดอ่อน
-แก้เจ็บคอ
-แก้ท้องเสีย
-สามารถบรรเทาอาการไข้ ถอนพิษไข้ได้
-ช่วยรักษาอาการคันตามผิวหนัง
-โรคริดสีดวงทวาร (ยอดอ่อน)
สรรพคุณส่วนเปลือก
-ขับน้ำเหลืองเสีย
-แก้ท้องเสีย
-แก้ปวดฟัน
- พอกดับพิษ
-รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง
สรรพคุณส่วนราก
-ช่วยให้เจริญอาหาร
-ดับพิษร้อน
-บำรุงธาตุ
-แก้ไข้
-บำรุงกระเพาะอาหาร
-มีประโยชน์รักษาแผลเบาหวาน
สรรพคุณส่วนลำต้นและเนื้อไม้
-ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง กระปรีกระเปร่า
-แก้อาการอ่อนเพลียและเมื่อยล้า
-ช่วยบำรุงกำลังและร่างกาย ทำให้มีกำลังวังชาดี
-ใช้รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง ทำให้ผิวพรรณชุ่มชื่นขึ้น
สรรพคุณส่วนน้ำยาง
-แก้กลากเกลื้อน
-ใช้สมานแผล
-รักษาแผลเนื้องอก
-รักษาหูด รักษาตาปลา
**** หมายเหตุ
หญิงมีครรภ์ห้ามรับประทานเด็ดขาด ส่วนคนที่เป็นโรคหัวใจโตไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะเมื่อรับประทานผลเข้าไปแล้วประมาณ 10 นาที จะทำให้รู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ควรรับประทานวันละ 1 ผลเพื่อให้ร่างกายปรับสภาพจนชินก่อน เมื่อไม่มีอาการแล้วค่อยเพิ่มปริมาณเป็น 10 ผล รับประทานประมาณ 3 เดือนจะทำให้เลือดลมไหลเวียนดี
ข้อมูลประกอบ medthai.com
ประโยชน์ของมะนาวโห่ส่วนต่างๆ ที่ดีต่อร่างกาย
สรรพคุณส่วนผล
-สามารถนำมารับประทานเป็นผลไม้ได้
-เนื่องจากมีวิตามินซีสูง จึงสามารถรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้
-มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยชะลอความแก่ชรา
-ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
-ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
-มีส่วนช่วยรักษาโรคต่างๆ ได้ อาทิ เบาหวาน โรคเกาต์ โรคปอด โรคถุงลมโป่งพองจากการสูบบุหรี่ โรคไต โรคโลหิตจาง เป็นต้น
-มีส่วนช่วยในการลดความอ้วนได้
สรรพคุณส่วนใบและยอดอ่อน
-แก้เจ็บคอ
-แก้ท้องเสีย
-สามารถบรรเทาอาการไข้ ถอนพิษไข้ได้
-ช่วยรักษาอาการคันตามผิวหนัง
-โรคริดสีดวงทวาร (ยอดอ่อน)
สรรพคุณส่วนเปลือก
-ขับน้ำเหลืองเสีย
-แก้ท้องเสีย
-แก้ปวดฟัน
- พอกดับพิษ
-รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง
สรรพคุณส่วนราก
-ช่วยให้เจริญอาหาร
-ดับพิษร้อน
-บำรุงธาตุ
-แก้ไข้
-บำรุงกระเพาะอาหาร
-มีประโยชน์รักษาแผลเบาหวาน
สรรพคุณส่วนลำต้นและเนื้อไม้
-ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง กระปรีกระเปร่า
-แก้อาการอ่อนเพลียและเมื่อยล้า
-ช่วยบำรุงกำลังและร่างกาย ทำให้มีกำลังวังชาดี
-ใช้รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง ทำให้ผิวพรรณชุ่มชื่นขึ้น
สรรพคุณส่วนน้ำยาง
-แก้กลากเกลื้อน
-ใช้สมานแผล
-รักษาแผลเนื้องอก
-รักษาหูด รักษาตาปลา
**** หมายเหตุ
หญิงมีครรภ์ห้ามรับประทานเด็ดขาด ส่วนคนที่เป็นโรคหัวใจโตไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะเมื่อรับประทานผลเข้าไปแล้วประมาณ 10 นาที จะทำให้รู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ควรรับประทานวันละ 1 ผลเพื่อให้ร่างกายปรับสภาพจนชินก่อน เมื่อไม่มีอาการแล้วค่อยเพิ่มปริมาณเป็น 10 ผล รับประทานประมาณ 3 เดือนจะทำให้เลือดลมไหลเวียนดี
ข้อมูลประกอบ medthai.com