ฟักทอง ถือได้ว่าเป็นอาหารประเภทแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต แต่ทว่าเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น ฟอสฟอรัส แคลเซียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินซี วิตามินอี ฯลฯ เป็นต้น
ปัจจุบันคนลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพมักจะนิยมนำฟักทองมาประกอบอาหารรับประทาน เพราะเนื่องจากฟักทองมีแคลอรี่ต่ำ มีกากใยสูง ไขมันน้อย แถมยังช่วยให้อิ่มท้องนาน ซึ่งนอกจากนี้แล้วนั้นฟักทองยังเปี่ยมไปด้วยประโยชน์ดีๆ อีกมากมาย และนี่คือเหตุผลที่คนรักสุขภาพควรรับประทานฟักทอง
1. ฟักทองเหมาะกับคนควบคุมและลดน้ำหนัก เพราะในฟักทองมีไฟเบอร์สูงมากถึง 3 กรัมต่อ 1 ถ้วย ไขมันน้อย และแคลอรี่ต่ำซึ่ง 100 กรัมให้พลังงานเพียงแค่ 26 กิโลแคลอรี่เท่านั้น
อีกทั้งกินแล้วยังทำให้อิ่มท้องนานและช่วยลดอาการหิวโหยระหว่างมื้อได้
2.เนื่องจากมีไฟเบอร์สูงจึงมีส่วนช่วยในการขับถ่ายได้
3.ฟักทองมีฤทธิ์อุ่นจึงสามารถช่วยย่อยอาหารได้ดี
4.โดยเฉพาะในเปลือกฟักทองจะอุดมไปด้วยฤทธิ์ทางยาที่ช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกาย และมีส่วนช่วยควบคุมและลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้
6.ลดการเกิดโรคเบาหวาน ความดัน จึงเหมาะเป็นผลไม้สำหรับผู้ป่วยเบาหวานอย่างยิ่ง อีกทั้งฟักทองยังมีปริมาณน้ำตาลต่ำมากด้วย
7.มีรายงานการวิจัยพบว่าในฟักทองมี สารจากธรรมชาติชื่อว่า ‘ไฟโตสเตอรอล’ (Phytosterols) ที่มีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ในเลือดได้ ดังนั้นจึงสามารถช่วยป้องกันหลอดเลือดอุดตัน และป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
ได้
8.ฟักทองอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย จึงมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันโรค ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่อ่อนแอและเจ็บป่วยง่าย
9.ในเนื้อฟักทองมี “เบต้าแคโรทีน" ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง ซึ่งสามารถช่วยลดการเกิดมะเร็งได้
10.ในฟักทองมีโพแทสเซียมสูงถึง 564 มิลลิกรัม มากกว่ากล้วยที่มีเพียง 422 มิลลิกรัม ซึ่งโพแทสเซียมมีส่วนช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังจากออกกำลังกายมาหนักๆ นอกจากนี้แล้วยังดูแลการทำงานของกล้ามเนื้อให้สามารถทำงานได้ดีเหมือนเดิม อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยบริเวณข้อเข่า และบั้นเอว แถมยังลดอาการปวด อาการอักเสบได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้นแม้ว่าฟักทองจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพก็จริง แต่หากรับประทานมากจนเกินความพอดีก็จะส่งผลทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่สบายท้องได้ อีกทั้งฟักทองมีฤทธิ์อุ่นจึงไม่เหมาะสำหรับคนที่กระเพาะร้อน ที่มักจะมีอาการเช่น หิวง่าย กระหายน้ำ ปากเหม็น เป็นแผลในช่องปาก เหงือกบวม ปัสสาวะเหลือง ท้องผูก เพราะจะยิ่งไปกระตุ้นให้ร่างกายร้อนขึ้นได้
ปัจจุบันคนลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพมักจะนิยมนำฟักทองมาประกอบอาหารรับประทาน เพราะเนื่องจากฟักทองมีแคลอรี่ต่ำ มีกากใยสูง ไขมันน้อย แถมยังช่วยให้อิ่มท้องนาน ซึ่งนอกจากนี้แล้วนั้นฟักทองยังเปี่ยมไปด้วยประโยชน์ดีๆ อีกมากมาย และนี่คือเหตุผลที่คนรักสุขภาพควรรับประทานฟักทอง
1. ฟักทองเหมาะกับคนควบคุมและลดน้ำหนัก เพราะในฟักทองมีไฟเบอร์สูงมากถึง 3 กรัมต่อ 1 ถ้วย ไขมันน้อย และแคลอรี่ต่ำซึ่ง 100 กรัมให้พลังงานเพียงแค่ 26 กิโลแคลอรี่เท่านั้น
อีกทั้งกินแล้วยังทำให้อิ่มท้องนานและช่วยลดอาการหิวโหยระหว่างมื้อได้
2.เนื่องจากมีไฟเบอร์สูงจึงมีส่วนช่วยในการขับถ่ายได้
3.ฟักทองมีฤทธิ์อุ่นจึงสามารถช่วยย่อยอาหารได้ดี
4.โดยเฉพาะในเปลือกฟักทองจะอุดมไปด้วยฤทธิ์ทางยาที่ช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกาย และมีส่วนช่วยควบคุมและลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้
6.ลดการเกิดโรคเบาหวาน ความดัน จึงเหมาะเป็นผลไม้สำหรับผู้ป่วยเบาหวานอย่างยิ่ง อีกทั้งฟักทองยังมีปริมาณน้ำตาลต่ำมากด้วย
7.มีรายงานการวิจัยพบว่าในฟักทองมี สารจากธรรมชาติชื่อว่า ‘ไฟโตสเตอรอล’ (Phytosterols) ที่มีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ในเลือดได้ ดังนั้นจึงสามารถช่วยป้องกันหลอดเลือดอุดตัน และป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
ได้
8.ฟักทองอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย จึงมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันโรค ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่อ่อนแอและเจ็บป่วยง่าย
9.ในเนื้อฟักทองมี “เบต้าแคโรทีน" ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง ซึ่งสามารถช่วยลดการเกิดมะเร็งได้
10.ในฟักทองมีโพแทสเซียมสูงถึง 564 มิลลิกรัม มากกว่ากล้วยที่มีเพียง 422 มิลลิกรัม ซึ่งโพแทสเซียมมีส่วนช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังจากออกกำลังกายมาหนักๆ นอกจากนี้แล้วยังดูแลการทำงานของกล้ามเนื้อให้สามารถทำงานได้ดีเหมือนเดิม อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยบริเวณข้อเข่า และบั้นเอว แถมยังลดอาการปวด อาการอักเสบได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้นแม้ว่าฟักทองจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพก็จริง แต่หากรับประทานมากจนเกินความพอดีก็จะส่งผลทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่สบายท้องได้ อีกทั้งฟักทองมีฤทธิ์อุ่นจึงไม่เหมาะสำหรับคนที่กระเพาะร้อน ที่มักจะมีอาการเช่น หิวง่าย กระหายน้ำ ปากเหม็น เป็นแผลในช่องปาก เหงือกบวม ปัสสาวะเหลือง ท้องผูก เพราะจะยิ่งไปกระตุ้นให้ร่างกายร้อนขึ้นได้