นักเพาะกายหญิงที่คว้ารางวัลมาแล้วมากมาย อาทิ รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เวที Gymnastic & Fitness 2015 ในรุ่น “โมเดลหญิง” , รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 5 เวที Mr.thailand 2016 ในรุ่น “แอธเลติกฟิสิคหญิงรุ่นทั่วไป” รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เวที Gymnastic & Fitness 2016 ในรุ่น “โมเดลหญิง"และล่าสุดเธอยังเตรียมตัวลงแข่งขันในเวที mr.thailand 2016 ที่จะจัดขึ้นในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้อีกด้วย ลาว-สิริวรรณ เหลืองสุวรรณ์
เริ่มมาจากสาวอ้วนที่สรรหาวิธีลดน้ำหนักแทบจะทุกทางที่มีการพิสูจน์แล้วว่าผิด ยกตัวอย่างเช่น การอดอาหารให้ได้มากที่สุด หรือจะเป็นการออกกำลังกายด้วยการวิ่งให้มากที่สุดเพื่อที่จะได้รูปร่างที่ผอมเพรียว จนสุดท้ายเธอจึงได้มาค้นพบว่าแท้จริงแล้วหนทางดังกล่าวนั้นไม่ยั่งยืนและทำไปศูนย์เปล่า เธอเลยหันมา “เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตใหม่ และปรับให้เข้ากับตัวเองมากที่สุด” จนกระทั่งได้มีโอกาสเข้าแข่งขันกีฬาเพาะกายหลากหลายเวทีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
• ก่อนจะมาเดินสายประกวดสาวเพาะกาย เห็นว่าเคยอ้วนมาก่อน?
ลาวเป็นคนอ้วนมาก่อน ช่วงนั้นมีแนวโน้มที่จะอ้วนขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกอึดอัดมากเลยค่ะ เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการหันมาควบคุมอาหารและเริ่มออกกำลังกาย
ตอนนั้นจำได้ขึ้นใจเลยค่ะว่าหนักที่สุดคือ 60 กิโลกรัม แต่ยังไม่ถึงขั้นมีปัญหาเรื่องสุขภาพอะไรนะคะ จะรู้สึกแค่อึดอัดและรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่กับร่างกายตัวเอง เหตุผลเพราะไซด์เสื้อที่ใส่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ เดิมที่เคยใส่ไซส์ S มันขยายจนไปถึง ไซส์ L ซึ่งมันทำร้ายจิตใจเราพอสมควรเลยค่ะ
• แล้วหันมาดูแลสุขภาพตอนไหน มีอะไรเป็นแรงบันดาลใจคะ
แรงบันดาลใจมาจากที่ลาวเริ่มรู้สึกอึดอัด และรู้สึกไม่ดีมากๆ กับร่างกายตัวเองล้วนๆ เลยค่ะ ซึ่งถ้าปล่อยไว้ต่อไปอาจจะต้องขยับไซส์ไป XL ก็เป็นได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการหันมาเริ่มลดน้ำหนักอย่างจริงจังเพื่อจะกลับไปเป็นสาวไซส์ S อีกครั้ง
ลาวเริ่มต้นจากการลดน้ำหนักด้วยสัญชาตญาณตัวเองโดยที่ไม่มีความรู้อะไรเลยนะคะตอนนั้น รู้แค่ว่าเราจะต้องกินให้น้อยที่สุด และออกกำลังกายให้หนักที่สุด ประมาณว่า “ตื่นมาพรุ่งนี้ฉันต้องผอมเลย!” อะไรประมาณนั้นค่ะ
• แสดงว่าก็เริ่มจากลดน้ำหนักแบบหักโหมและผิดวิธี
เราลองมาแทบจะทุกวิธีที่มีการพิสูจน์แล้วว่าผิดค่ะ (หัวเราะ) ยกตัวอย่าง เช่น ลาวใช้วิธีการอดอาหารให้ได้มากที่สุด และออกกำลังกายด้วยการวิ่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทนไหว ซึ่งการวิ่งจะเป็นการออกกำลังกายแบบคาดิโอ ผลก็คือน้ำหนักลงเร็วมากในระยะเวลาอันสั้น แต่ต้องเหนื่อยมาก ใช้ความอดทนมาก ซึ่งเราไม่มีทางที่จะทำแบบนี้ได้ตลอดชีวิต พอเราเหนื่อย เราก็จะกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติที่เคยเป็น เลยยิ่งทำให้กลับมาอ้วนอย่างรวดเร็ว แถมสุขภาพแย่ลงด้วย ซึ่งผลมาจากการอดอาหาร และยังส่งผลทำให้สุขภาพจิตแย่ลงไปอีก ซึ่งสิ่งที่เราอดทนทำไปแทบจะศูนย์เปล่าเลยล่ะ
อีกวิธีที่ลาวใช้ก็คือการใช้พวกอาหารเสริม คือทานอาหารเสริมแทนอาหารมื้อหลัก แต่ในความคิดของลาวตอนนี้มันคือการอดอาหารดีๆ นี่เอง ซึ่งมันเห็นผลเร็วจริง ผอมจริง แต่พอเราหยุดทานอาหารเสริมและกลับมาทานอาหารปกติ ก็จะกลับมาอ้วนกว่าเดิมอีก หรือที่เรามักเรียกกันว่าอาการ โยโย่เอฟเฟค (YOYO Effect) ค่ะ
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายวิธีที่ไม่ยั่งยืน จนลาวคิดว่าการฝืน การอดทน หรือการใช้ตัวช่วยเพื่อลดน้ำหนัก ไม่ใช่วิธีที่ยั่งยืน ลาวจึงพยามคิดหาวิธีใหม่ เพราะสิ่งที่ทำให้เรากลับมาจุดเริ่มต้นของการทำให้เราอ้วนนั้นก็คือ ตัวเราเอง
ดังนั้นลาวเลยคิดว่าถ้าเรามีวิธีการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ คือกินไม่เลือก และไม่เคยสนใจในเรื่องสุขภาพ ลาวมองว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องของการ เกิด แก่ เจ็บตาย ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ก็ต้องเป็นอยู่ดี ลาวก็คงไม่สามารถที่จะกลับไปผอมได้อีกเลย ลาวจึงใช้วิธี “เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตใหม่ และปรับให้เข้ากับตัวเองมากที่สุด” พอเราเปลี่ยนตัวเองได้ เราก็จะทำมันได้นานและมีความสุข จึงทำให้ลาวได้ค้นพบวิธีนี้ มันไม่ได้เรียกว่าวิธีลดน้ำหนักอีกต่อไป แต่มันคือวิธีดูแลสุขภาพที่ยั่งยืน
• แล้วหันมาเล่นกล้ามตอนไหนคะ ทำไมถึงอยากมีกล้าม
เอาจริงๆ เริ่มแรกไม่ได้อยากมีกล้ามเลยค่ะ เรียกว่าไม่รู้จักการ Bodybuilding เลยจะดีกว่า แต่ก็ออกกำลังกายมาเรื่อยๆ นะคะ เพราะเราสนุก และอยากดูแลสุขภาพเพื่อไม่ให้กลับไปอ้วนอีกเท่านั้น เมื่อก่อนลาวเลยจะชอบเข้าคลาส bodypump, bodycombat, yoga เล่นไปเล่นมา กล้ามมันมาตอนไหนไม่รู้ตัวเหมือนกัน (หัวเราะ) พอเล่นไปนานๆ มันเหมือนอิ่มตัวเริ่มรู้สึกไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็เลยลองมายกเวทเปลี่ยนน้ำหนักดู เปลี่ยนอะไรใหม่ๆ ได้ท้าทายตัวเอง ทำให้มันสนุกมากขึ้นค่ะ เลยทำมาเรื่อยๆ จนได้เห็นพัฒนาการของหุ่นตัวเองว่ามีการเปลี่ยนแปลง มันเลยยิ่งทำให้ลาวตื่นเต้นมากขึ้น แล้วก็ยิ่งเล่นหนักขึ้นไปเรื่อยๆ
ส่วนตัวลาวชอบดูรูปสาวๆ ชาวต่างชาติที่เขา Bodybuilding กันค่ะ เห็นเขามีเอว มีก้น แล้วมันสวยดี กล้ามกำลังดี เราเลยเก็บมาเป็นแรงบันดาลใจทำให้เราอยากมีกล้ามบ้าง แต่ไม่ได้เพื่อให้ตัวเองตัวใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ นะคะ แต่เพื่อให้ตัวเองมีสัดส่วนที่สมส่วน และสวยเหมือนคนอื่นๆ เขาบ้าง ตอนแรกคิดแบบนั้นเลยค่ะ
• แบบนี้เข้ามาเดินสายประกวดเพาะกายได้ยังไงคะ
มันก็เริ่มจากที่เราเริ่มรู้จักการ Bodybuilding นั่นแหละค่ะ ก็พัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ ทำอยู่เป็นปีๆ จนวันหนึ่งมีผู้ใหญ่มาเห็นเลยแนะนำให้ลองเข้าประกวดดู ก็ตัดสินใจอยู่นานนะคะว่าจะลงประกวดดีไหม เพราะการประกวดต้องใส่บิกินี โป๊ก็โป๊ แล้วเราก็คิดเสมอว่าหุ่นเรามันก็ยังไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น ความมั่นใจไม่มีเลยค่ะ แต่ก็ตัดสินใจลงประกวดเอาประสบการณ์ ลองอะไรใหม่ๆ เพราะดูสนุกดี เลยเตรียมตัวไปเรื่อยๆ จนถึงวันประกวด
วันประกวดครั้งแรกเราก็ไปขึ้นเวทีตัวคนเดียวแบบไม่รู้อะไรเลยนะคะ แต่อันที่จริงมีคำแนะนำจากผู้ใหญ่มาก่อนบ้างแล้ว แต่มันเป็นการขึ้นเวทีครั้งแรกแถมไปตัวคนเดียวอีกต่างหาก ก็เลยตื่นเต้น และสับสนจนเหมือนคนไม่รู้อะไรเลย (หัวเราะ) แต่สุดท้ายก็ได้รับตำแหน่งรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เวที Gymnastic & Fitness ในปี 2015 มาค่ะ
• ประกวดครั้งแรกก็ได้รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เวที Gymnastic & Fitness เลย
ใช่ค่ะ (ยิ้ม) พอหลังจากจบเวทีประกวดครั้งแรกมา เราก็ยังไม่มีความคิดที่จะทำอะไรต่อนะคะ คิดแค่ว่าสนุกดี ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วย แต่พอหลังจากได้ดูภาพตัวเองในวันประกวด รู้สึกประทับใจและรู้สึกมีความตื่นเต้น ท้าทายขึ้นมาอีกว่าเราจะสามารถทำให้ตัวเองจะพัฒนาได้กว่านี้อีกไหม เลยอยากจะทำมันต่อค่ะ แต่ไม่ได้ฝันว่าจะต้องไปให้ถึงระดับที่สูงขึ้นไปอีกแต่มันกลับเป็นความสุขที่ได้ทำ เพราะทุกวันนี้ ทุกครั้งหลังจากการประกวด ลาวก็จะกลับมานั่งดูภาพตัวเองที่อยู่บนเวที และรู้สึกว่าตัวเองดูมีการพัฒนา ดูมีความมั่นใจมากขึ้น ดูมีเสน่ห์มากขึ้น เลยเก็บเอามาเป็นความภาคภูมิในของตัวเองเล็กๆ จะเรียกว่า “หลง (รัก) ตัวเอง” ก็ได้ค่ะ (หัวเราะ)
• ตอนนี้อยู่ในสายประกวดจริงจังเลยใช่ไหมคะ
ทุกเวทีต้องบอกก่อนเลยว่าตื่นเต้นมากๆ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่สนุกและรู้จุดบกพร่องของตัวเองอยู่เสมอ ลาวผ่านเวทีมาไม่มากค่ะ ที่ผ่านมาก็จะมี รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เวที Gymnastic & Fitness 2015ในรุ่น “โมเดลหญิง” , รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 5 เวที Mr.thailand 2016 ในรุ่น “แอธเลติกฟิสิคหญิงรุ่นทั่วไป” รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เวที Gymnastic & Fitness 2016 ในรุ่น “โมเดลหญิง”
ถามว่าเราอยู่ในสายประกวดจริงจังไหมก็ไม่ถึงขนาดนั้นนะคะ ตอนแรกลาวคิดว่าจะเลิกแข่งแล้วด้วย เพราะว่ามันเหนื่อยเหมือนกันนะ แต่พอคิดอีกที การประกวดมันเป็นการตั้งเป้าหมายที่ท้าทายอย่างหนึ่งของเรา แล้วเราก็อยากมีหุ่นสวย ใส่ชุดสวยๆ บนเวทีอีกครั้งก็เลยคิดว่าจะลงแข่งต่อไปค่ะ ซึ่งเป้าหมายที่จะลงแข่งปีนี้ก็เป็นเวที mr.thailand 2016 ที่จะจัดขึ้นเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ค่ะ (ยิ้ม)
• อยากถามถึงการเตรียมตัวก่อนการประกวดหน่อยค่ะว่าต้องทำยังไงบ้างคะ เพราะเห็นว่าต้องเตรียมทั้งเรื่องการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายค่อนข้างหนัก
จะเริ่มจากการเตรียมตารางการซ้อมก่อนเลยค่ะ ทันทีที่แข่งขันเสร็จในแต่ละครั้ง ลาวจะชอบนำรูปตอนแข่งมาดูว่าตัวเองมีจุดบกพร่องตรงไหนบ้าง ต้องเพิ่ม หรือต้องแก้ไขตรงไหนบ้าง แล้วค่อยปรับตารางการซ้อมให้เป็นไปตามที่เราเห็นจุดบกพร่องนั้นๆ
พอเรารู้ถึงจุดบกพร่องแล้ว ก็ทำตารางการซ้อมให้สอดคล้องกันค่ะ โดยพื้นฐานแล้วจะซ้อม 6 วัน พัก 1 วัน โดยซ้อม กล้ามเนื้ออก-หลังแขน, กล้ามเนื้อหลัง-หน้าแขน, กล้ามเนื้อไหล่, กล้ามเนื้อขา หมุนเวียนไปในแต่ละวันและจะมีเพิ่มพิเศษสำหรับจุดบกพร่องนั้นๆ ไปด้วยค่ะ ส่วนการซ้อมกล้ามเนื้อส่วนท้องก็จะทำควบคู่กันไปกับตารางปกติ คือสัปดาห์ละ 3 วัน และออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ 4-5 วัน ยิ่งถ้าใกล้แข่งก็เพิ่มการคาร์ดิโอเข้าไปอีกเราจะวัดเอาจากสภาพหุ่นตัวเองตอนนั้นเลยค่ะ
ส่วนในเรื่องของการคุมอาหารจะมีเป้าหมายไม่ใช้เพื่อให้ตัวเองผอมที่สุด แต่จะควบคุมอาหารเพื่อให้ตัวเองมีไขมันที่น้อยลงและเก็บกล้ามเนื้อไว้ให้มากที่สุดหรือทำให้เป็นบอดี้ลีนค่ะ ส่วนวิธีการคือก็เลือกทานอาหาร เน้นทานโปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, ไขมันให้เพียงพอ ที่สำคัญที่สุด งดทานขนม, ของหวาน, ของทอด, น้ำอัดลม ทุกอย่างค่ะ และมีให้รางวัลตัวเองบ้างบางสัปดาห์ค่ะ แต่ต้องทานให้แต่พองามนะคะ ไม่ต้องทานถึงขั้นกักตุนไว้นะ (หัวเราะ)
• ในฐานะที่เป็นนักเพาะกายหญิง เขาว่าผู้หญิงมีกล้ามน่ากลัว สำหรับเราแล้วคิดยังไงบ้างคะ
ลาวมองว่าผู้หญิงมีกล้ามคือผู้หญิงที่มีสุขภาพดีและรักสุขภาพมากกว่าค่ะ ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ ส่วนตัวแล้วไม่อยากกลับไปผอมแห้งตัวทื่อๆ แบบเมื่อก่อนแล้วค่ะ
น่ากลัวไหม ลาวว่าอาจเป็นเพราะคนส่วนใหญ่มักจะไปจดจำเอาภาพนักกีฬาเพาะกายหญิง ซึ่งในลักษณะนั้นจะมีการสร้างกล้ามเนื้อเยอะกว่าในรุ่นโมเดล หรือนางแบบสวยๆ มากค่ะ เลยทำให้หลายคนกลัวว่าพอออกกำลังกายแล้วจะทำให้กล้ามปู หน้าขาเป็นลูก กล้ามแขนเป็นมัดๆ ลาวขอบอกตรงนี้เลยนะคะว่ายากมาก (ลากเสียงยาว) ขนาดลาวใช้ทั้งเวลา, ทั้งวินัย ทั้งการทานอาหาร และการออกกำลังกายหนักมากๆ ยังได้เท่านี้เองค่ะ ดังนั้นสาวๆ อย่าได้กลัวการออกกำลังกายเลยค่ะ
ส่วนตัวลาวใช้เวทเทรนนิ่งมา 4 ปีได้ และเริ่มทุ่มเทเวลากับการซ้อมแบบจริงจังก็ประมาณ 2 ปีกว่า ตั้งแต่ออกกำลังกายมายอมรับว่าก็มีหนื่อยบ้าง แต่การออกกำลังกายสำหรับลาวเหมือนการผ่อนคลายจากงาน ลาวเหมือนได้ผ่อนคลายจากความเครียดทุกอย่างเลย แต่ก็มีท้อบ้างตอนช่วงเตรียมตัวแข่งค่ะ ทั้งคุมอาหารทั้งซ้อมหนักมันเหนื่อยจริงๆ ค่ะ แต่ในเมื่อเราตั้งเป้าหมายไว้แล้วลาวเลยไม่คิดจะล้มเลิกความตั้งใจนะคะ ลาวคิดเสมอว่า “ไม่ว่าจะเร็วหรือช้าเราก็จะไปถึงจุดหมายได้เหมือนกัน ขอเพียงเราไม่ล้มเลิกไปซะก่อน” มันเลยทำให้ลาวไม่เคยคิดล้มเลิกความตั้งใจเลยค่ะ
• เดี๋ยวนี้เทรนการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพกำลังมาแรงมาก ตรงนี้คิดยังไงบ้าง
ปัจจุบันคนเปลี่ยนพฤติกรรมการออกกำลังกายดูแลสุขภาพเยอะมากจริงๆ ค่ะ ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นข้อดีนะคะ คนไทยจะได้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น เจ็บป่วยน้อยลง
คนเริ่มต้นใหม่ก็อาจจะยากนิดนึง เพราะต้องเริ่มเรียนรู้ด้วยตัวเอง หรืออาจมีการมีเทรนเนอร์ทั้งในยิมหรือทางออนไลน์ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดในการออกกำลังกายและดูแลสุขภาพก็คือ วินัยและจิตใจตัวเองค่ะ
• มีข้อแนะนำสำหรับคนที่อยากหันมาดูแลสุขภาพบ้างไหมคะ
การออกกำลังกายเพื่อดูแลสุขภาพบางครั้งอาจทำให้เราเบื่อ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะ คนส่วนใหญ่มักจะไม่เคยคิดตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนไว้ค่ะ พอเราไม่มีเป้าหมายถึงวันนึงเราจะตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราจะต้องเหนื่อยแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ เมื่อไหร่ถึงจะพอและสุดท้ายก็จะล้มเลิกกันไปค่ะ
ลาวอยากจะชวนทุกคนลองตั้งเป้าหมายดูค่ะ ไม่ต้องใหญ่มาก เล็กๆ พอ ให้เราได้ทำต่อไปเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น “ฉันจะลดน้ำหนักให้ได้ 3 กิโลกรัม ภายใน 1 เดือน" พอเราเริ่มท้าทายตัวเอง มีเป้าหมายชัดเจน การออกกำลังกายจะเริ่มสนุกมากขึ้น แล้วยิ่งพอผ่านตามเป้าหมาย และเราทำสำเร็จ เราจะแอบ ภูมิใจกับตัวเองว่า “ฉันทำได้นะ” ทีนี้แหละการออกกำลังกายของเราจะเริ่มสนุกขึ้น และช่วยทำให้เราทำมันได้นานขึ้น ผลที่ตามมาคือ เราจะดูดีขึ้น และสุขภาพดีขึ้น
• แล้วมีข้อแนะนำสำหรับคนอยากมีกล้ามอย่างไรบ้าง
การสร้างกล้ามเนื้อ ลาวถือว่าตัวเองยังไม่เก่งมากนะคะ เพราะลาวก็ถือว่ายังเป็นมือใหม่อยู่เหมือนกัน แต่มีสิ่งสำคัญที่ลาวพอจะแนะนำได้คือ การเริ่มต้นใหม่มันยากเสมอไม่ว่าจะเรื่องอะไร เราต้องหมั่นศึกษา โดยเฉพาะท่าบริหารส่วนต่างๆ อย่างถูกวิธี และที่สำคัญไปกว่านั้นคือเราต้องไม่เลือกเล่นน้ำหนักที่หนักจนเกินไปจนเราไม่สามารถโฟกัสได้ ลาวมักใช้วิธี อ่าน ถาม สังเกต สมัยนี้การค้นคว้าหาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตง่ายมาก และเคล็ดลับอีกอย่างของลาวก็คือ การตั้งเป้าหมาย ลาวจะท้าทายตัวเองอย่างสม่ำเสมอแล้วเราต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ค่ะ
ส่วนวิธีอื่นๆ ก็น่าจะเป็นการรับประทานอาหาร อย่างอาหารที่ลาวทานส่วนใหญ่ ลาวมักจะเลือกทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันค่ะ ส่วนตัวลาวมักจะเลือกอกไก่มาปรุงอาหารค่ะ เพราะเป็นเนื้อส่วนที่มีโปรตีนสูง, ไขมันต่ำที่สุด และยังอีกทั้งยังราคาถูกด้วยค่ะ แต่จะให้ลาวทานไก่ต้ม อกไก่ปั่น ลาวคงทำได้ไม่ตลอดชีวิต ดังนั้นเราเลยจะเอาอกไก่นี่แหละค่ะ มาปรุงอาหารเป็นเมนูต่างๆ แทน อย่างเมนูอาหารที่จะชอบมากๆ ก็อย่างเช่น น้ำเงี้ยวอกไก่, เกี๊ยวอกไก่น้ำ, อกไก่แดง และลูกชิ้นอกไก่ประมาณนี้ค่ะ
เราต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้สารอาหารเพียงพอกับร่างกายต้องการ ออกกำลังกายสม่ำเสมอพักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำเยอะๆ ซึ่งวิธีนี้นอกจากเป็นการรักษากล้ามเนื้อแล้วยังเป็นการดูแลสุขภาพที่ง่ายและดีมากๆ เลยค่ะ
สุดท้ายเราต้องทำมันอย่างมีความสุข แล้วเราจะทำมันได้ดีและทำได้ตลอดไป ไม่ว่าอะไรก็ตามเราควรทำมันอย่างมีความสุข ต้องไม่ตึงไป ไม่หย่อนไป ไม่ฝืนทำ เราก็จะอยู่กับมันได้นานและทำได้ดีค่ะ (ยิ้ม)
4 เมนูสร้างกล้ามฉบับนักเพาะกายหญิง
1. เมนูน้ำเงี้ยวอกไก่
วิธีทำ
-ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันรำข้าวนิดหน่อย ใส่พริกแกงน้ำเงี้ยวลงไปผัดจนหอม
-ใส่อกไก่สับลงไปผัด (ถ้าผัดเยอะให้ลวกก่อนจะสุกไว)
-ตั้งหม้อน้ำเดือด ใส่รากผักชี ใส่อกไก่ที่ผัดแล้วลงไป ตามด้วยใส่มะเขือเทศ
-ชิมรส ปรุงด้วยเกลือสมุทร ถ้าไม่เปรี้ยวให้ใส่น้ำมะขามเปียกเพิ่ม ใส่เลือดต้ม
***เวลารับประทานบีบมะนาวนิดๆ จะอร่อยมาก
2. เมนูเกี๊ยวอกไก่น้ำไก่แดง
วิธีทำไส้เกี๊ยว
-นำอกไก่บดละเอียด ใส่น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว พริกไทย นวดจนเข้ากัน
-ปั้นใส่แผ่นเกี๊ยว ต้มในน้ำเดือดรอจนเกี๊ยวลอย
วิธีทำอกไก่แดง
-ใช้ผงหมูแดงละลายน้ำ หมักไก่แล้วใช้ส้อมทิ่ม
-นำมาย่างบนกระทะเทฟล่อนจนสีสวย จากนั้นเอาเข้าเตาอบ 180 องศา เป็นเวลา 20 นาที (ใครไม่มีเตาอบให้ย่างบนกระทะเทฟล่อนจนสุก)
วิธีทำน้ำซุป
- ตั้งหม้อให้น้ำเดือด ใส่รากผักชี หัวไชเท้า ปรุงด้วยซีอิ๊วขาว ตุ๋น 30 นาที
วิธีรับประทาน
-ราดน้ำซุปลงบนเกี๊ยวและอกไก่แดง เวลารับประทานปรุงด้วยพริกขี้หนูป่นนิดๆ จะอร่อยมาก
3. เมนูข้าวอกไก่แดง
วิธีทำ
-ละลายผงหมูแดง ไม่ต้องละลายหมด ปล่อยให้น้ำตาลตกตะกอน
-จากนั้นเอาเฉพาะน้ำหมูแดงมาแช่อกไก่ข้ามคืน
-เอาอกไก่ที่แช่ค้างคืนมาย่างให้ได้สีสวย แล้วเอาเข้าเตาอบ 180 องศา 20 นาที รับประทานกับน้ำจิ้มมะขาม
วิธีทำสูตรน้ำจิ้มมะขาม
- ใช้น้ำมะขามเปียกต้มสุก น้ำหวานน้ำดอกไม้ พริกป่น ผสมให้เข้ากัน
4. เมนูลูกชิ้นอกไก่
ส่วนผสม
-อกไก่บดละเอียด 800 กรัม
-เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
-ไข่ไก่ 1 ฟอง
-เกลือสมุทรกะปริมาณเอา
-พริกไทยดำ
-กระเทียมสับ
วิธีทำ
-นวดส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
-ตั้งน้ำเดือดแล้วเบาไฟจนน้ำนิ่ง ปั้นลูกชิ้นลงในน้ำ รอให้ลูกชิ้นลอยแล้วตักขึ้น
-ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนโต๊ะ คั่วลูกชิ้นจนสีสวย
Profile
ชื่อ สกุล : สิริวรรณ เหลืองสุวรรณ์
สังกัด : TrecNutrition Thailand
ผลงานการประกวด :Top Health & Fitness Influencer Thailand ในงาน Influence Asia 2015
รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เวที Gymnastic & Fitness 2015ในรุ่น “โมเดลหญิง”
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 5 เวที Mr.thailand 2016 ในรุ่น “แอธเลติกฟิสิคหญิงรุ่นทั่วไป”
รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เวที Gymnastic & Fitness 2016 ในรุ่น “โมเดลหญิง”
สามารถพูดคุยเรื่องสุขภาพเพิ่มเติมได้ใน instagram : iamlaos
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
เริ่มมาจากสาวอ้วนที่สรรหาวิธีลดน้ำหนักแทบจะทุกทางที่มีการพิสูจน์แล้วว่าผิด ยกตัวอย่างเช่น การอดอาหารให้ได้มากที่สุด หรือจะเป็นการออกกำลังกายด้วยการวิ่งให้มากที่สุดเพื่อที่จะได้รูปร่างที่ผอมเพรียว จนสุดท้ายเธอจึงได้มาค้นพบว่าแท้จริงแล้วหนทางดังกล่าวนั้นไม่ยั่งยืนและทำไปศูนย์เปล่า เธอเลยหันมา “เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตใหม่ และปรับให้เข้ากับตัวเองมากที่สุด” จนกระทั่งได้มีโอกาสเข้าแข่งขันกีฬาเพาะกายหลากหลายเวทีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
• ก่อนจะมาเดินสายประกวดสาวเพาะกาย เห็นว่าเคยอ้วนมาก่อน?
ลาวเป็นคนอ้วนมาก่อน ช่วงนั้นมีแนวโน้มที่จะอ้วนขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกอึดอัดมากเลยค่ะ เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการหันมาควบคุมอาหารและเริ่มออกกำลังกาย
ตอนนั้นจำได้ขึ้นใจเลยค่ะว่าหนักที่สุดคือ 60 กิโลกรัม แต่ยังไม่ถึงขั้นมีปัญหาเรื่องสุขภาพอะไรนะคะ จะรู้สึกแค่อึดอัดและรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่กับร่างกายตัวเอง เหตุผลเพราะไซด์เสื้อที่ใส่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ เดิมที่เคยใส่ไซส์ S มันขยายจนไปถึง ไซส์ L ซึ่งมันทำร้ายจิตใจเราพอสมควรเลยค่ะ
• แล้วหันมาดูแลสุขภาพตอนไหน มีอะไรเป็นแรงบันดาลใจคะ
แรงบันดาลใจมาจากที่ลาวเริ่มรู้สึกอึดอัด และรู้สึกไม่ดีมากๆ กับร่างกายตัวเองล้วนๆ เลยค่ะ ซึ่งถ้าปล่อยไว้ต่อไปอาจจะต้องขยับไซส์ไป XL ก็เป็นได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการหันมาเริ่มลดน้ำหนักอย่างจริงจังเพื่อจะกลับไปเป็นสาวไซส์ S อีกครั้ง
ลาวเริ่มต้นจากการลดน้ำหนักด้วยสัญชาตญาณตัวเองโดยที่ไม่มีความรู้อะไรเลยนะคะตอนนั้น รู้แค่ว่าเราจะต้องกินให้น้อยที่สุด และออกกำลังกายให้หนักที่สุด ประมาณว่า “ตื่นมาพรุ่งนี้ฉันต้องผอมเลย!” อะไรประมาณนั้นค่ะ
• แสดงว่าก็เริ่มจากลดน้ำหนักแบบหักโหมและผิดวิธี
เราลองมาแทบจะทุกวิธีที่มีการพิสูจน์แล้วว่าผิดค่ะ (หัวเราะ) ยกตัวอย่าง เช่น ลาวใช้วิธีการอดอาหารให้ได้มากที่สุด และออกกำลังกายด้วยการวิ่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทนไหว ซึ่งการวิ่งจะเป็นการออกกำลังกายแบบคาดิโอ ผลก็คือน้ำหนักลงเร็วมากในระยะเวลาอันสั้น แต่ต้องเหนื่อยมาก ใช้ความอดทนมาก ซึ่งเราไม่มีทางที่จะทำแบบนี้ได้ตลอดชีวิต พอเราเหนื่อย เราก็จะกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติที่เคยเป็น เลยยิ่งทำให้กลับมาอ้วนอย่างรวดเร็ว แถมสุขภาพแย่ลงด้วย ซึ่งผลมาจากการอดอาหาร และยังส่งผลทำให้สุขภาพจิตแย่ลงไปอีก ซึ่งสิ่งที่เราอดทนทำไปแทบจะศูนย์เปล่าเลยล่ะ
อีกวิธีที่ลาวใช้ก็คือการใช้พวกอาหารเสริม คือทานอาหารเสริมแทนอาหารมื้อหลัก แต่ในความคิดของลาวตอนนี้มันคือการอดอาหารดีๆ นี่เอง ซึ่งมันเห็นผลเร็วจริง ผอมจริง แต่พอเราหยุดทานอาหารเสริมและกลับมาทานอาหารปกติ ก็จะกลับมาอ้วนกว่าเดิมอีก หรือที่เรามักเรียกกันว่าอาการ โยโย่เอฟเฟค (YOYO Effect) ค่ะ
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายวิธีที่ไม่ยั่งยืน จนลาวคิดว่าการฝืน การอดทน หรือการใช้ตัวช่วยเพื่อลดน้ำหนัก ไม่ใช่วิธีที่ยั่งยืน ลาวจึงพยามคิดหาวิธีใหม่ เพราะสิ่งที่ทำให้เรากลับมาจุดเริ่มต้นของการทำให้เราอ้วนนั้นก็คือ ตัวเราเอง
ดังนั้นลาวเลยคิดว่าถ้าเรามีวิธีการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ คือกินไม่เลือก และไม่เคยสนใจในเรื่องสุขภาพ ลาวมองว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องของการ เกิด แก่ เจ็บตาย ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ก็ต้องเป็นอยู่ดี ลาวก็คงไม่สามารถที่จะกลับไปผอมได้อีกเลย ลาวจึงใช้วิธี “เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตใหม่ และปรับให้เข้ากับตัวเองมากที่สุด” พอเราเปลี่ยนตัวเองได้ เราก็จะทำมันได้นานและมีความสุข จึงทำให้ลาวได้ค้นพบวิธีนี้ มันไม่ได้เรียกว่าวิธีลดน้ำหนักอีกต่อไป แต่มันคือวิธีดูแลสุขภาพที่ยั่งยืน
• แล้วหันมาเล่นกล้ามตอนไหนคะ ทำไมถึงอยากมีกล้าม
เอาจริงๆ เริ่มแรกไม่ได้อยากมีกล้ามเลยค่ะ เรียกว่าไม่รู้จักการ Bodybuilding เลยจะดีกว่า แต่ก็ออกกำลังกายมาเรื่อยๆ นะคะ เพราะเราสนุก และอยากดูแลสุขภาพเพื่อไม่ให้กลับไปอ้วนอีกเท่านั้น เมื่อก่อนลาวเลยจะชอบเข้าคลาส bodypump, bodycombat, yoga เล่นไปเล่นมา กล้ามมันมาตอนไหนไม่รู้ตัวเหมือนกัน (หัวเราะ) พอเล่นไปนานๆ มันเหมือนอิ่มตัวเริ่มรู้สึกไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็เลยลองมายกเวทเปลี่ยนน้ำหนักดู เปลี่ยนอะไรใหม่ๆ ได้ท้าทายตัวเอง ทำให้มันสนุกมากขึ้นค่ะ เลยทำมาเรื่อยๆ จนได้เห็นพัฒนาการของหุ่นตัวเองว่ามีการเปลี่ยนแปลง มันเลยยิ่งทำให้ลาวตื่นเต้นมากขึ้น แล้วก็ยิ่งเล่นหนักขึ้นไปเรื่อยๆ
ส่วนตัวลาวชอบดูรูปสาวๆ ชาวต่างชาติที่เขา Bodybuilding กันค่ะ เห็นเขามีเอว มีก้น แล้วมันสวยดี กล้ามกำลังดี เราเลยเก็บมาเป็นแรงบันดาลใจทำให้เราอยากมีกล้ามบ้าง แต่ไม่ได้เพื่อให้ตัวเองตัวใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ นะคะ แต่เพื่อให้ตัวเองมีสัดส่วนที่สมส่วน และสวยเหมือนคนอื่นๆ เขาบ้าง ตอนแรกคิดแบบนั้นเลยค่ะ
• แบบนี้เข้ามาเดินสายประกวดเพาะกายได้ยังไงคะ
มันก็เริ่มจากที่เราเริ่มรู้จักการ Bodybuilding นั่นแหละค่ะ ก็พัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ ทำอยู่เป็นปีๆ จนวันหนึ่งมีผู้ใหญ่มาเห็นเลยแนะนำให้ลองเข้าประกวดดู ก็ตัดสินใจอยู่นานนะคะว่าจะลงประกวดดีไหม เพราะการประกวดต้องใส่บิกินี โป๊ก็โป๊ แล้วเราก็คิดเสมอว่าหุ่นเรามันก็ยังไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น ความมั่นใจไม่มีเลยค่ะ แต่ก็ตัดสินใจลงประกวดเอาประสบการณ์ ลองอะไรใหม่ๆ เพราะดูสนุกดี เลยเตรียมตัวไปเรื่อยๆ จนถึงวันประกวด
วันประกวดครั้งแรกเราก็ไปขึ้นเวทีตัวคนเดียวแบบไม่รู้อะไรเลยนะคะ แต่อันที่จริงมีคำแนะนำจากผู้ใหญ่มาก่อนบ้างแล้ว แต่มันเป็นการขึ้นเวทีครั้งแรกแถมไปตัวคนเดียวอีกต่างหาก ก็เลยตื่นเต้น และสับสนจนเหมือนคนไม่รู้อะไรเลย (หัวเราะ) แต่สุดท้ายก็ได้รับตำแหน่งรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เวที Gymnastic & Fitness ในปี 2015 มาค่ะ
• ประกวดครั้งแรกก็ได้รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เวที Gymnastic & Fitness เลย
ใช่ค่ะ (ยิ้ม) พอหลังจากจบเวทีประกวดครั้งแรกมา เราก็ยังไม่มีความคิดที่จะทำอะไรต่อนะคะ คิดแค่ว่าสนุกดี ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วย แต่พอหลังจากได้ดูภาพตัวเองในวันประกวด รู้สึกประทับใจและรู้สึกมีความตื่นเต้น ท้าทายขึ้นมาอีกว่าเราจะสามารถทำให้ตัวเองจะพัฒนาได้กว่านี้อีกไหม เลยอยากจะทำมันต่อค่ะ แต่ไม่ได้ฝันว่าจะต้องไปให้ถึงระดับที่สูงขึ้นไปอีกแต่มันกลับเป็นความสุขที่ได้ทำ เพราะทุกวันนี้ ทุกครั้งหลังจากการประกวด ลาวก็จะกลับมานั่งดูภาพตัวเองที่อยู่บนเวที และรู้สึกว่าตัวเองดูมีการพัฒนา ดูมีความมั่นใจมากขึ้น ดูมีเสน่ห์มากขึ้น เลยเก็บเอามาเป็นความภาคภูมิในของตัวเองเล็กๆ จะเรียกว่า “หลง (รัก) ตัวเอง” ก็ได้ค่ะ (หัวเราะ)
• ตอนนี้อยู่ในสายประกวดจริงจังเลยใช่ไหมคะ
ทุกเวทีต้องบอกก่อนเลยว่าตื่นเต้นมากๆ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่สนุกและรู้จุดบกพร่องของตัวเองอยู่เสมอ ลาวผ่านเวทีมาไม่มากค่ะ ที่ผ่านมาก็จะมี รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เวที Gymnastic & Fitness 2015ในรุ่น “โมเดลหญิง” , รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 5 เวที Mr.thailand 2016 ในรุ่น “แอธเลติกฟิสิคหญิงรุ่นทั่วไป” รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เวที Gymnastic & Fitness 2016 ในรุ่น “โมเดลหญิง”
ถามว่าเราอยู่ในสายประกวดจริงจังไหมก็ไม่ถึงขนาดนั้นนะคะ ตอนแรกลาวคิดว่าจะเลิกแข่งแล้วด้วย เพราะว่ามันเหนื่อยเหมือนกันนะ แต่พอคิดอีกที การประกวดมันเป็นการตั้งเป้าหมายที่ท้าทายอย่างหนึ่งของเรา แล้วเราก็อยากมีหุ่นสวย ใส่ชุดสวยๆ บนเวทีอีกครั้งก็เลยคิดว่าจะลงแข่งต่อไปค่ะ ซึ่งเป้าหมายที่จะลงแข่งปีนี้ก็เป็นเวที mr.thailand 2016 ที่จะจัดขึ้นเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ค่ะ (ยิ้ม)
• อยากถามถึงการเตรียมตัวก่อนการประกวดหน่อยค่ะว่าต้องทำยังไงบ้างคะ เพราะเห็นว่าต้องเตรียมทั้งเรื่องการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายค่อนข้างหนัก
จะเริ่มจากการเตรียมตารางการซ้อมก่อนเลยค่ะ ทันทีที่แข่งขันเสร็จในแต่ละครั้ง ลาวจะชอบนำรูปตอนแข่งมาดูว่าตัวเองมีจุดบกพร่องตรงไหนบ้าง ต้องเพิ่ม หรือต้องแก้ไขตรงไหนบ้าง แล้วค่อยปรับตารางการซ้อมให้เป็นไปตามที่เราเห็นจุดบกพร่องนั้นๆ
พอเรารู้ถึงจุดบกพร่องแล้ว ก็ทำตารางการซ้อมให้สอดคล้องกันค่ะ โดยพื้นฐานแล้วจะซ้อม 6 วัน พัก 1 วัน โดยซ้อม กล้ามเนื้ออก-หลังแขน, กล้ามเนื้อหลัง-หน้าแขน, กล้ามเนื้อไหล่, กล้ามเนื้อขา หมุนเวียนไปในแต่ละวันและจะมีเพิ่มพิเศษสำหรับจุดบกพร่องนั้นๆ ไปด้วยค่ะ ส่วนการซ้อมกล้ามเนื้อส่วนท้องก็จะทำควบคู่กันไปกับตารางปกติ คือสัปดาห์ละ 3 วัน และออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ 4-5 วัน ยิ่งถ้าใกล้แข่งก็เพิ่มการคาร์ดิโอเข้าไปอีกเราจะวัดเอาจากสภาพหุ่นตัวเองตอนนั้นเลยค่ะ
ส่วนในเรื่องของการคุมอาหารจะมีเป้าหมายไม่ใช้เพื่อให้ตัวเองผอมที่สุด แต่จะควบคุมอาหารเพื่อให้ตัวเองมีไขมันที่น้อยลงและเก็บกล้ามเนื้อไว้ให้มากที่สุดหรือทำให้เป็นบอดี้ลีนค่ะ ส่วนวิธีการคือก็เลือกทานอาหาร เน้นทานโปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, ไขมันให้เพียงพอ ที่สำคัญที่สุด งดทานขนม, ของหวาน, ของทอด, น้ำอัดลม ทุกอย่างค่ะ และมีให้รางวัลตัวเองบ้างบางสัปดาห์ค่ะ แต่ต้องทานให้แต่พองามนะคะ ไม่ต้องทานถึงขั้นกักตุนไว้นะ (หัวเราะ)
• ในฐานะที่เป็นนักเพาะกายหญิง เขาว่าผู้หญิงมีกล้ามน่ากลัว สำหรับเราแล้วคิดยังไงบ้างคะ
ลาวมองว่าผู้หญิงมีกล้ามคือผู้หญิงที่มีสุขภาพดีและรักสุขภาพมากกว่าค่ะ ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ ส่วนตัวแล้วไม่อยากกลับไปผอมแห้งตัวทื่อๆ แบบเมื่อก่อนแล้วค่ะ
น่ากลัวไหม ลาวว่าอาจเป็นเพราะคนส่วนใหญ่มักจะไปจดจำเอาภาพนักกีฬาเพาะกายหญิง ซึ่งในลักษณะนั้นจะมีการสร้างกล้ามเนื้อเยอะกว่าในรุ่นโมเดล หรือนางแบบสวยๆ มากค่ะ เลยทำให้หลายคนกลัวว่าพอออกกำลังกายแล้วจะทำให้กล้ามปู หน้าขาเป็นลูก กล้ามแขนเป็นมัดๆ ลาวขอบอกตรงนี้เลยนะคะว่ายากมาก (ลากเสียงยาว) ขนาดลาวใช้ทั้งเวลา, ทั้งวินัย ทั้งการทานอาหาร และการออกกำลังกายหนักมากๆ ยังได้เท่านี้เองค่ะ ดังนั้นสาวๆ อย่าได้กลัวการออกกำลังกายเลยค่ะ
ส่วนตัวลาวใช้เวทเทรนนิ่งมา 4 ปีได้ และเริ่มทุ่มเทเวลากับการซ้อมแบบจริงจังก็ประมาณ 2 ปีกว่า ตั้งแต่ออกกำลังกายมายอมรับว่าก็มีหนื่อยบ้าง แต่การออกกำลังกายสำหรับลาวเหมือนการผ่อนคลายจากงาน ลาวเหมือนได้ผ่อนคลายจากความเครียดทุกอย่างเลย แต่ก็มีท้อบ้างตอนช่วงเตรียมตัวแข่งค่ะ ทั้งคุมอาหารทั้งซ้อมหนักมันเหนื่อยจริงๆ ค่ะ แต่ในเมื่อเราตั้งเป้าหมายไว้แล้วลาวเลยไม่คิดจะล้มเลิกความตั้งใจนะคะ ลาวคิดเสมอว่า “ไม่ว่าจะเร็วหรือช้าเราก็จะไปถึงจุดหมายได้เหมือนกัน ขอเพียงเราไม่ล้มเลิกไปซะก่อน” มันเลยทำให้ลาวไม่เคยคิดล้มเลิกความตั้งใจเลยค่ะ
• เดี๋ยวนี้เทรนการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพกำลังมาแรงมาก ตรงนี้คิดยังไงบ้าง
ปัจจุบันคนเปลี่ยนพฤติกรรมการออกกำลังกายดูแลสุขภาพเยอะมากจริงๆ ค่ะ ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นข้อดีนะคะ คนไทยจะได้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น เจ็บป่วยน้อยลง
คนเริ่มต้นใหม่ก็อาจจะยากนิดนึง เพราะต้องเริ่มเรียนรู้ด้วยตัวเอง หรืออาจมีการมีเทรนเนอร์ทั้งในยิมหรือทางออนไลน์ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดในการออกกำลังกายและดูแลสุขภาพก็คือ วินัยและจิตใจตัวเองค่ะ
• มีข้อแนะนำสำหรับคนที่อยากหันมาดูแลสุขภาพบ้างไหมคะ
การออกกำลังกายเพื่อดูแลสุขภาพบางครั้งอาจทำให้เราเบื่อ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะ คนส่วนใหญ่มักจะไม่เคยคิดตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนไว้ค่ะ พอเราไม่มีเป้าหมายถึงวันนึงเราจะตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราจะต้องเหนื่อยแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ เมื่อไหร่ถึงจะพอและสุดท้ายก็จะล้มเลิกกันไปค่ะ
ลาวอยากจะชวนทุกคนลองตั้งเป้าหมายดูค่ะ ไม่ต้องใหญ่มาก เล็กๆ พอ ให้เราได้ทำต่อไปเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น “ฉันจะลดน้ำหนักให้ได้ 3 กิโลกรัม ภายใน 1 เดือน" พอเราเริ่มท้าทายตัวเอง มีเป้าหมายชัดเจน การออกกำลังกายจะเริ่มสนุกมากขึ้น แล้วยิ่งพอผ่านตามเป้าหมาย และเราทำสำเร็จ เราจะแอบ ภูมิใจกับตัวเองว่า “ฉันทำได้นะ” ทีนี้แหละการออกกำลังกายของเราจะเริ่มสนุกขึ้น และช่วยทำให้เราทำมันได้นานขึ้น ผลที่ตามมาคือ เราจะดูดีขึ้น และสุขภาพดีขึ้น
• แล้วมีข้อแนะนำสำหรับคนอยากมีกล้ามอย่างไรบ้าง
การสร้างกล้ามเนื้อ ลาวถือว่าตัวเองยังไม่เก่งมากนะคะ เพราะลาวก็ถือว่ายังเป็นมือใหม่อยู่เหมือนกัน แต่มีสิ่งสำคัญที่ลาวพอจะแนะนำได้คือ การเริ่มต้นใหม่มันยากเสมอไม่ว่าจะเรื่องอะไร เราต้องหมั่นศึกษา โดยเฉพาะท่าบริหารส่วนต่างๆ อย่างถูกวิธี และที่สำคัญไปกว่านั้นคือเราต้องไม่เลือกเล่นน้ำหนักที่หนักจนเกินไปจนเราไม่สามารถโฟกัสได้ ลาวมักใช้วิธี อ่าน ถาม สังเกต สมัยนี้การค้นคว้าหาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตง่ายมาก และเคล็ดลับอีกอย่างของลาวก็คือ การตั้งเป้าหมาย ลาวจะท้าทายตัวเองอย่างสม่ำเสมอแล้วเราต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ค่ะ
ส่วนวิธีอื่นๆ ก็น่าจะเป็นการรับประทานอาหาร อย่างอาหารที่ลาวทานส่วนใหญ่ ลาวมักจะเลือกทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันค่ะ ส่วนตัวลาวมักจะเลือกอกไก่มาปรุงอาหารค่ะ เพราะเป็นเนื้อส่วนที่มีโปรตีนสูง, ไขมันต่ำที่สุด และยังอีกทั้งยังราคาถูกด้วยค่ะ แต่จะให้ลาวทานไก่ต้ม อกไก่ปั่น ลาวคงทำได้ไม่ตลอดชีวิต ดังนั้นเราเลยจะเอาอกไก่นี่แหละค่ะ มาปรุงอาหารเป็นเมนูต่างๆ แทน อย่างเมนูอาหารที่จะชอบมากๆ ก็อย่างเช่น น้ำเงี้ยวอกไก่, เกี๊ยวอกไก่น้ำ, อกไก่แดง และลูกชิ้นอกไก่ประมาณนี้ค่ะ
เราต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้สารอาหารเพียงพอกับร่างกายต้องการ ออกกำลังกายสม่ำเสมอพักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำเยอะๆ ซึ่งวิธีนี้นอกจากเป็นการรักษากล้ามเนื้อแล้วยังเป็นการดูแลสุขภาพที่ง่ายและดีมากๆ เลยค่ะ
สุดท้ายเราต้องทำมันอย่างมีความสุข แล้วเราจะทำมันได้ดีและทำได้ตลอดไป ไม่ว่าอะไรก็ตามเราควรทำมันอย่างมีความสุข ต้องไม่ตึงไป ไม่หย่อนไป ไม่ฝืนทำ เราก็จะอยู่กับมันได้นานและทำได้ดีค่ะ (ยิ้ม)
4 เมนูสร้างกล้ามฉบับนักเพาะกายหญิง
1. เมนูน้ำเงี้ยวอกไก่
วิธีทำ
-ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันรำข้าวนิดหน่อย ใส่พริกแกงน้ำเงี้ยวลงไปผัดจนหอม
-ใส่อกไก่สับลงไปผัด (ถ้าผัดเยอะให้ลวกก่อนจะสุกไว)
-ตั้งหม้อน้ำเดือด ใส่รากผักชี ใส่อกไก่ที่ผัดแล้วลงไป ตามด้วยใส่มะเขือเทศ
-ชิมรส ปรุงด้วยเกลือสมุทร ถ้าไม่เปรี้ยวให้ใส่น้ำมะขามเปียกเพิ่ม ใส่เลือดต้ม
***เวลารับประทานบีบมะนาวนิดๆ จะอร่อยมาก
2. เมนูเกี๊ยวอกไก่น้ำไก่แดง
วิธีทำไส้เกี๊ยว
-นำอกไก่บดละเอียด ใส่น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว พริกไทย นวดจนเข้ากัน
-ปั้นใส่แผ่นเกี๊ยว ต้มในน้ำเดือดรอจนเกี๊ยวลอย
วิธีทำอกไก่แดง
-ใช้ผงหมูแดงละลายน้ำ หมักไก่แล้วใช้ส้อมทิ่ม
-นำมาย่างบนกระทะเทฟล่อนจนสีสวย จากนั้นเอาเข้าเตาอบ 180 องศา เป็นเวลา 20 นาที (ใครไม่มีเตาอบให้ย่างบนกระทะเทฟล่อนจนสุก)
วิธีทำน้ำซุป
- ตั้งหม้อให้น้ำเดือด ใส่รากผักชี หัวไชเท้า ปรุงด้วยซีอิ๊วขาว ตุ๋น 30 นาที
วิธีรับประทาน
-ราดน้ำซุปลงบนเกี๊ยวและอกไก่แดง เวลารับประทานปรุงด้วยพริกขี้หนูป่นนิดๆ จะอร่อยมาก
3. เมนูข้าวอกไก่แดง
วิธีทำ
-ละลายผงหมูแดง ไม่ต้องละลายหมด ปล่อยให้น้ำตาลตกตะกอน
-จากนั้นเอาเฉพาะน้ำหมูแดงมาแช่อกไก่ข้ามคืน
-เอาอกไก่ที่แช่ค้างคืนมาย่างให้ได้สีสวย แล้วเอาเข้าเตาอบ 180 องศา 20 นาที รับประทานกับน้ำจิ้มมะขาม
วิธีทำสูตรน้ำจิ้มมะขาม
- ใช้น้ำมะขามเปียกต้มสุก น้ำหวานน้ำดอกไม้ พริกป่น ผสมให้เข้ากัน
4. เมนูลูกชิ้นอกไก่
ส่วนผสม
-อกไก่บดละเอียด 800 กรัม
-เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
-ไข่ไก่ 1 ฟอง
-เกลือสมุทรกะปริมาณเอา
-พริกไทยดำ
-กระเทียมสับ
วิธีทำ
-นวดส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
-ตั้งน้ำเดือดแล้วเบาไฟจนน้ำนิ่ง ปั้นลูกชิ้นลงในน้ำ รอให้ลูกชิ้นลอยแล้วตักขึ้น
-ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนโต๊ะ คั่วลูกชิ้นจนสีสวย
Profile
ชื่อ สกุล : สิริวรรณ เหลืองสุวรรณ์
สังกัด : TrecNutrition Thailand
ผลงานการประกวด :Top Health & Fitness Influencer Thailand ในงาน Influence Asia 2015
รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เวที Gymnastic & Fitness 2015ในรุ่น “โมเดลหญิง”
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 5 เวที Mr.thailand 2016 ในรุ่น “แอธเลติกฟิสิคหญิงรุ่นทั่วไป”
รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เวที Gymnastic & Fitness 2016 ในรุ่น “โมเดลหญิง”
สามารถพูดคุยเรื่องสุขภาพเพิ่มเติมได้ใน instagram : iamlaos
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
