อาจจะเรียกได้ว่า เป็นยาสามัญประจำบ้าน ที่ใครๆ จะต้องนึกถึงเป็นลำดับแรกจริงๆ สำหรับ “ยาพาราเซตามอล” เพราะยาชนิดดังกล่าวเป็นยาที่สามารถใช้ได้ง่าย มีผลข้างเคียงน้อย สามารถใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และช่วยลดอาการเจ็บปวดเบื้องต้น จนเปรียบได้ว่า คิดไม่ออกในทานพาราฯก่อนประมาณนั้น
แต่ในขณะเดียวกัน ในปริมาณของการทานยาดังกล่าว บางครั้งก็มีการสงสัยว่า ทำไมบางคนถึงทาน 1 เม็ด หรือบางคนก็ต้องทาน 2 เม็ด แล้วต้องเอาอะไรมาเป็นตัววัด ถ้าอยากรู้ ก็ตามมาอ่านกันได้เลย

ยาพาราเซตามอลกับขนาดที่เหมาะกับแต่ละคน
โดยสัดส่วนรูปร่างและน้ำหนักของแต่ละคนมักจะไม่เท่ากัน ดังนั้นหากจะต้องทานยาพาราเซตามอลนั้น จะต้องดูองค์ประกอบดังกล่าว รวมถึงอายุของผู้ทานด้วย ซึ่งปริมาณของยาพาราเซตามอลแต่ละครั้ง คือ 10-15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยคำนวณง่ายๆ ตามนี้
-ผู้ที่มีน้ำหนักตัวระหว่าง 34-50 กิโลกรัม ให้ทานเพียง 1 เม็ด ไม่เกิน 5-6 ครั้งต่อวัน
-ผู้ที่มีน้ำหนักตัวระหว่าง 50-75 กิโลกรัม ให้ทานเพียง 1 เม็ดครึ่ง ไม่เกิน 4-5 ครั้งต่อวัน
-ผู้ที่มีน้ำหนักตัวระหว่าง 75 กิโลกรัมขึ้นไป ให้ทานเพียง 2 เม็ด ไม่เกิน 3-4 ครั้งต่อวัน
ส่วนผู้ที่มีน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม สามารถทานได้ 1 หรือ 1 เม็ดครึ่ง และ ผู้ที่มีน้ำหนักตัว 75 กิโลกรัม สามารถทานได้ 1 เม็ดครึ่ง หรือ 2 เม็ด ซึ่งการทานยาในแต่ละครั้ง จะต้องกินห่างกันอย่างน้อยครั้งละ 4 ชั่วโมง
ข้อควรระวัง
ถึงแม้ว่าการทานยาพาราเซตามอลนี้ จะช่วยสามารถคลายความเจ็บปวดไปได้อย่างที่กล่าวไป แต่หากทานในปริมาณที่มากหรือทานติดต่อกันจนมากเกินไป ก็อาจจะส่งผลต่อการทำงานของตับที่ผิดปกติ และอาจจะนำไปสู่โรคตับเป็นพิษ หรือนำไปสู่โรคตับวาย และถ้าหนักสุดก็อาจจะเสียชีวิตได้ด้วย
และในขณะเดียวกัน การทานยาพาราเซตามอลนี้ เมื่อกลับสู่อาการปกติแล้ว สามารถหยุดทานยาได้ทันที หรือถ้าบางรายที่ทานไปแล้วเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืดท้องบวม หรือ มีผื่นคัน ควรหยุดทานยาแล้วพบแพทย์โดยด่วนที่สุด
หมายเหตุ คำแนะนำดังกล่าว ใช้ได้กับตัวยาพาราเซตามอลสูตรทั่วไป (500 มิลลิกรัม) เท่านั้น แต่ถ้าเป็นตัวยาพาราเซตามอลสูตรพิเศษ หรือ ยาแก้ปวดชนิดอื่นๆ ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนทานยาทุกครั้ง
แต่ในขณะเดียวกัน ในปริมาณของการทานยาดังกล่าว บางครั้งก็มีการสงสัยว่า ทำไมบางคนถึงทาน 1 เม็ด หรือบางคนก็ต้องทาน 2 เม็ด แล้วต้องเอาอะไรมาเป็นตัววัด ถ้าอยากรู้ ก็ตามมาอ่านกันได้เลย
ยาพาราเซตามอลกับขนาดที่เหมาะกับแต่ละคน
โดยสัดส่วนรูปร่างและน้ำหนักของแต่ละคนมักจะไม่เท่ากัน ดังนั้นหากจะต้องทานยาพาราเซตามอลนั้น จะต้องดูองค์ประกอบดังกล่าว รวมถึงอายุของผู้ทานด้วย ซึ่งปริมาณของยาพาราเซตามอลแต่ละครั้ง คือ 10-15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยคำนวณง่ายๆ ตามนี้
-ผู้ที่มีน้ำหนักตัวระหว่าง 34-50 กิโลกรัม ให้ทานเพียง 1 เม็ด ไม่เกิน 5-6 ครั้งต่อวัน
-ผู้ที่มีน้ำหนักตัวระหว่าง 50-75 กิโลกรัม ให้ทานเพียง 1 เม็ดครึ่ง ไม่เกิน 4-5 ครั้งต่อวัน
-ผู้ที่มีน้ำหนักตัวระหว่าง 75 กิโลกรัมขึ้นไป ให้ทานเพียง 2 เม็ด ไม่เกิน 3-4 ครั้งต่อวัน
ส่วนผู้ที่มีน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม สามารถทานได้ 1 หรือ 1 เม็ดครึ่ง และ ผู้ที่มีน้ำหนักตัว 75 กิโลกรัม สามารถทานได้ 1 เม็ดครึ่ง หรือ 2 เม็ด ซึ่งการทานยาในแต่ละครั้ง จะต้องกินห่างกันอย่างน้อยครั้งละ 4 ชั่วโมง
ข้อควรระวัง
ถึงแม้ว่าการทานยาพาราเซตามอลนี้ จะช่วยสามารถคลายความเจ็บปวดไปได้อย่างที่กล่าวไป แต่หากทานในปริมาณที่มากหรือทานติดต่อกันจนมากเกินไป ก็อาจจะส่งผลต่อการทำงานของตับที่ผิดปกติ และอาจจะนำไปสู่โรคตับเป็นพิษ หรือนำไปสู่โรคตับวาย และถ้าหนักสุดก็อาจจะเสียชีวิตได้ด้วย
และในขณะเดียวกัน การทานยาพาราเซตามอลนี้ เมื่อกลับสู่อาการปกติแล้ว สามารถหยุดทานยาได้ทันที หรือถ้าบางรายที่ทานไปแล้วเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืดท้องบวม หรือ มีผื่นคัน ควรหยุดทานยาแล้วพบแพทย์โดยด่วนที่สุด
หมายเหตุ คำแนะนำดังกล่าว ใช้ได้กับตัวยาพาราเซตามอลสูตรทั่วไป (500 มิลลิกรัม) เท่านั้น แต่ถ้าเป็นตัวยาพาราเซตามอลสูตรพิเศษ หรือ ยาแก้ปวดชนิดอื่นๆ ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนทานยาทุกครั้ง