ผู้เขียน : ผศ.พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล |
เข้าสู่ปีใหม่ หลายคนอยากเริ่มต้นสิ่งดีๆ ชีวิตใหม่ดีๆ ให้กับตนเอง
การมีความสุขมากๆ มีความทุกข์น้อยๆ เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา
ดั่ง ส.ค.ส. บัตรอวยพรส่งความสุขที่เราได้รับกัน
เราจะทำอย่างไร เพื่อให้ความสุขเกิดขึ้นได้จริง
การเข้าใจเรื่องความทุกข์ ทำให้เราสามารถดูแลตนเองให้ใจทุกข์น้อยลง
ซึ่งเป็นแนวทางที่นำไปสู่ความสุขที่มากขึ้น มากขึ้น
ทุกคนล้วนไม่อยากมี "ทุกข์"
แต่เพราะโลก ... ไม่ได้เกิดมาเพื่อเรา
“โลกจึง ... ไม่ได้ดั่งใจเรา” ทุกประการ
เราจึงทุกข์
ทุกข์จะเล็ก จะใหญ่ ขึ้นอยู่กับอะไร
ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก ระดับเหตุการณ์ความร้ายแรง
เหตุการณ์ยิ่งร้ายแรงมาก โอกาสที่เราจะเกิดทุกข์ใหญ่ยิ่งมาก
แต่ไม่ใช่ทั้งหมด...
หลายคนคงเคยเห็นนะคะว่า มีผู้คนมากมาย ที่เขาประสบเหตุเภทภัยร้ายแรงในชีวิต
แต่หลายครั้ง เรากลับพบว่าเขาเหล่านั้นยังยิ้มได้
แม้หัวใจยังมีความเจ็บปวดอยู่ มีความเศร้าอยู่
แต่ก็พร้อมจะสู้ พร้อมจะยืนหยัด
ที่จะใช้ชีวิตต่อไป อย่างเข้มแข็ง อย่างสง่างาม
ขณะที่บางคน เจอเรื่องราวเล็กน้อยที่ทำให้ทุกข์
แต่ใจเขากลับทุกข์มาก ทุกข์กว่าคนที่เจอทุกข์ใหญ่เสียอีก
อะไรเล่า ที่ทำให้ทุกข์ใหญ่ หรือ ทุกข์เล็ก
ปัจจัยภายนอก ... อาจไม่ใช่คำตอบทั้งหมด
ปัจจัยภายใน ... อาจมีผลอยู่ไม่น้อย
ดั่งคำโบราณบอกว่า “สุข ทุกข์ อยู่ที่ใจ”
เราลองมาดูกันนะคะว่า “สุข ทุกข์ อยู่ที่ใจ” คืออะไร
ก่อนอื่นเรามารู้จักว่า ใจทำงานอย่างไรบ้าง
และทำลักษณะไหน ถึงทำให้ “ใจเป็นทุกข์”
ทำลักษณะไหนทำให้ "ใจเป็นสุข"
1. ตีความ หรือ แปลความ
(หรือที่ภาษาสมัยนี้ใช้คำว่า “มโน” ค่ะ)
คนแต่ละคน จะตีความ แปลความ เรื่องราว และเหตุการณ์ต่างๆ ไม่เหมือนกัน
การตีความไปต่างแบบ ย่อมมีผลกับจิตใจต่างกัน
คนที่มักตีความ หรือ มโน เรื่องราวต่างๆ ไปทางด้านลบ ใจก็มีโอกาสเป็นทุกข์ได้มาก
เช่น วันนี้เพื่อนไม่ทักเรา ถ้าเราถนัดตีความด้านลบ อาจแปลว่า เพื่อนไม่ชอบหน้าเรา เกลียดเรา
บางคนคิดเลยเถิดไปใหญ่โตว่าเราเป็นคนไร้ค่า เป็นคนน่ารังเกียจ
เท่านั้นแหละ ความทุกข์ ก็มาเยี่ยมมาเยือน ที่เรือนใจ ทันที
สิ่งที่ช่วยได้ คือการกลับมารู้ทันการตีความ / มโน (ทั้งด้านบวก ด้านลบ) ก่อนที่จะถูก มโน “หลอก” เรา
การมโนด้านบวกมากไป อาจจะทำให้สุขชั่วขณะ
แต่สุดท้าย ก็อาจทำให้เจ็บ....เพราะผิดหวัง ได้เช่นกัน
การรู้ทันมโน และมองตามความเป็นจริงดีที่สุด
2. คาดหวัง
ความคาดหวัง ... ยิ่งสูง ยิ่ง ... ทำให้ทุกข์มาก
เราคาดหวังกับอะไร เราก็จะทุกข์จากสิ่งนั้น
เราคาดหวังเพื่อนมาก เราก็ทุกข์จากเพื่อนมาก
เราคาดหวังพ่อแม่มาก เราก็ทุกข์จากพ่อแม่มาก
เราคาดหวังแฟนมาก เราก็ทุกข์จากแฟนมาก
เราคาดหวังตัวเองมาก เราก็ทุกข์จากตัวเองมาก
ความคาดหวังอยู่ที่ไหน ความทุกข์ก็รออยู่ที่นั่น
ความคาดหวัง หลายครั้งก็ก่อให้เกิดสิ่งดีๆ
เพียงแต่คนที่ต้องแบก “ความคาดหวังไว้มากๆ” จะไม่ไหว เพราะมันหนักเกิน
ถ้าจะให้ดีก็คือ ควรมีความคาดหวังแต่พอดีๆ
สิ่งที่ช่วยได้คือ ถ้าความคาดหวังนั้น ทำให้ยิ่งทุกข์ยิ่งหนัก
เราต้องลองกลับมาทบทวนความคาดหวังนั้นใหม่ว่า
คาดหวังมากไปหรือเปล่า? เกินจริงไปหรือเปล่า?
แล้วปรับให้พอดีๆ ตามความเป็นจริงมากขึ้น
3. อัตตาตัวตน
ตัวตนยิ่งสูง ความทุกข์ยิ่งมาก
ยึดทุกอย่างเป็น ”ฉัน” เป็น “ของฉัน” ไปหมด
เช่น ยึดตัวเอง คิดถึงแต่ตัวเอง
ยึดคน ... คนนี้คนนั้นเป็นของฉัน
ยึดข้าวของ หวงข้าวหวงของ เป็นของฉัน
ยิ่งถือกรรมสิทธิ์ “ยึดครอง” มากเท่าไหร่
“ความทุกข์ก็จะยิ่งทวีคูณ” ตามการยึดครองมากขึ้นเท่านั้น
ในความเป็นจริง เราไม่ได้เป็นศูนย์กลางของโลกใบนี้
โลกใบนี้ไม่ได้หมุนรอบตัวเรา
โลกใบนี้ หมุนของมันเอง
ไม่มีเรา โลกใบนี้ก็ยังหมุนต่อไปได้
การยึดตัวตนมาก เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เป็นศูนย์กลางมาก
เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดทุกข์ เปล่าๆ
สิ่งที่ช่วยได้คือ ฝึกการปล่อยวาง “ ตัวเรา ของเรา” ลงบ้าง
เราอาจพบสิ่งที่มีค่ากว่า คือ “ความสุข” ที่ทวีคูณขึ้น
3 ข้อที่ผ่านมา ใจยิ่งทำงานแบบนั้นมาก ... ยิ่งทุกข์มาก
แต่ในข้อที่ 4 และ 5 ใจยิ่งทำงานแบบนี้มาก ... ความทุกข์กลับจะลดลง
เราลองมาดูกันว่าใจทำงานอย่างไร
“ทุกข์ใหญ่” จึงจะกลายเป็น “ทุกข์เล็ก” ได้
4. ยอมรับ
ยอมรับ ... ตามความเป็นจริง
การสามารถยอมรับสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริงได้ จะทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้นมาก
แม้หลายครั้งจะเจอทุกข์ใหญ่แค่ไหนก็ตาม
แต่เมื่อยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ความทุกข์ก็ลดลงไปมากทีเดียว
ยอมรับว่า โลกนี้...ไม่ได้ดั่งใจเรา
จาก “ทุกข์ใหญ่” ก็กลายเป็น “ทุกข์เล็ก” ไปได้
ยิ่งเราสามารถยอมรับ สิ่งต่างๆ ความผิดหวัง ในชีวิตได้มากขึ้นเท่าไร
ใจเราก็ยิ่งทุกข์น้อยลงเรื่อยๆ เท่านั้น
5. เรียนรู้จาก "ชีวิต"
วิกฤติ คือ โอกาส
ทุกความทุกข์ ความเจ็บปวด ให้บทเรียนชีวิตที่มีค่าเสมอ
ลองมองคุณค่า ... ที่เราได้จากความทุกข์
ความทุกข์ให้อะไรมากกว่าที่เราเห็นในตอนแรก
ลองมองมันใหม่ แล้วเราจะพบว่า ความทุกข์สอนอะไร เรามากกว่าความสุข
ทำให้เราเติบโตขึ้น เข้มแข็งขึ้น ใช้ชีวิตได้อย่างสมดุล และสวยงามมากขึ้น
จนหลายครั้ง เมื่อมองย้อนกลับไป
เราอาจต้องขอบคุณความทุกข์นั้น ที่ทำให้เรามีสิ่งดีๆ ในวันนี้
สุข ทุกข์ ส่วนหนึ่ง อยู่ที่ใจ
บางครั้ง เราแก้ผลกระทบภายนอกไม่ได้
แต่เราสามารถแก้ผลกระทบภายในใจเราได้
ดังนั้น ทุกข์จะใหญ่ จะเล็ก ... ขึ้นอยู่กับการรับมือของใจเราเอง
เมื่อเราทุกข์น้อยลง เราจะมีความสุขมากขึ้น
ความสุขจึงอยู่ใกล้แค่เอื้อม