บทความโดย “ผศ.พญ.ทานตะวัน อวิรุทธ์วรกุล” ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ รพ.รามาธิบดี |
Spoiler Alert !!! : ใครที่ยังไม่ได้ชมภาพยนตร์ เนื้อหาบทความอาจเปิดเผยบางส่วนของภาพยนตร์
ได้มีโอกาสไปดูภาพยนตร์อนิเมชั่น เรื่อง Zootopia (นครสัตว์มหาสนุก) ซึ่งเป็นภาพยนตร์การ์ตูน ที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี เพราะมีทั้งความสนุก ภาพสวย และให้ข้อคิดดีๆ ในการใช้ชีวิต
ในเรื่องนี้ มีแง่มุมข้อคิดดีๆ ทางจิตวิทยาหลายเรื่อง ซึ่งมีหลายบทความได้พูดถึงกันไปบ้างแล้ว เช่น การสู้เพื่อฝัน การเห็นคุณค่าในกันและกัน หรือการสร้างโลกที่สวยงามด้วยตัวเราเอง เป็นต้น ส่วนในบทความนี้ จะขอพูดถึงประเด็นทางด้านจิตใจ ที่สำคัญอีกประเด็นหนึ่งคือ "แผลใจในวัยเด็ก"
โดยตัวละคร นิค ไวด์ (Nick Wilde) ตัวละคนเด่นอีกตัวหนึ่ง นอกจาก นางเอก จูดี้ ฮอปปส์ (Judy Hopps) กระต่ายนักสู้เพื่อฝัน แล้ว นิค ไวด์ เป็นสุนัขจิ้งจอก รูปร่างผอม ขนสีแดง ในตาสีเขียว มีอาชีพ เป็นมิจฉาชีพ นิสัยที่คนทั่วไปเห็นคือเจ้าเล่ห์ พูดจาเชื่อถือไม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในสังคม Zootopia มักมองเหล่าสุนัขจิ้งจอกไว้แบบนั้้น
ในวัยเด็ก นิค ไวด์ เป็นสุนัขจิ้งจอก ที่มีจิตใจ ใสซื่อบริสุทธ์ และมีความฝันที่จะเป็นเด็กดี ทำประโยชน์เพื่อสัตว์อื่น เขาจึงไปสมัครเป็น “ลูกเสือ” (boy scout) เพื่อที่จะได้ทำความดี ได้ช่วยเหลือสัตว์อื่น และได้ทำพิธีกล่าวคำปฏิญาณสาบานตน ที่จะทำสิ่งนี้ ด้วยใจที่ใสซื่่อ บริสุทธิ์ ภูมิใจ และมุ่งมั่นอย่างมาก
แต่แล้วสิ่งที่เด็กน้อยนิคเจอ กลับทำให้เขาช็อค และกลายเป็นบาดแผลในใจที่แสนเจ็บปวดไปตลอดชีวิต เนื่องจากเพื่อนๆ เหล่าลูกเสือรังเกียจเขา ทำร้ายเขา เหยียดหยามเขาอย่างที่สุด ไม่มีใครยอมรับเขาเลย และร่วมกันทำร้ายเขา อีกทั้งไล่เขาออกจากกลุ่มลูกเสือ ด้วยความเชื่อที่ว่า สุนัขจิ้งจอกไม่มีทางซื่อสัตย์ และทำสิ่งที่มีเกียรติ เช่น เป็นลูกเสือได้ จึงร่วมกันทำร้ายร่างกายและจิตใจของเด็กน้อย นิค ไวด์ อย่างเจ็บปวดแสนสาหัส โดยเฉพาะด้านจิตใจ
ฉากนี้ที่เกิดขึ้นในชีวิตของ เด็กน้อย นิค ไวด์ กลายเป็นบาดแผลในใจ อย่างไม่มีวันที่จะเยียวยาได้อีกเลย เพราะมันทำลายทั้งความภูมิใจ ทำลายทั้งความฝัน ที่จะเป็นสุนัขจิ้งจอกที่ซื่อสัตย์ จิตใจดี และช่วยเหลือสัตว์อื่น รวมถึงทำลายความรู้สึกดีๆ ความรู้สึกมีคุณค่าในตัวเขาจนหมดสิ้น
หลังจากนั้น เขาก็เติบโตขึ้นมา เป็น นิค ไวด์ สุนัขจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์ ตามที่สังคมพยายามยัดเยียดให้เขาเป็น เพราะเขาสิ้นหวังเกินกว่าที่จะต้านคำพิพากษาของสังคมที่พยายามยัดเยียด เหยียดหยาม ให้เขาเป็นได้แค่จอมเจ้าเล่ห์
จากฉากนี้ในภาพยนตร์ จะเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวัยเด็กของ นิคน้อย นำมาซึ่งบาดแผลในใจอันใหญ่มากและเปลี่ยนเขาไป(เกือบ)ชั่วชีวิต
หลายคนในชีวิตก็เช่นกัน
หลายคนมีบาดแผลในวัยเด็ก เป็นแผลใจ ที่แม้ว่ากาลเวลาผ่านไป แผลใจนั้นก็ยังมีอิทธิพลกำหนดเส้นทางชีวิตให้เดินโดย รู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง เช่น บางคนเคยถูกเพื่อนล้อเลียนเรื่องความอ้วน โตขึ้นกลายเป็นคนกลัวอ้วนมาก จนต้องคอยคุมอาหารกลัวอ้วน จนกลายเป็นโรคคลั่งผอม ที่อดอาหารจนร่างกายทรุดโทรม และเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ หรือถูกเพื่อนล้อเลียนเรื่องหน้าตา ทำให้โตขึ้นมากลายเป็นคนขาดความมั่นใจเรื่องหน้าตา คอยวิตกจริตกับหน้าตาของตนเองมาก จนขาดความสุข
บางคนมีบาดแผลในใจเป็นภาพครอบครัวในวัยเด็กที่พ่อแม่ทะเลาะกัน ด้วยเรื่องการเลี้ยงลูก สุดท้ายหย่าร้างกัน แล้วฝังใจว่าตนคือสาเหตุ จากนั้นก็เฝ้าโทษตนเองมาตลอดว่าเป็นเพราะตน พ่อแม่จึงหย่าร้างกัน เลยไม่เคยยอมให้ตนเองใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพราะต้องการลงโทษตนเอง จากความรู้สึกผิดนั้น
หรือเด็กสาวบางคนมีความทรงจำที่ไม่ดี เกี่ยวกับผู้ชาย เช่น ภาพพ่อทำร้่ายแม่ หรือ ตนเองเคยถูกผู้ชายทำร้ายมา ทำให้การใช้ชีวิตในตอนโต ด้วยความเกลียดและกลัวผู้ชาย จนทำให้ส่งผลต่อการเข้าสังคม การเรียน การทำงาน หรือบางคนมีความทรงจำที่ไม่ดี เกี่ยวกับเรื่องเพื่อน ในวัยเด็ก ประสบเหตุการณ์ว่า เพื่อนไม่ยอมรับ ไม่เล่นด้วย เพื่อนๆไม่อยากให้เข้ากลุ่ม พอโตขึ้น มักจะไม่กล้าเข้าไปทำความรู้จักกับใคร มักตราหน้าตนเองว่าเป็นคนที่ไม่มีใครอยากคบ เศร้า เหงา และอ่อนไหวง่าย กับท่าทีสีหน้าของเพื่อน เป็นต้น
สาเหตุที่แผลใจในวัยเด็กส่งผลกระทบกับชีวิตได้อย่างไร?
สิ่งเหล่านี้เกิดจากการที่เรานำความทรงจำในอดีต (ซึ่งจริงๆ จบไปแล้ว) มาหลอกหลอนตนเองในปัจจุบัน (ซึ่งเป็นเหตุการณ์ใหม่) โดยเป็นกระบวนการดังนี้
ความทรงจำในอดีต : บาดแผลในวัยเด็ก + ความคิดปรุงแต่งต่อเติมเหตุการณ์ปัจจุบัน --> นำมาสู่ความเชื่อเดิมๆ ว่าเราแย่ (ตามบาดแผลเดิมในวัยเด็ก) --> นำมาสู่ความทุกข์กับเรื่องเดิมๆ และมีวิถีชีวิตที่ไม่เหมาะสมแบบเดิมๆ
ซึ่งจากภาพยนตร์ จะเห็นว่าในที่สุด เมื่อนิคโตขึ้น สังคมรอบตัวก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว ไม่ใช่กลุ่มเพื่อนเดิมๆ ที่ทำร้ายเขาแล้ว คนในสังคมปัจจุบัน (ปัจจุบัน) ก็พร้อมจะเคารพนับถือเขา (ซึ่งต่างจากสังคมที่เขาเจอในวัยเด็ก) ถ้าเขาพิสูจน์ตนเองได้ว่า เขาคือสุนัขจิ้งจอกที่ซื่อสัตย์ มีจิตใจทีดี และพร้อมจะทำสิ่งดีๆ ต่อสังคม แต่ถ้าเขาไม่สามารถก้าวข้าม ความทรงจำเดิม + ความคิดปรุงแต่งต่อเติม เขาก็จะวนอยู่วงจรเดิม ทุกข์เหมือนเดิม ทั้งที่เหตุการณ์นั้น ที่เคยทำร้ายเขา จบไปนานแล้ว และคนที่เคยทำร้ายเขา ตอนนี้ก็ไปแล้ว
แต่เป็นใจเขาเอง ความคิดของเขาเอง ที่เฝ้าพิพากษาตนเองซ้ำๆ เป็นใจเขาเองที่ทำให้เขา เหมือนตกอยู่ในเหตุการณ์ที่เป็นแผลเก่า แต่เมื่อเขามีสติ และก้าวออกจาก โลกความทรงจำ โดยไม่ไปปรุงแต่งต่อ แล้วเปลี่ยนมามองโลกปัจจุบัน อย่างที่มันเป็นจริง ด้วยใจที่เป็นกลาง เขาจะค้นพบโลกใหม่ที่เป็นจริง ที่เป็นโลกที่รอให้เขาค้นพบสิ่งใหม่ๆ อยู่
เราควรดูแลจิตใจอย่างไร?
เราคงไม่สามารถกลับแก้ไขอดีตได้ แผลใจที่เกิดขึ้น ได้เกิดขึ้นไปแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือ เราจะดูแลใจอย่างไร ที่ไม่ให้แผลใจในวัยเด็กยังส่งอิทธิพลกำหนดชีวิตเราไปจนผิดทาง ดังนั้น การรู้ทันความทรงจำเก่าและความคิดปรุงแต่งต่อเติมในปัจจุบัน จึงเป็นก้าวสำคัญให้เราก้าวพ้นออกจากโลกเก่า และออกสู่โลกใหม่ที่มีอะไรดีๆ รอเราอยู่อีกมากมาย