Insomniac Games กล่าวยอมรับการผจญภัยท่องโลกต่างมิติในผลงานเกมใหม่ของพวกเขา จะไม่มีทางเกิดขึ้นจริงได้หากปราศจากความเร็วในการโหลดข้อมูลอันเหลือเชื่อของเครื่อง PS5
"มาร์คัส สมิธ" (Marcus Smith) หนึ่งในบุคลากรคนสำคัญแห่งสตูดิโอ Insomniac Games ออกมากล่าวเปิดใจผ่านคลิปวิดีโอ Developer Diary ของเกม "Ratchet & Clank: Rift Apart" ผลงานเกมภาคใหม่แกะกล่องที่เพิ่งประกาศทำลงสำหรับเครื่องคอนโซล เพลย์สเตชัน 5 โดยมีเนื้อหาใจความอยู่ตรงสปีดความเร็วของเจ้า SSD ที่อยู่ภายใน และระบบตอบสนองในตัวคอนโทรลเลอร์ DualSense ที่ทำให้มันเป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยมีใครสัมผัสมาก่อน
โดยเขาอธิบายว่า หัวใจหลักของซีรีส์ Ratchet & Clank คือการที่ผู้เล่นได้ท่องสำรวจไปยังโลกต่างๆและไปในสถานที่ที่ยังไม่เคยไป ซึ่งในเกมภาคใหม่ Rift Apart นี้ พวกเขายังคงเจริญรอยตามคอนเซปต์นั้น พร้อมกับยกระดับนำพาซีรีส์ก้าวขึ้นไปอีกขั้น ด้วยองค์ประกอบใหม่อย่าง "มิติรอยแยก" ที่สามารถเทเลพอร์ตเคลื่อนย้ายผู้เล่นไปสู่อีกมิติได้ในฉับพลัน ดังนั้นความเร็วในการโหลดฉากสภาพแวดล้อมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
"Ratchet & Clank นับเป็นซีรีส์ที่ภาคภูมิใจในการเดินทางสำรวจโลกและพาคุณไปยังสถานที่ที่ไม่เคยไป นั่นเป็นสิ่งที่เรากำลังยึดมั่น และเป็นสิ่งที่เครื่อง PlayStation 5 ได้มอบโอกาสให้กับเราด้วยขุมพลังแรงม้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งจำนวนวัตถุสิ่งของในฉาก มีอะไรให้ได้สำรวจเยอะขึ้น รวมไปถึงกองทัพข้าศึกศัตรู เอฟเฟกต์ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนถูกเพิ่มพูนให้มากและมากขึ้น ซึ่งการที่เราสามารถย้ายผู้เล่นจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้ในแบบปราศจากหน้าจอรอโหลดนั้น เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนตัวพลิกเกมสำคัญที่สุดแสนจะเหลือเชื่อ" สมิธ กล่าว
นอกจากนี้ สมิธ ยังระบุถึงฟีเจอร์ใหม่ Tactile Feedback และ Adaptive Triggers ในตัวคอนโทรลเลอร์ DualSense ว่า มันจะช่วยให้ผู้เล่นสัมผัสได้ถึงพลังความรุนแรงและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของอาวุธแต่ละชิ้น ยกตัวอย่างเช่น The Enforcer ปืนลูกซองกระบอกคู่ในเกม ที่การกดปุ่ม R2 ลงไปเพียงครึ่งเดียว ลูกกระสุนจะออกไปแค่หนึ่งนัด หากต้องการยิงพร้อมกันสองนัดก็ต้องกดปุ่ม R2 ลงไปจนสุด อะไรแบบนี้เป็นต้น
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
playstationlifestyle
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*