นักวิเคราะห์ชี้ค่ายนินเทนโดเริ่มปรับแผนการตลาดลดความสำคัญของเกมสมาร์ตโฟน หันไปเน้นเครื่องสวิตช์ที่กำลังประสบความสำเร็จแทน
เดิมที ประธานนินเทนโด "ชุนทาโร ฟุรุคาวะ" ก็เคยออกนโยบายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาว่าจะปั้นธุรกิจเกมสมาร์ตโฟนให้มีมูลค่าถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยวางกำหนดการปล่อยเกมใหม่ 2-3 เกมต่อปี สานต่อแผนจากยุคประธานคนก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ประธานฟุรุคาวะก็พูดถึงประเด็นนี้อีกครั้งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เปลี่ยนท่าทีว่าพวกเขาจะไม่ทำเกมสมาร์ตโฟนออกมาจำนวนมากอีกแล้ว
แผนการเข้าสู่ตลาดเกมสมาร์ตโฟนของนินเทนโดเริ่มต้นจากยุคคอนโซล Wii U ที่ล้มเหลวจนบริษัทต้องหาช่องทางทำรายได้เพิ่มและสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุน แต่จากความสำเร็จปัจจุบันของสวิตช์ก็ทำให้พวกเขาลดความสำคัญด้านนี้ลงแล้วกลับไปเน้นเครื่องเกมของตนเองแทน
นักวิเคราะห์ Serkan Toto จากบริษัทคันตันเกมส์ชี้ว่า นินเทนโดได้ปล่อยเกมฟอร์มใหญ่ Mario Kart Tour ออกมาเมื่อปลายปีก่อนแล้วก็ไม่เหลืออะไรในกำหนดการอีก เนื่องจากคอนโซลประสบความสำเร็จจึงไม่มีความกดดันให้ต้องทำเกมสมาร์ตโฟนเพิ่ม โดยในอนาคตจะยังมีเกมใหม่แต่ก็เหมือนกับการเอาใจนักลงทุนผู้ถือหุ้นเท่านั้น
ในปีนี้ มูลค่าตลาดเกมสมาร์ตโฟนโดยรวมคาดว่าจะสูงไปถึง 7.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐคิดเป็นอัตราส่วนครึ่งหนึ่งของวงการวีดีโอเกมทั้งหมด แต่ปัญหาคือรูปแบบธุรกิจที่ใช้วิธีโหลดฟรีแล้วบีบให้คนเล่นจ่ายเงินเพื่อความได้เปรียบ กลายเป็นที่เพ่งเล็งจากหน่วยงานจัดระเบียบโดยเฉพาะระบบเสี่ยงโชค "กาชา" ที่ใกล้เคียงกับการพนัน
สำหรับนินเทนโด ทางบริษัทก็ได้ทดลองวิธีทำเงินหลายรูปแบบในตลาดสมาร์ตโฟนซึ่งส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก มีเพียงระบบกาชาที่ทำรายรับมหาศาล แต่ก็ยังบอกค่ายเกมที่เป็นพาร์ตเนอร์กันมิให้ขูดรีดเกินไปเพื่อรักษาภาพลักษณ์แบรนด์
ฮิเดกิ ยาสุดะ จาก Ace Research Institute แสดงความเห็นว่า ระบบกาชาเป็นวิธีเดียวที่สามารถทำเงินได้ดีในญี่ปุ่น โดยค่ายเกมจำเป็นต้องใช้แฟรนไชส์ที่มีตัวละครนับร้อยช่วยดึงดูดและคอยอัพเดตเนื้อหาทุกเดือน ขณะที่นินเทนโดมีเพียงซีรีส์ Fire Emblem อันเดียวที่พอเข้าข่าย
หนึ่งในค่ายที่ประสบความสำเร็จจากวิธีนี้คือสแควร์เอนิกส์ซึ่งมีซีรีส์ Dragon Quest และ Final Fantasy ทำเกมฟอร์มใหญ่บนคอนโซลสร้างชื่อเสียงให้กับแฟรนไชส์แล้วหารายรับเพิ่มจากเกมสมาร์ตโฟนต่อ อีกทั้งยังปล่อยออกมาจำนวนมากอิงจากหลายๆ ภาคไม่จำกัดอยู่แค่เกมเดียว
นอกจากนินเทนโดแล้ว ยักษ์ใหญ่อย่างโซนีก็ได้ให้แผนกวีดีโอเกมตั้งบริษัทใหม่ ForwardWorks เพื่อทำเกมสมาร์ตโฟนอิงจากแฟรนไชส์เพลย์สเตชันเช่นกัน แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ขณะที่เกมฮิตอย่าง Fate/Gran Order ก็เป็นผลผลิตจากฝั่งโซนีมิวสิคคนละแผนกกัน
ข้อมูลจาก
Bloomberg
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*