xs
xsm
sm
md
lg

โหดได้อีก! เปิดตัว "AlphaGo Zero" สมองกลหมากล้อมใหม่-อัดรุ่นเก่ากระจุย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<b>ภาพประกอบจากเว็บไซต์ DeepMind</b>
บริษัทดีพไมนด์ใต้สังกัดกูเกิลอวดระบบสมองกลรุ่นล่าสุดในชื่อ "อัลฟาโกะซีโร่" (AlphaGo Zero) โชว์ผลงานหัดเล่นหมากล้อมใหม่จากศูนย์ จนแซงหน้าเวอร์ชันเก่าได้ในเวลาไม่นาน

โครงการดังกล่าวเริ่มเป็นรู้จักขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี 2016 โดยบริษัทดีพไมนด์ได้เปิดตัวสมองกลอัลฟาโกะที่สามารถเล่นหมากล้อมเอาชนะมนุษย์มืออาชีพได้จริงเป็นครั้งแรก จากนั้นก็นำไปปราบ "อี เซดอล" นักเล่นระดับโลกของเกาหลีใต้ และต่อด้วย "เคอเจี๋ย" มือหนึ่งของจีนจนกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก

ล่าสุด พวกเขาก็พัฒนาระบบสมองกลขึ้นไปอีกขั้นในชื่อว่า "อัลฟ่าโกะซีโร่" กลับไปตั้งต้นเรียนรู้วิธีเล่นใหม่จากศูนย์และใช้เวลาไม่นานก็สามารถกลับมาเอาชนะเวอร์ชันเก่าได้ถึง 100 เกมต่อ 0 เลยทีเดียว

อัลฟาโกะซีโร่เริ่มจากการใช้แค่หมากขาวและหมากดำเป็นข้อมูลอินพุท จากนั้นก็จำลองการเล่นพัฒนาความสามารถคิดค้นกลยุทธ์ด้วยตนเองทั้งหมด ต่างจากเวอร์ชันเก่าที่มีมนุษย์ช่วยใส่ข้อมูลทางวิศวกรรมและบันทึกตาเดินมืออาชีพในระดับหนึ่ง

นอกจากนี้ เครือข่ายประสาท (neural network) ของรุ่นซีโร่จะมีเพียงชุดเดียวเพื่อหาตำแหน่งการวางหมากที่ดีที่สุด ปรับปรุงจากของเก่าที่แยกเป็นเครือข่ายยุทธวิธีเลือกตาเดินและเครือข่ายประเมินค่าคำนวนแต้มหาผู้ชนะ รวบมาเป็นอันเดียวเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

ในเวลา 3 ชั่วโมงแรก อัลฟาโกะซีโร่ยังเล่นเหมือนมนุษย์มือใหม่รู้จักแค่การไล่จับกินไม่สนเกมระยะยาว จนถึง 19 ชั่วโมงก็เข้าใจหลักการหมากเป็นหมากตาย อิทธิพลการล้อมเขตแดน และเพียงแค่ 70 ชั่วโมงก็เล่นได้เหนือมนุษย์ มีแบบแผนมองเห็นทั่วทั้งกระดาน

เมื่อนับตามระบบคะแนน Elo Rating รุ่นซีโร่ก็แซงหน้าเวอร์ชันเก่าที่เอาชนะ "อี เซดอล" ได้ด้วยการพัฒนาตนเองเป็นเวลา 3 วัน ต่อด้วยการขึ้นไปเทียบเท่าเวอร์ชันมาสเตอร์ที่เอาชนะ "เคอเจี๋ย" กับมือโปรรายอื่นอีก 60 คนแบบออนไลน์ในเวลา 21 วัน และเมื่อถึง 40 วันก็กลายเป็นอัลฟาโกะที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งหมดนี้ใช้แค่วิธีเล่นกับตนเอง ไม่มีข้อมูลในอดีตหรือมนุษย์มาช่วยสอนเลย

ทางบริษัทดีพไมนด์ชี้ว่าอัลฟาโกะซีโร่ได้แข่งกับตนเองนับล้านเกม เรียนวิธีเล่นหมากล้อมจากศูนย์แล้วสะสมภูมิความรู้เทียบเท่าเวลานับพันปีของมนุษย์ได้ในไม่กี่วัน สร้างความเชื่อมั่นว่าระบบปัญญาประดิษฐ์นั้นจะช่วยเสริมความฉลาดให้กับมนุษย์ได้ หากนำไปประยุกต์ใช้กับปัญหาอื่นอย่างเช่นการถอดโครงสร้างโปรตีน ลดการใช้พลังงาน หรือค้นหาวัสดุใหม่ๆ ก็จะส่งผลดีต่อโลกอย่างแน่นอน



ข้อมูลจาก
DeepMind

*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
กำลังโหลดความคิดเห็น