แนว อาร์พีจี
ระบบ PS4
เรตเกม PEGI: 16 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
การกลับมาของสุดยอดตำนานเกมอาร์พีจี ที่บรรดาสาวกไฟนอลฯต่างเทใจยกให้มันเป็นหนึ่งในภาคที่มีระบบการเล่นสนุกที่สุดในซีรีส์ กับเรื่องราวการเดินทางกอบกู้แผ่นดินบ้านเกิดของเหล่าคณะผู้ถูกหมายหัว
เมื่อพูดชื่อเกม "Final Fantasy XII The Zodiac Age" เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกคุ้นหูเหมือนเคยได้ยินมาก่อน เพราะแท้ที่จริงแล้ว มันคือการนำเอาตัวเกมไฟนอลฯภาคส่งท้ายเครื่อง PS2 ในเวอร์ชันอินเตอร์ "Final Fantasy XII International Zodiac Job System" ที่เคยทำขายแค่เฉพาะแดนปลาดิบเมื่อปี 2007 กลับมารีมาสเตอร์ภาพปรับปรุงเสริมแต่งอะไรนิดๆหน่อยๆ เพื่อให้แฟนๆทั่วโลกที่ครอบครองเครื่องเพลย์สเตชัน 4 ได้มีโอกาสสัมผัสมันเหมือนชาวญี่ปุ่น นั่นเอง
ในส่วนเนื้อหาของเกม FFXII ฉบับ PS4 นี้ ทุกอย่างยังคงเดิมเหมือนเช่นในอดีต ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือมีคอนเทนต์แปลกใหม่มาเพิ่มเติม ซึ่งบอกเล่ากล่าวถึงอาณาจักรเล็กๆอย่าง ดัลมัสก้า ที่ต้องเผชิญหน้ารับมือกับการบุกรุกรานของอาณาจักรมหาอำนาจอย่าง อาร์เคเดีย ที่ถึงแม้สุดท้ายแล้ว ความพยายามดิ้นรนหนีรอดจากปลาใหญ่จะไม่เป็นผล ต้องยอมตกเป็นเบี้ยล่างให้กับฝ่ายที่มีกำลังพลเหนือกว่า แต่ทว่าแสงแห่งความหวังของเหล่าผู้คนในอาณาจักรก็ไม่เคยดับสูญ และยังคงส่องสว่างอยู่ในตัวเด็กหนุ่มหัวขโมย ผู้มีฝันอันยิ่งใหญ่ไกลเกินตัว
ระบบการเล่นในเกมไฟนอลฯลำดับที่ 12 นี้จะค่อนข้างแตกต่างไปจากภาคก่อนๆที่เคยสัมผัสกันมา เพราะมันไม่ใช่แนวเทิร์นเบส ยืนเข้าแถวเรียงกระดาน หยุดรอเวลาเพื่อใส่คำสั่งผลัดกันตีอีกต่อไป แต่จะหันมาใช้ระบบต่อสู้แบบเรียลไทม์ ที่เราสามารถบังคับตัวละครเดินได้อิสระเหมือนเกมแอ็คชั่นอาร์พีจี พร้อมสอดแทรกระบบปัญญาประดิษฐ์ที่เรียกว่า "แกมบิท" (Gambit) อันเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถเซตค่าตั้งโปรแกรมกำหนดเงื่อนไขการโจมตี, ใช้สกิล หรือ ฮีล ของสมาชิกในทีมแต่ละคนได้ล่วงหน้า ช่วยให้การฝ่าฟันฝูงมอนสเตอร์หน้าเดิมๆเป็นไปอย่างลื่นไหล และสะดวกสบายไม่ต้องคอยใส่คำสั่งซ้ำๆ ซึ่งจะว่าไปอารมณ์มันก็คล้ายๆกับการเปิดใช้งานบอทในเกม MMORPG ต่างกันเพียงแค่สามารถตั้งโปรแกรมบอทตามใจเราได้ นั่นเอง
ถึงแม้เกมเพลย์จะดูสดใหม่แปลกตาออกไปสำหรับคนที่ไม่เคยสัมผัสมันมาก่อน แต่ทว่าไฮไลท์หลักจริงๆแล้วของเกม "Final Fantasy XII The Zodiac Age" มันอยู่ตรงระบบจ๊อบของตัวละคร ที่ถูกแบ่งเป็น 12 อาชีพ 12 ราศี (Zodiac Job System) แยกสกิลที่ต้องเรียนรู้ และอุปกรณ์ที่สวมใส่ได้ ออกจากกันอย่างชัดเจน ซึ่งช่วยขจัดความเละเทะสับสนวุ่นวายอันเกิดจากการปล่อยให้ผู้เล่นมีอิสระเสรีเดินตารางอัปสกิลแบบสะเปะสะปะตามใจชอบในเวอร์ชันต้นฉบับดั้งเดิม แถมหากเลือกอาชีพให้กับตัวละครตัวใดไปแล้ว เราก็จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอาชีพตัวละครตัวนั้นได้อีก เว้นแต่ว่าเราจะเล่นไปไกลจนถึงขั้นสามารถปลดล็อคเลือกอาชีพสำรองลำดับที่สองให้กับตัวละคร ที่ทีมงานใจดีใส่เพิ่มมาให้เฉพาะในตัวเกมเวอร์ชัน PS4 นี้
สำหรับใครที่ภาวนาวาดฝันเอาไว้ว่า การมาลงให้กับเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่ แล้วภาพกราฟิกภายในเกมจะถูกปรับปรุงให้สมทันยุคสมัย ก็ขอให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เพราะการกลับมาในรอบสองนี้ มันแค่ผ่านกระบวนการ "รีมาสเตอร์" มาเท่านั้น และก็เป็นไปตามธรรมเนียมปกติของการรีมาสเตอร์เกมเก่า ที่จะต้องปรับอัตราส่วนภาพให้รองรับกับทีวีจอกว้างไวด์สกรีน เพิ่มความละเอียดภาพเป็นระดับเอชดี ดูคมชัดขึ้นมาอีกนิด รวมถึงแสงเงาที่ดูเนียนตาขึ้นมาอีกหน่อย และปิดท้ายด้วยระบบถ้วยรางวัลโทรฟี่ ให้ได้เล่นปลดล็อคกันตามสูตร
หากยังจำความแปลกประหลาดกันได้ ตัวเกมต้นฉบับ "Final Fantasy XII International Zodiac Job System" สมัยเครื่อง PS2 หน้าต่างเมนู และข้อความตัวหนังสือภายในเกมนั้น จะเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด ในขณะที่เสียงพากย์กลับเป็นภาษาอังกฤษ เลือกเปลี่ยนไม่ได้ ซึ่งค่อนข้างขัดหูขัดใจแฟนๆ แต่พอมาในเวอร์ชันรีมาสเตอร์ใหม่นี้ ดูเหมือนทางค่ายสแควร์เอนิกส์ จะสดับรับฟังเสียงเรียกร้องของแฟนๆมากขึ้น ถึงได้เพิ่มเติมออปชั่นให้ผู้เล่นสามารถเลือกเปลี่ยนจากสำเนียงอังกฤษดั้งเดิมที่ไม่ตรงกับการขยับปากของตัวละคร มาเป็นเสียงพากย์ภาษาญี่ปุ่นได้ และกลับกันในส่วนของข้อความเมนูตัวหนังสือ ก็เปลี่ยนสลับมาใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษสากล ให้แฟนๆทุกคนสามารถเข้าถึงระบบการเล่นอันแสนลึกซึ้งของเกมได้ง่ายขึ้น
อย่างที่รู้กันดี นอกเหนือจากระบบ 12 อาชีพแล้ว ไฮไลท์สำคัญอีกหนึ่งประการของเกมไฟนอลฯภาค "International Zodiac Job" นั่นคือเรื่องของความสะดวกสบายในการเล่น จากนานาฟีเจอร์ปลีกย่อยที่มาช่วยให้การผจญภัยของผู้เล่นดูกระชับฉับไวยิ่งขึ้น อย่างเช่น แผนที่เวิลด์แม็พ ที่ยามหลงทางเราสามารถเรียกเปิดขึ้นมาดูทับซ้อนกับภาพการเล่นปกติได้ตลอดเวลาแบบเรียลไทม์ ไม่จำเป็นต้องหยุดเกมเข้าไปดูผ่านหน้าจอเมนูอีกต่อไป, ปุ่มวิเศษ L1 ที่เอาไว้เร่งสปีดความเร็วของเกม รวมถึงกล่องสมบัติ และเหล่ามอนสเตอร์ ก็เกิดใหม่ไวขึ้น ถูกใจขาปั๊มเลเวลนักแล แต่สิ่งที่ชอบมากที่สุด และมีให้เห็นแค่เฉพาะในเกมเวอร์ชันรีมาสเตอร์ใหม่นี้ คงต้องยกให้กับ ระบบเซฟข้อมูลอัตโนมัติ ที่ขยันหมั่นเก็บบันทึกข้อมูลการเล่นทุกครั้งยามที่ตัวละครเดินข้ามฉาก ซึ่งช่วยได้มากเวลาเจอกับบอส หรือมอนสเตอร์สุดแกร่ง ส่งผลให้บทบาทของแท่งคริสตัล ถูกลดลงมาเป็นเพียงแค่จุดแวะพักเอาไว้ฟื้นฟู HP และ MP อย่างเดียว
ขึ้นชื่อ สแควร์เอนิกส์ แล้ว ไม่ว่าค่ายนี้หยิบจับอะไรมานำเสนอย่อมต้องตั้งราคาแพงเวอร์เอาไว้ก่อน ไม่เว้นแม้กระทั่งเกมเก่าอายุอานามหลายสิบปีอย่าง "Final Fantasy XII The Zodiac Age" ที่ติดป้ายขายในราคาที่สูงพอๆกับแผ่นเกมออกใหม่ แต่โดยรวม มันก็นับเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับการได้มีโอกาสกลับไปเยี่ยมเยือนดินแดน อิวาลิซ อีกครั้ง ในรูปแบบที่สนุกเล่นง่าย สะดวกสบาย และได้อรรถรสเต็มอิ่มยิ่งกว่าเคย
เกมการเล่น | 10 |
กราฟิก | 8 |
เสียง | 9 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 9 |
ภาพรวม | 9 |
ข้อดี : เกมเพลย์ยังสนุกสุดยอดเหมือนเดิม, ระบบ Gambit แสนสร้างสรรค์, หนึ่งตัวละครเลือกได้สองอาชีพ, เซฟอัตโนมัติทุกครั้งที่ข้ามฉาก, เปลี่ยนเสียงพากย์เป็นภาษาญี่ปุ่นได้ และเหล่าฟีเจอร์มากมายที่คอยอำนวยความสะดวก
ข้อเสีย : กราฟิกไม่ก้าวกระโดดไปไกลจากเดิมมากนัก และราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับสิ่งที่ใส่เพิ่มเข้ามา
Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงคโปร์ (หรือ SIES)
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*