xs
xsm
sm
md
lg

Review: Watch Dogs 2 แก๊งค์นักสอด ยอดจารชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แนว แอ็คชั่นโอเพ่นเวิลด์
ระบบ PS4, Xbox One (PC ออก 29 พ.ย.)
เรตเกม ESRB: M เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 17 ปีขึ้นไป

ผลงานเกมแอ็คชั่นเจาะเมืองภาคต่อที่ขอสืบทอดแค่ชื่อ จากการเปลี่ยนตัวละครเอกหันไปใช้บริการหนุ่มผิวสีที่แลดูมีราศีของความเป็นแฮคเกอร์ มากกว่าสายลับเพชฌฆาตที่หลงมาโผล่ผิดเกมในภาคก่อน

ด้วยอิทธิพลของสื่อภาพยนตร์ฮอลลีวูด ที่หวังเอนเตอร์เทนผู้ชมให้ลุ้นระทึกไปกับฉากบู๊แอ็คชั่นถึงได้ทาบทาม ดาราหนุ่มกล้ามโต ที่ผู้คนต่างคุ้นเคยในบทบาทของเทพเจ้าสายฟ้า มารับบทแสดงนำเล่นเป็นพระเอกในหนังจารกรรมเรื่อง "Blackhat" รวมถึงความปรารถนาดีของทีมงานยูบิซอฟต์ ที่อยากให้ผู้เล่นออกป่วนเมืองสร้างความโกลาหลได้อิสระตามอำเภอใจในเกม "Watch Dogs" ภาคแรก จึงอาจทำให้ภาพลักษณ์ที่เราจินตนาการวาดฝันยามพูดถึงเหล่าเซียนคอมฯมือติดแป้นหน้าติดจอผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง และเพื่อเป็นการลบภาพมายาลวงหลอกเหล่านั้นให้มลายหายสิ้นไปจากหัวสมองของแฟนๆ ทางทีมพัฒนาจึงขอโอกาสแก้ตัวอีกครั้งในเกมภาคสอง ที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจตรงกันในความหมายของคำว่า "แฮคเกอร์"

สำหรับพล็อตเรื่องในภาคนี้ ก็ยังคงพันเกี่ยวกับระบบสอดส่องความปลอดภัย ctOS (central Operating System) ของรัฐบาล ที่ถึงแม้จะถูกทลายปิดตัวลงไปแล้วในเมืองชิคาโก แต่บริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ผู้อยู่เบื้องหลังก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาต่อยอดจนผุดเวอร์ชัน 2.0 ขึ้นมา เพื่อหวังกอบโกยเม็ดเงินจากกระเป๋าของเหล่าประชาชนคนบริสุทธิ์ในเมืองซานฟรานซิสโก ซึ่ง "มาร์คัส ฮอลโลเวย์" (Marcus Holloway) พระเอกหนุ่มผิวหมึกสมองเปรื่องของเรา ก็เป็นหนึ่งในคนที่รู้เท่าทันแผนการ และถูกระบบดังกล่าวใส่ร้ายป้ายความผิด เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากจับมือเข้าร่วมขบวนการกับกลุ่มแฮคเกอร์มือฉมัง DedSec เพื่อเปิดโปงความจริงทุกอย่างให้โลกรู้

จากการสร้างสรรค์คาแรคเตอร์ตัวเอกในแบบเด็กเนิร์ดสวมแว่นเหมือนเช่นปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป จึงทำให้ตีมเนื้อหาในผลงานเกมภาคต่อนี้ ดูผ่อนคลายไม่ซีเรียส และลดบรรยากาศความตึงเครียดลงไปมากพอสมควร จากแต่ก่อนที่เคยพกพาอาวุธปืนได้มากมายดั่งคลังอาวุธเดินได้ มาภาคนี้กลับพกปืนติดตัวไปได้แค่สองกระบอก นอกนั้นในกระเป๋าก็เป็นอุปกรณ์แกดเจ็ตซะส่วนใหญ่ อีกทั้งกับดักตามฉากอย่างพวกหม้อแปลง ท่อแก๊ส หรือเครื่องปั่นไฟเอย เมื่อถูกเราแฮคจนเกิดลัดวงจรระเบิดตูมเสียงดังซะลั่นซอย กลับทำได้แค่ให้ศัตรูนอนสลบหลับใหลเพียงชั่วครู่ พอเพื่อนเดินมาปลุกก็ลุกตื่นขึ้นมาใหม่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉะนั้นหากนำไปเปรียบเทียบกับ "เอเด็น เพียร์ซ" ตัวเอกจากภาคแรกที่ดูสุขุมดุดันเด็ดขาดสมเป็นผู้ใหญ่แล้ว ตัวละครหนุ่มผิวสีในภาคนี้จึงไม่ต่างอะไรจากหนูน้อยแฮคเกอร์ที่ชอบหยอกเล่นกับศัตรู

เมื่อเนื้อเรื่องถูกถ่ายทอดผ่านมุมมองของกลุ่มแฮคเกอร์วัยว้าวุ่น แน่นอนว่าภารกิจที่เราจะได้พบปะพบเจอภายในเกมย่อมต้องอ่อนวัยลงไปตามวุฒิภาวะความคิดความอ่านของตัวละครเหล่านั้นด้วย ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่ดี แต่กลับตรงกันข้าม เพราะแต่ละอย่างที่ตัวเกมยัดเยียดมาให้เราทำมันช่างสนุกสนานเฮฮาปาร์ตี้ มีสีสันชวนบันเทิงเร้าใจไม่ซากซ้ำจำเจเหมือนต้นฉบับ เช่นบางเวลาเราอาจต้องหาของมาแต่งรถโกคาร์ท ฉกฉวยขโมยหุ่นยนต์มาพ่นสีใหม่ หรือนั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถยนต์ที่พูดโต้ตอบกับเราได้อะไรแบบนี้

แม้อาวุธปืนในภาคนี้จะถูกลดทอนบทบาทลงจนกลายเป็นแค่เครื่องรางของขลังติดประดับเอาไว้ป้องกันตัวยามคับขัน แต่ทางฝั่งสกิลในการแฮคของเรากลับถูกอัปเกรดเสริมพลังอำนาจมากยิ่งขึ้นจนเทียบเคียงระดับพระเจ้า แทบทุกสิ่งที่ตามองเห็นในเกมล้วนชี้นิ้วสั่งได้ตามใจเราต้องการ ไล่ตั้งแต่ผู้คน หุ่นยนต์ เครนก่อสร้าง ยันรถยนต์ที่แล่นอยู่บนท้องถนน ส่วนสกิลแฮคเก่าๆจากภาคที่แล้วก็ถูกปรับปรุงใหม่ให้ใช้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อย่างกับดักตามฉากที่มีตัวเลือกปล่อยเสียงล่อเรียกเหยื่อให้เข้าไปหาได้ทันใจ ไม่ต้องเสียเวลานั่งรอสัปหงกว่าเมื่อไหร่ศัตรูจะเดินผ่าน หรือเวลามีพยานรู้เห็นเหตุการณ์โทรศัพท์แจ้งตำรวจ เราก็เพียงแค่ตัดสายเขาทิ้งจากระยะไกลไม่ต้องเหนื่อยวิ่งไล่จับกันให้เมื่อยตุ้ม

พูดถึงเรื่องเครื่องทุ่นแรงแล้ว ก็คงต้องหยิบยกสองสุดยอดอุปกรณ์ดีเด่นที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของภาคนี้ขึ้นมาพูดด้วย นั่นคือเครื่องบินโดรนตรวจตราทางอากาศ กับรถวิทยุบังคับที่มุดลอดไปได้ทุกแห่งหน โดยเจ้าสองสิ่งนี้จะช่วยทำให้เราสามารถเคลียร์ภารกิจทำเควสต์สำเร็จได้ โดยที่ตัวเรายังคงนั่งชิลอยู่ริมขอบรอบนอกเขตแดนศัตรู ไม่ต้องลงพื้นที่ไปเสี่ยงอันตรายด้วยตนเอง ซึ่งมันก็เป็นไปตามวัตถุประสงค์จุดมุ่งหมายหลักของทีมผู้พัฒนา และเป็นสไตล์การเล่นอันถูกต้องเหมาะสมของเกมภาคต่อนี้ กับการเล่นที่มุ่งเน้นใช้รอยหยักในสมองขบคิดหาวิธีผ่านด่านโดยไม่ต้องเหนี่ยวไก มากกว่าการใช้กำลังบุกฝ่าเข้าหาดงกระสุนศัตรูเพื่อไปตายเปล่า

ทางด้านสภาพเมืองซานฟรานซิสโกที่ถูกใช้เป็นฉากหลังนั้น ต้องยอมรับว่าเหมือนของจริงแทบทุกตารางนิ้ว ชนิดที่ว่าหากใครไม่เคยบินไปสหรัฐอเมริกา ก็สามารถเยี่ยมชมทัศนศึกษาเอาได้จากภายในเกม เพราะบรรดาแหล่งท่องเที่ยวสำคัญชื่อดังต่างๆล้วนถูกยกมาไว้ในเกมให้หมดแล้ว อาทิ สะพานโกลเด้นเกตที่เห็นกันบ่อยในหนัง, ถนนลอมบาร์ดสุดคดเคี้ยว, สะพานปลา Fisherman’s Wharf ที่เต็มไปด้วยอาหารทะเล, ท่าเรือ 39 แหล่งอาบแดดของเหล่าแมวน้ำ, เกาะอัลคาทราซ ไปจนถึงบ้านหลากสี Painted Lady ส่วนเรื่องของภาพกราฟิกนั้นก็งามหยดย้อย แสงแดดเงาสะท้อนต้นไม้ใบหญ้าอาคารบ้านเรือนทุกอย่างล้วนสวยสดคมชัดมีรายละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำทะเลสีฟ้าครามริมชายหาดที่เห็นแล้วอยากกระโดดลงไปแหวกว่ายในทันที

เช่นเดียวกับภาคแรก "Watch Dogs 2" จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ออนไลน์ที่มอบโอกาสให้เราได้เปิดศึกปะทะวัดฝีมือการแฮคกับผู้เล่นคนอื่นๆ เพียงแต่ในภาคนี้การปะทะเจอะเจอกันระหว่างผู้เล่นนั้นจะเกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลากดเข้าหน้าจอเลือกเมนูใดๆเลย ซึ่งพูดแบบนี้แล้วก็อย่าเพิ่งดีอกดีใจว่าจะได้เห็นผู้เล่นคนอื่นเดินสัญจรไปมากันให้ควั่กเหมือนอย่าง MMORPG เพราะตัวเกมแค่อาศัยเทคนิคการทำงานเบื้องหลังคอยจับคู่ผู้เล่นที่กำลังทำกิจกรรมคล้ายๆกันอยู่ในละแวกใกล้เคียงให้มาเจอกันเท่านั้น อย่างเช่นว่าหากเรากำลังนั่งสแกนตึกเพื่อหาทางขึ้นไปเก็บของลับที่ซ่อนอยู่บนดาดฟ้า เดี๋ยวก็จะมีผู้เล่นอีกคนแอบย่องเข้ามาแฮคดาวน์โหลดข้อมูลของเราไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว หรือบางเวลาที่เรากำลังบึ่งรถหนีตำรวจก่อความโกลาหลวุ่นวายในเมือง สักพักก็จะมีรถยนต์ของผู้เล่นคนอื่นเข้ามาสอดแทรกคอยขัดขวางเพื่อไล่ล่าค่าหัวของเรา แถมไม่ได้มีเพียงแค่โหมด PvP สู้กันเองอย่างเดียว เนื่องจากภายในเกมยังบรรจุโหมดการเล่นรูปแบบ Co-op มาให้อีกด้วย โดยตัวเกมจะมอบหมายภารกิจพิเศษที่จำเป็นต้องช่วยกันเล่นสองคนไปไหนไปกันแบบแพคคู่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ชอบสร้างศัตรู

"Watch Dogs 2" เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาที่ตรงคอนเซปต์ดั้งเดิมของทีมพัฒนาที่หวังนำเสนอโลกของแฮคเกอร์ ไม่ใช่สุดยอดฮีโร่สายลับระดับพระกาฬ และจากการที่มันสามารถก้าวข้ามเหนือกว่าต้นฉบับ อีกทั้งยังมีศักยภาพเพียงพอที่จะก้าวขึ้นไปเป็นคู่แข่งสำคัญเบียดแย่งชิงบัลลังก์กับซีรีส์โอเพ่นเวิลด์ชื่อดังของค่ายร็อคสตาร์ ก็คงเป็นคำตอบที่ทำให้แฟนๆหลายคนหมดคำถามไร้ข้อกังขาว่าทำไมปีนี้ถึงไม่มี "แอสซาซินครีด"

เกมการเล่น9
กราฟิก10
เสียง9
ความคิดสร้างสรรค์10
ภาพรวม9.5


ข้อดี : ภาพสวยกว่า GTA V, อุปกรณ์แกดเจ็ตใหม่ๆช่วยผ่อนแรงได้เยอะ, เมืองซานฟรานซิสโกที่จำลองมาทุกสัดส่วน, ฟีเจอร์ออนไลน์ที่ผสานเข้ากับการเล่นปกติแบบไร้รอยต่อ และให้ความรู้สึกของการเป็นแฮคเกอร์อย่างแท้จริง
ข้อเสีย : ฉากบู๊แอ็คชั่นไม่มันส์เท่าภาคแรก กับฟิสิกส์การขับขี่ยานพาหนะที่ชวนปวดตับ

Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดย บริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงคโปร์ (หรือ SIES)








*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*






















กำลังโหลดความคิดเห็น