ระบบ PC Online / PS4 / Xbox One
เรตเกม T เหมาะสำหรับอายุ 13 ปีขึ้นไป
นับเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็น Blizzard สร้างเกมแนวเดินยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First Person Shooter หรือ FPS) ซึ่งถ้าเป็นแค่เกมถือปืนไล่ยิงกันแบบธรรมดาทั่วไปก็คงจะไม่น่าสนใจและอาจไม่ประสบความสำเร็จ พ่อมดน้ำแข็งของเราจึงร่ายมนต์วิเศษด้วยการเสริมความเป็น MOBA (Multiplayer Online Battle Arena) กำเนิดเป็น "OverWatch" เกมยิงสไตล์ MOBA เพียงแค่คิดก็น่าสนุกแล้ว
เรื่องราวของ "OverWatch" กล่าวถึงโลกอนาคตที่มนุษย์และเหล่าหุ่นยนต์ Omnic อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข จนกระทั่งวันหนึ่งโรงงานผลิตหุ่นยนต์ Omnium ที่ตั้งอยู่ทั่วโลกได้ผลิตกองทัพหุ่นยนต์จำนวนมากออกมาและทำสงครามกับประเทศต่างๆ สร้างความสูญเสียอย่างมหาศาล ทางสหประชาชาติจึงได้รวบรวมเหล่ายอดฝีมือมาจากทั่วโลกและจัดตั้งหน่วย "OverWatch" เพื่อหยุดยั้งสงคราม ฝ่ายมนุษย์ได้รับชัยชนะ แต่หน่วย "OverWatch" กลับถูกกล่าวหาในเรื่องคอรัปชั่นต่างๆนาๆ จนหน่วยถูกยุบ เมื่อไม่มีผู้พิทักษ์ เหล่าร้ายก็เริ่มเหิมเกริมอีกครั้ง บัดนี้ โลกต้องการฮีโร่ผู้กอบกู้มากกว่าทุกวิกฤตที่ผ่านมา
จุดเด่นที่เห็นได้ชัดอย่างแรกก็คือเหล่าฮีโร่ที่มีเลือกถึง 21 ตัว (และอาจมีเพิ่มในอนาคต) แต่ละตัวมีอาวุธและสกิลแตกต่างกันไป ผู้เล่นจะต้องทำความเข้าใจและดึงเอาคุณลักษณะพิเศษของฮีโร่แต่ละตัวออกมาใช้ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด โดยฮีโร่ถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ Offense ตัวรุกหรือทำดาเมจของทีม หน้าที่หลักคือการสังหารฝ่ายตรงข้าม, Defense ตัวคุมพื้นที่ในสนามรบ คอยป้องกันการบุกของอีกฝ่าย, Tank ตัวเปิดหรือเข้าปะทะ คอยรับดาเมจแทนเพื่อนร่วมทีม และ Support ทำหน้าที่สนับสนุนเพื่อร่วมทีม ไม่ว่าจะเป็น ฮีล ชุบชีวิต Buff เพื่อน หรือ Debuff อีกฝ่าย
ด้วยจำนวนของฮีโร่และเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สร้างขึ้นมา การจะให้มาไล่ยิงกันเฉยๆก็อาจจะดูเสียของไปหน่อย Blizzard จึงใส่ภารกิจเฉพาะให้สมกับเป็นเกม MOBA โดยภารกิจสามารถแบ่งได้เป็น 4 รูปแบบ คือ Assault ฝ่ายบุกจะต้องเข้ายึดพื้น ส่วนฝ่ายรับต้องป้องกันให้ได้จนกว่าจะหมดเวลา, Escort ฝ่ายบุกจะต้องดันรถบรรทุกไปให้ถึงเส้นชัย ส่วนฝ่ายรับต้องขัดขวางให้ได้จนกว่าจะหมดเวลา, Control ทั้งสองฝ่ายจะต้องเข้าชิงพื้นที่เพื่อสะสมคะแนน ฝ่ายที่ชนะ 2 ยก จะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น และ Assault/Escort เล่นผสมกัน 2 แบบ โดยช่วงแรกฝ่ายบุกจะต้องเข้ายึดพื้นที่ จากนั้นจะเข้าสู่การดันรถบรรทุก หากไม่สามารถยึดพื้นที่ได้ภายในเวลาที่กำหนดจะถือว่าแพ้ทันที
ปัจจัยสำคัญในการคว้าชัยชนะไม่ใช่การบู๊ระห่ำแต่เป็นทีมเวิร์ค การลุยเดี่ยวแบบไม่คิดหน้าคิดหลังมีแต่จะตายเปล่าเท่านั้น สิ่งที่ทุกคนควรทำคือทำความเข้าใจบทบาทและสกิลของฮีโร่แต่ละตัวและวางแผนร่วมกันในทีม ซึ่ง Blizzard อำนวยความสะดวกด้วยการใส่ระบบ Team Analysis ช่วยให้ผู้เล่นเลือกฮีโร่ที่เหมาะสมต่อทีม และมี Voice Chat ให้ในตัว ไม่ต้องเสียเวลาหาโหลดโปรแกรมเสริม
อีกประเด็นหนึ่งที่ผู้เล่นทุกคนให้ความสำคัญก็คือความสมดุลของฮีโร่ ซึ่งจากที่ได้ทดลองเล่นทุกตัวไม่รู้สึกว่ามีฮีโร่ตัวใด Over Power หรือเก่งเกินไป ทุกตัวมีข้อดีและข้อเสียในตัวเอง สกิลที่คิดว่าสู้ไม่ได้อาจแก้ทางได้ง่ายๆด้วยสกิลของฮีโร่อีกตัวที่เราอาจคาดไม่ถึง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของตัวผู้เล่นเอง ซึ่งในระหว่างเกมเราสามารถเปลี่ยนตัวฮีโร่เพื่อทดลองการใช้สกิลได้ที่ฐาน หรือไปที่โหมดฝึกซ้อมก็ได้
เมื่อเล่นจนจบเกม เราจะได้รับค่าประสบการณ์ ซึ่งทุกครั้งที่เลเวลอัพจะได้รับ Loot Box สำหรับสุ่มรับไอเทมตกแต่งฮีโร่ อาทิ สกิน, ท่าโพส, เสียงพูด, สเปรย์, ไอคอน ฯลฯ ซึ่งผู้เล่นที่ไม่อยากรอเก็บเลเวล สามารถซื้อ Loot Box ด้วยเงินจริงในราคา $1.99 (ประมาณ 70 บาท) ได้ 2 กล่อง หรือซื้อรวดเดียว 50 กล่อง ราคา $39.99 (ประมาณ 1400 บาท เทียบเท่าซื้อเกมเต็มอีกเกมหนึ่ง)
จุดที่น่าเสียดายที่สุดคือการที่ตัวเกมไม่มีโหมดเนื้อเรื่องหรือ Single Player ให้เล่น ทาง Blizzard ตั้งใจที่จะให้ความสำคัญไปที่โหมดออนไลน์เท่านั้น หมายความว่าระหว่างเล่นเกมจะต้องต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา ยิ่งกว่านั้นทางด้านฝั่งคอนโซลอย่าง PS4 และ Xbox One จะต้องเป็นสมาชิก PlayStation Plus หรือ Xbox Live Gold จึงจะสามารถเล่นออนไลน์ได้ ใครที่ชื่นชอบการเสพเนื้อเรื่องหรืออยากเล่นคนเดียวอาจไม่ค่อยถูกใจเท่าไรนัก แต่สำหรับเกมเมอร์สายมัลติเพลเยอร์รับรองว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์แน่นอน
นับว่า Blizzard คิดถูกที่เลือกผสมผสานเกมสองแนวระหว่าง FPS และ MOBA เข้าด้วยกัน ซึ่งไม่ใช่จับมารวมกันแบบทื่อๆ แต่เป็นการปรุงแต่งอย่างมีชั้นเชิง เกิดเป็นเกมเพลย์ที่มีความสดใหม่ ตัวละครมีเอกลักษณ์เป็นที่จดจำ และความสนุกที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ด้วยปัจจัยทั้งหมดทั้งมวล การที่ "OverWatch" จะคว้าตำแหน่งเกม FPS ยอดเยี่ยมแห่งปี คงไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อม
เกมการเล่น | 10 |
กราฟิก | 9 |
เสียง | 10 |
ภาพรวม | 9.5 |
ข้อดี : การผสมผสานที่ลงตัวระหว่าง FPS และ MOBA, ชัยชนะอยู่ที่ฝีมือและทีมเวิร์ค ไอเทมไม่เกี่ยว
ข้อเสีย : ไม่มีโหมดเนื้อเรื่องหรือ Single Player
Minimum System Requirements (ระบบขั้นต่ำที่รองรับ)
OS: Windows 7 / 8 / 10
Processor: Intel Core i3 หรือ AMD Phenom X3 8650
Memory: 4GB
Graphics: NVIDIA GeForce GTX 460, ATI Radeon HD 4850 หรือ Intel HD Graphics 4400
Hard Drive: 30GB
Recommended System Requirements (ระบบที่แนะนำ)
OS: Windows 7 / 8 / 10
Processor: Intel Core i5 หรือ AMD Phenom II X3 หรือสูงกว่า
Memory: 6GB
Graphics: NVIDIA GeForce GTX 660 หรือ AMD Radeon HD 7950 หรือสูงกว่า
Hard Drive: 30GB
Review by MeganeSan
*ขอเรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*