แพลตฟอร์ม พีซี, เอ็กบ็อกซ์วัน, เพลย์สเตชัน 4
เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
ลุคแปลกใหม่ของแฟรนไชส์เกมยิงบุกป่าฝ่าดงพงไพร ที่นำพาผู้เล่นย้อนเวลาสู่อดีตอันไกลโพ้น 10,000 ปีก่อนคริสตกาล ในยุคที่ไร้ซึ่งกระสุนดินปืน และมนุษย์กับธรรมชาติอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว
หลังโดนกดดันอย่างหนักจากการที่ซีรีย์เกม "ฟาร์คราย" ในภาคหลังๆนับตั้งแต่ภาคสามเรื่อยมา เริ่มอับจนหมดหนทางขาดไอเดียแปลกๆใหม่ๆมานำเสนอแก่แฟนๆ ซึ่งนั่นคงเป็นชนวนสาเหตุหลักที่ทำให้ทีมพัฒนายูบิซอฟต์ ผุดไอเดียเกมภาคพิสดารนี้ขึ้นมา ที่ฉีกออกไปซะจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม เพราะมันไม่ใช่เพียงแค่ฉากหลังสถานที่ที่ถูกเปลี่ยนใหม่เท่านั้น แต่รวมถึงยุคสมัยกาลเวลาเองก็เปลี่ยนไปด้วย
อย่างที่เกริ่นไป ช่วงเวลาไทม์ไลน์ของเกม "ฟาร์คราย ไพรมัล" นั้นจะอยู่ในสมัยมนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์เหมือนที่เราเคยเห็นกันในภาพยนตร์ "บุกอาณาจักรโลก 10,000 ปี" (10,000 BC) ที่เข้าฉายไปเมื่อปี 2008 โดยบอกเล่าเรื่องราวของ "ทัคการ์" หนุ่มนักรบเผ่ารักสงบ Wenja ผู้ออกเดินทางตามหาดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ Oros แต่กลับต้องมาเจอการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อันโหดเหี้ยมของเผ่ามนุษย์กินคน Udam ที่กำลังบ่อนทำลายแดนสวรรค์แห่งนี้ ตัวเขา และพวกพ้อง พร้อมเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายจึงต้องลุกขึ้นต่อสู้
ตัวเกมยังคงเป็นแนวโอเพ่นเวิลด์โลกอิสระเหมือนเช่นเคย ให้ผู้เล่นได้เดินสำรวจสภาพแวดล้อม เปิดแม็พ ยึดแคมป์กองไฟของศัตรู เลือกทำเควสต์ช่วยเหลือชาวบ้าน ค้นหาของป่า และล่าสัตว์เลาะหนังมาอัพเกรดอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในภาคนี้ คือการอัพเกรดสร้างเสริมเติมแต่งหมู่บ้าน เพื่อขยับขยายชุมชนเผ่าเวนจาของเราให้เติบใหญ่ ทั้งในเรื่องของขนาดพื้นที่ และจำนวนประชากรที่ย้ายเข้ามาพักอาศัย จากแรกเริ่มที่มีเพียงแค่ถ้ำเล็กๆอันคับแคบ จนกระทั่งกลายเป็นอาณาจักรในที่สุด
นอกเหนือจากชุมชนที่ต้องหมั่นดูแลแล้ว ตัวเราเองในฐานะความหวังแห่งเผ่าพันธุ์รักสงบยังต้องเสริมความแข็งแกร่ง และฝึกฝนพัฒนาทักษะอีกมาก หากคิดหาญกล้าจะไปต่อกรกับพวกศัตรูที่ถนัดฆ่าฟันกันเป็นกิจวัตร โดยในเกมจะมีเควสต์ให้ทำ และเป้าหมายให้ล่า ทั้งตามพล็อตเรื่อง หรือที่สุ่มพบเจอตามรายทาง เพื่อให้เราได้เก็บเกี่ยวสะสมค่าประสบการณ์มาปลดล็อคสกิล ซึ่งนับรวมไปถึงท่า Takedown สังหารศัตรูลูกไม้เดิมๆจากภาคเก่าๆ ที่เราต้องมานั่งเริ่มเรียนรู้กันใหม่อีกรอบ
จุดเด่นสะดุดตาที่สุดของเกม คงต้องยกให้เรื่องของภาพกราฟิก ที่ก้าวกระโดดล้ำหน้าไปไกลจากภาคก่อนหลายขุม โดยเฉพาะเอฟเฟกต์แสงเงาอันมีเสน่ห์ดึงดูดราวกับต้องมนต์สะกด ไม่ว่าจะเป็นแสงจันทร์นวลผ่องสว่างท้องฟ้ายามราตรี เงาที่เกิดจากแสงคบเพลิงที่เราจุดตอนกลางค่ำกลางคืนอันมืดมิด หรือแสงอาทิตย์อรุณสาดส่องยามเช้าที่ชวนน้ำตาไหลพราก ล้วนแล้วเป็นประสบการณ์อาหารตาที่ใครได้มาเห็นเป็นยากที่จะลืมเลือน ส่วนขนาดความกว้างใหญ่ของฉากแผนที่ในเกมภาคนี้ดูแล้วน่าจะพอๆกับภาค 4 เพราะมีข่าวว่าก็อปปี้กันมานั่นเอง แต่บอกตามตรงเวลาเล่นจริงกลับไม่ยักรู้สึกว่ามันจะมีตารางวาไหนในเกมที่ทำให้เกิดภาพเหตุการณ์เดจาวู
จากเหตุการณ์ที่เป็นช่วงเวลาหมื่นปีก่อนคริสตกาล ดังนั้นจึงไม่ควรคาดหวังในเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทาง อยากร่อนเร่ไปไหนก็ต้องทนเหนื่อยอาศัยเท้าเปล่าวิ่งจ้ำเอา แต่ทีมพัฒนาก็ไม่ได้ใจร้ายเกินไปด้วยการออกแบบภูมิประเทศให้มีทางเชื่อมต่อกันหลายจุด หากเผอิญเจอเนินสูงชันไต่ไม่ได้ เพียงแค่เดินไปอีกนิดก็จะพบทางขึ้นเอง ไม่ต้องเสียเวลาวิ่งอ้อมโลกเหมือนภาคก่อน แถมช่วงครึ่งหลังของเกมหากเราปลดล็อคได้สกิลขี่สัตว์มาด้วยแล้ว การเดินทางจะกลายเป็นเรื่องง่ายดาย และสนุกมากขึ้นก่ายกอง
เมื่อพูดถึงสัตว์ป่า คงต้องวกเข้าประเด็นสำคัญที่ถือเป็นไฮไลท์เด่นชูโรงเกมนั่นคือ ระบบสัตว์เลี้ยง ที่จะติดสอยห้อยตามผู้เล่นเปรียบเสมือนเพื่อนรู้ใจไปไหนไปกัน ซึ่งการที่จะผูกมิตรชิดใกล้สนิทสนมกลมเกลียวกับสัตว์สี่ขาเหล่านี้ได้ เราจำเป็นต้องทำให้มันเชื่องลงเสียก่อนด้วยการให้อาหารเหยื่อล่อ จากนั้นก็ย่องเข้าเผด็จศึกรวบหัวรวบหางจนสุดท้ายต้องเดินตามหลังเราต้อยๆ (เอ๊ะ ยังไง) โดยเมื่อตกอยู่ใต้อาณัติแล้ว เราสามารถกระดิกนิ้วสั่งให้มันไปไหนก็ไป หรือใช้มันล่าเหยื่อสังหารศัตรูแทนโดยที่เราไม่ต้องออกแรง แถมเรายังสามารถผิวปากเรียกใช้งานมันได้ทุกเมื่อตามต้องการ เวลาไหนอยากล่าสัตว์ก็ใช้ความไวของเสือเขี้ยวดาบในการวิ่งไล่, อยากลอบสังหารไม่ให้ศัตรูรู้ตัวก็ใช้ทักษะซุ่มของเสือจากัวร์ หรือหากอยากบู๊ก็แท็คทีมแตะมือสลับตัวเอาน้องหมีจอมอึดมาลงถล่มยกค่าย
ทว่ากลับกันทางฝั่งตัวเราที่เป็นมนุษย์เดินดิน ในภาคนี้กลับทำออกมาอ่อนด้อยไร้พิษสงไม่สมกับที่เป็นตัวละครเอกเอาเสียเลย เนื่องด้วยปัจจัยทางด้านช่วงเวลายุคสมัยของเกมที่กลายมาเป็นจุดบอด และจำกัดกักขังตัวมันเอง โดยอาวุธที่ใช้กันอยู่ในเกมหลักๆจะมีเพียงแค่ธนู ค้อน และหอก สามอย่างเท่านั้น แถมอาวุธสองอย่างหลังดันมีรูปแบบการโจมตีที่ซ้ำกันอีก เพราะต่าง "ใช้ตี ใช้ปา" ในระยะใกล้เหมือนกันทั้งคู่ ส่งผลให้ความหลากหลายของเกมเพลย์ต่อสู้ที่มีอยู่ในทุกภาคของฟาร์คราย โดนหดลดเหลือเพียงมิติเดียว ศัตรูอยู่ไกลก็ใช้ธนูยิง อยู่ใกล้ก็ซัดด้วยค้อนหรือหอก แค่นั้นไม่ต้องคิดพลิกแพลงอะไรมาก
"ฟาร์คราย ไพรมัล" ถือเป็นเกมดีเกมหนึ่งที่มีช่วงเวลาดีๆให้น่าจดจำ และสนุกพอที่จะมอบความบันเทิงเริงรมย์ให้แก่ผู้เล่นได้ตลอดระยะเวลา 30 ชั่วโมง แต่กระนั้นตัวเกมก็ยังไม่ถึงขั้นยอดเยี่ยมระดับห้าดาว ราวกับว่ามันยังไปได้ไม่สุด ยกตัวอย่างเหล่าสิงสาราสัตว์ยุคหินในเกม ที่ว่ากันตามตรงหากตัดงาแมมมอธ ตัดเขี้ยวเซเบอร์ทูธออก คงนึกว่ากำลังนั่งเล่นภาคที่แล้วอยู่ รวมถึงเกมเพลย์เองก็ยังไม่ฉีกไปจากเดิมมากนัก หากจะพูดเปรียบเปรยให้เห็นภาพ มันก็คงเป็นบ้านหลังเดิมที่เพียงแค่เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ภายในแล้วทาสีใหม่เท่านั้น ซึ่งในฐานะเกมเมอร์คนหนึ่ง จึงอยากวิงวอนไปถึงยูบิซอฟต์ ให้ล้มเลิกธรรมเนียม "ตัดแปะ" และหันมาใส่ใจตั้งหน้าตั้งตานำเสนออะไรที่มันแปลกใหม่ให้กับแฟนๆซีรีย์นี้จริงๆจังๆสักที
| เกมการเล่น | 8 |
| กราฟิก | 10 |
| เสียง | 9 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 7 |
| ภาพรวม | 8.5 |
ข้อดี : ภาพงามหยดไร้ที่ติ, บรรยากาศยุคหิน และระบบสัตว์เลี้ยงที่เป็นตัวฉุดเกมให้พ้นจากปากเหว
ข้อเสีย : รูปแบบเควสต์ซ้ำเดิม, เกมเพลย์เหมือนเก่า, อาวุธที่มีให้เลือกน้อยชิ้น และโหมดออนไลน์ที่หายไป
Minimum System Requirements (ระบบขั้นต่ำที่รองรับ)
ระบบปฏิบัติการ: Windows 7, Windows 8.1, Windows 10 (64-bit versions only)
หน่วยประมวลผล: Intel Core i3-550 | AMD Phenom II X4 955 or equivalent
หน่วยความจำ: แรม 4GB
การ์ดแสดงผล: NVIDIA GeForce GTX 460 (1GB VRAM) | AMD Radeon HD 5770 (1GB VRAM) or equivalent
ฮาร์ดไดรฟ์: พื้นที่ว่างอย่างน้อย 20GB
Reccommended System (ระบบที่แนะนำ)
ระบบปฏิบัติการ: Windows 7, Windows 8.1, Windows 10 (64-bit versions only)
หน่วยประมวลผล: Intel Core i7-2600K | AMD FX-8350 or equivalent
หน่วยความจำ: แรม 8GB
การ์ดแสดงผล: NVIDIA GeForce GTX 780 | AMD Radeon R9 280X or equivalent
Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท นิวอีร่า อินเตอร์แอคทีฟ มีเดีย จำกัดNew Era Games
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
