"แบล็ครูม" ผลงานใหม่ล่าสุดจากสองอดีตผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิโอ id Software ที่สัญญาจะนำพาผู้เล่นหวนกลับคืนสู่บรรยากาศเกมยิงสไตล์คลาสสิค พร้อมกับคอนเซปต์ตัวละครฮีโร่ที่เปรียบดั่ง "คลังอาวุธเดินดิน"
"จอห์น โรเมโร" (John Romero) และ "เอเดรียน คาร์แมค" (Adrian Carmack) สองหนุ่มคู่ซี้ที่เคยร่วมกันให้กำเนิดแฟรนไชส์เกมยิงระดับตำนานอย่าง Doom, Quake และ Wolfenstein ออกมาประกาศเปิดตัวโปรเจกต์ "แบล็ครูม" (Blackroom) ผลงานเกมแนว FPS ตัวใหม่ล่าสุด ที่เริ่มเปิดระดมทุนสร้างกันแล้วตั้งแต่วันนี้ผ่านเว็บไซต์เจ้าเดิม Kickstarter
สำหรับโปรเจกต์ "แบล็ครูม" นั้นจะถูกพัฒนาโดย Night Work Games สตูดิโอย่อยของ "โรเมโร" โดยทีมพัฒนาระบุว่ามันจะเป็นเกมแนวแอ็คชั่นมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ซึ่งถูกเซตฉากเหตุการณ์ขึ้นภายในโลกซิมูเลชั่นเสมือนจริงแห่งอนาคตที่ทุกสิ่งล้วนเป็นภาพโฮโลแกรมสามมิติ แต่เพราะด้วยความซวยหรือกรรมเก่า ตัวละครของผู้เล่นถึงต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้าย เมื่อระบบที่ถูกสร้างมาเพื่อใช้ฝึกฝนเหล่าทหารนี้เกิดรวนทำงานผิดเพี้ยนขึ้นมา
โดยทางโรเมโร กล่าวอธิบายว่าตัวเกมจะเป็นเกมยิงสไตล์คลาสสิค ที่ผสมผสานการสำรวจ, ความรวดเร็วฉับไว และเกมเพลย์ต่อสู้ด้วยอาวุธอันดุดันเคร่งเครียดเข้าไว้ด้วยกัน โดยภายในเกมผู้เล่นสามารถงัดทักษะหลบหลีกการโจมตี หรือแถขยับไปด้านข้างเพื่อวนรอบตัวศัตรูได้ อีกทั้งยังมีลูกเล่นใหม่อย่าง Rocket Jump ที่จะมาช่วยเพิ่มมิติความหลากหลายในการต่อสู้
เนื่องจากเป็นโลกโฮโลแกรม "แบล็ครูม" จึงเป็นเกมยิงที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถพกอาวุธปืนติดตัวได้ไม่จำกัดจำนวน โดยตัวเกมจะบรรจุโหมดแคมเปญเล่นคนเดียวความยาว 10 ชั่วโมง และโหมดมัลติเพลย์เยอร์ทั้งแบบ Co-op, Deathmatch ดวลหนึ่งต่อหนึ่ง และสังเวียน Arena พร้อมด้วย Dedicated Server และฟีเจอร์สร้างแม็พในแบบฉบับของตนเอง
อย่างไรก็ตาม แม้มันจะเป็นเกมยิงที่นำเสนอฉากสงครามในโลกเสมือนจริง แต่ว่าทางโรเมโร ก็ยังคงปฏิเสธถึงแผนที่จะทำตัวเกมเวอร์ชันพิเศษออกมารองรับแว่น VR - "ผมไม่แน่ใจว่าตัวเกมมันจะเวิร์คกับเทคโนโลยีวีอาร์ เพราะผมเป็นห่วงกังวลว่า VR มันจะเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผู้เล่นเกิดอาการวิงเวียน อีกทั้งปัจจุบันก็ยังไม่ถึงช่วงเวลาไพรม์ไทม์ของเทคโนโลยีดังกล่าว แต่หากมีเวอร์ชัน VR จริง มันก็คงเป็นสิ่งที่เราจะทำในภายหลัง เฉกเช่นเดียวกับเวอร์ชันพอร์ตลงเครื่องคอนโซล"
ปัจจุบันโปรเจกต์ "Blackroom" สามารถเรี่ยไรเงินจากแฟนๆไปได้แล้วกว่า 80,000 เหรียญ (หรือประมาณ 2.8 ล้านบาท) ซึ่งยังคงห่างจากเป้าขั้นต่ำที่ทีมงานตั้งเอาไว้ที่ 700,000 เหรียญ (หรือประมาณ 24.5 ล้านบาท) อยู่ไกลพอสมควร แต่หากว่าสุดท้ายแล้วมันระดมทุนสำเร็จ ตัวเกมจะมีกำหนดออกวางจำหน่ายลงให้เล่นกันบนเครื่องพีซีและแมค ในช่วงฤดูหนาวปลายปี 2018
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot
engadget
gematsu
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*