ระบบ 3DS
เรตเกม ESRB T เหมาะกับ 13 ปีขึ้นไป
ในยุคนี้เกม RPG คลาสสิกดั้งเดิมแบบ เทิร์นเบส นับวันยิ่งกลายเป็นของตกยุค แม้แต่ตำนานอย่าง ไฟนอล แฟนตาซี ยังกลายร่างกลายเป็นเกม แอ็คชั่น ผสม OpenWorld การกดปุ่มเพื่อใส่คำสั่งดูจะกลายเป็นของเชยไปแล้ว
แต่ยังดีที่วงการเกมพกพายังมีความรักความชอบในรูปแบบการเล่นแบบเดิมๆอยู่ และมีแนว RPG หลายเกมมาสร้างชื่อบนเครื่องพกพาโดยเฉพาะ ซีรีส์ Bravely ที่สร้างโดยทีมงาน Final Fantasy: The 4 Heroes of Light และภาคแรกถือว่าประสบความสำเร็จมากพอที่จะมีภาคต่อ และเพิ่งจะมีการออกเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษที่คนไทยรอคอยมาให้เล่นกัน โดยรูปแบบการเล่นยังคงเหมือนเดิมที่เราต้องกดปุ่มเพื่อใส่คำสั่งกัน
รวมทั้งกราฟิกในเกมที่มีมุมมองเหมือนกับเกม 2 มิติ มีการสร้างฉากด้วยภาพนิ่ง ที่เหมือนงานศิลปะ ฟังดูธรรมดาแต่เมื่อมาอยู่บนหน้าจอสามมิติของ 3DS แล้วเมื่อเปิดโหมด 3D มันกลับออกมาดูดีมีมิติมากมาย เพราะมีทั้งความลึกของฉากและยังมีการใส่ลูกเล่นงามๆเช่นหิมะที่ลอยเต็มจอ เรียกว่าถ้าอยากสัมผัสความสวยงามก็ต้องเปิดโหมด 3D ให้เปลืองแบต แม้การออกแบบตัวละครอาจจะดูเรียบๆไปหน่อยแต่โดยรวมมันคือเกมที่ดูดีที่สุดบน 3DS เกมหนึ่ง
เพลงประกอบเกมเหมือนจะดูธรรมดาแต่ก็เสริมสร้างบรรยากาศได้อย่างดีมีเสียงพากย์ในบางจุด ซึ่งแค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้วสำหรับเกมบน 3DS สำหรับแฟนเกมยุคเก่าแล้วโดยรวมถือว่าเป็นการผสมผสานความคลาสสิกกับภาพสามมิติงามๆได้ลงตัวมาก รูปแบบการเล่นอย่างที่บอกว่ามันคือแนว RPG เทิร์นเบสแบบต้องรอการใส่คำสั่งและไม่มีระบบเรียลไทม์ ทำให้มันดูจะเป็นเกมที่เชยแบบสุดๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่าพอได้เล่นแล้วมันกลับไม่เป็นเช่นนั้น
แม้รูปแบบจะเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นคือความรวดเร็วแบบสุดๆซึ่งเป็นมาตั้งแต่ภาคแรก และไม่ใช่ว่าจะใส่คำสั่งแล้วรอยังมีระบบ Brave ที่เราสามารถใช้เทิร์นล่วงหน้าได้ 4 ครั้ง ซึ่งก็เหมือนการใช้บัตรเครดิตซื้อเวลามาล่วงหน้า แต่นอนว่าเราก็จะเสียเทิร์นไปให้กับศัตรูเท่านั้นเท่าที่เราใช้ไป ทำให้เวลาท้าดวลกับศัตรูในเกมมีความหลากหลายและแตกต่างกับ RPG เกมอื่น เพราะเราจะได้วางกลยุทธ์ได้ละเอียดมากขึ้น จะมากเลือกคำสั่งแบบมั่วๆไม่ได้
เพราะตัวเกมไม่ได้ง่ายนัก และศัตรูระดับบอสมีท่าไม้ตายที่น่ากลัวทำให้เราตายยกทีมได้ง่ายๆ อีกทั้งอาวุธ เครื่องป้องกันและยาในเกมมีราคาแพงชนิดมหาโหด เหมือนเกมสมัยก่อนและต้องนั่งหาเงินด้วยฝีมือของเราไม่ใช่เติมเงินจริงซื้อเหมือนเกมยุคนี้ ส่วนการตั้งค่าก็เรียบง่ายเหมือนเกม RPG สมัยก่อน รวมทั้งการแปลภาษาทำให้คนไทยเข้าใจทั้งสกิล คาถา ความสามารถของอาวุธ ที่เข้าถึงง่ายและไม่ยุ่งยาก ส่วนฉากในเกมดูจะไม่ซับซ้อนเพราะมีมุมมองไม่ได้กว้างนัก แต่เมื่อลงไปในดันเจี้ยนก็ถือว่าทำออกมาได้ดี แม้จะเทียบเท่าความคลาสสิกอย่างพวก ไฟนอล แฟนตาซี หรือ ดราก้อน เควสต์ ในยุคแรกๆไม่ได้ก็ตาม
ระบบอาชีพ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ขาดไม่ได้แถมยังมีมาให้เลือกหลากหลาย ที่มีทั้งสายนักรบ และจอมเวทย์ ความน่ารักของซีรีส์ Bravely ที่มีบางอาชีพมาด้วยความน่ารักเช่นชุดแมว ที่มาพร้อมเวทที่คาดเดาไม่ได้ และเรายังตั้งค่าสกิลที่หลากหลาย นำความสามารถของหลายอาชีพมาผสมผสานกันได้ คล้ายกับเกมในอดีตอย่าง ไฟนอล แฟนตาซี 5 ที่เรียบง่ายแต่จำเป็นอย่างยิ่งในการต่อกรกับศัตรูในเกม
โดยรวมแล้วเกม Bravely Second นำบรรยากาศเก่าๆของเกมคลาสสิกมาปรับแต่งใหม่ได้ลงตัว เรียกได้ว่ามันมีจิตวิญญาณของเกม RPG รุ่นบุกเบิกแบบไฟนอลแฟนตาซี ในยุคแรกๆมาอยู่ในเกมนี้ สำหรับแฟนรุ่นเก่า (แก่) แล้วไม่ควรพลาดที่จะหามาเล่น เพราะมันคือเกมใหม่เอี่ยมไม่ได้เป็นการรีเมครีมาสเตอร์ ที่หาได้ยากยิ่งในยุคนี้
เกมการเล่น | 9.5 |
กราฟิก | 8.5 |
เสียง | 8.5 |
ภาพรวม | 9 |
ข้อดี : เกมเพลย์ RPG แบบคลาสสิกที่รวดเร็วและหลากหลาย , กราฟิกดูดี
ข้อเสีย : ไม่เหมาะกับคอเกมที่ไม่ชอบ เทิร์นเบส
Darth.vader(วงศกร ปฐมชัยวัฒน์) ขอบคุณร้าน NADZ PROJECT ที่เอื้อเฟื้อเครื่องเกมสำหรับรีวิว
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*