xs
xsm
sm
md
lg

Review: Uncharted The Nathan Drake Collection ย้อนรอยหนุ่มล่าสมบัติ กับขุมทรัพย์ดับโลก (PS4)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แนว แอ็คชั่นผจญภัย
ระบบ PS4
เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

การกลับมารอบสองของพระเอกหนุ่มหนังเหนียว "นาธาน เดรค" ที่ขนเอาการผจญภัยในอดีตของตนทั้งหมดมารวมไว้ในแผ่นเดียว

อีกหนึ่งโปรเจกต์เกมรีมาสเตอร์ของฝั่งโซนี่ ที่คราวนี้ไม่ได้มาแบบธรรมดา แต่จัดใหญ่เพิ่มมูลค่าให้น่าซื้อหา ด้วยการเหมารวม 3 สุดยอดเกมแห่งปีที่เคยสร้างชื่อเสียงให้สตูดิโอ Naughty Dog โด่งดังเป็นพลุแตก มารวมไว้อยู่ในชุดคอลเลคชันพิเศษ ที่เหล่าแฟนๆผู้ไม่เคยสัมผัสซีรีย์ "อันชาร์ตเต็ด" มาก่อน ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

อย่างที่เกริ่นไปเนื้อหาภายในแผ่น "Uncharted The Nathan Drake Collection" จะบรรจุการผจญภัยของหนุ่มเดรคสมัยเครื่องเล่นเพลย์สเตชัน 3 เอาไว้ถึงสามภาคด้วยกัน ไล่ตั้งแต่ภาคแรก Uncharted: Drake's Fortune, Uncharted 2: Among Thieves ยันภาคล่าสุด Uncharted 3: Drake's Deception แต่อย่างไรก็ดี เหล่าทีมงานหน้าเดิมที่เคยสร้างปรากฏการณ์ให้กับเกมทั้งสามภาค กลับไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบในตัวเกมเวอร์ชันรีมาสเตอร์นี้ เพราะหน้าที่นั้นตกเป็นของ Bluepoint Games สตูดิโอนอกที่คอยรับเหมางานปัดฝุ่นเกมเก่าๆของโซนี่

ซึ่งด้วยขุมพลังของเครื่องเพลย์สเตชัน 4 ช่วยทำให้ภาพกราฟิกของบรรดาเกมตกยุคเหล่านี้ ดูสวยขึ้นแบบผิดหูผิดตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเกมอันชาร์ตเต็ดภาคแรกที่ได้รับอานิสงส์ของการรีมาสเตอร์ครั้งนี้มากที่สุด จากจุดเดิมที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเท็กซ์เจอร์หยาบๆหยักๆและสว่างจ้า มาคราวนี้กลับเรียบเนียนคมชัด มีการไล่สีแสงเงาอ่อนๆแลดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น รวมถึงเอฟเฟกต์เวลายิงปืน และการระเบิดที่ถูกเปลี่ยนใหม่ให้ดูสมจริงขึ้น แต่ที่ชอบสุดๆของการรีมาสเตอร์ในครั้งนี้ คงต้องยกให้เรื่องของ "เฟรมเรต" ที่ลื่นไหลดุจสายน้ำ ต่อให้บู๊สนั่นกันกลางป่าเขา หิมะ ทะเลทราย หรือลองของทดสอบหมุนมุมกล้องไวๆดู ภาพเกมเพลย์ก็ยังคงดำเนินไปอย่างราบเรียบไม่มีสะดุุดให้เห็นเลยสักนิด เรียกว่าทำเอาปลื้มมากๆ ณ จุดนี้

และไม่ใช่เพียงแค่ภาพกราฟิกอย่างเดียวที่ถูกยกระดับขึ้น ในส่วนของฝั่งระบบเกมเพลย์เองก็เช่นเดียวกัน โดยเพื่อที่จะให้การเล็งยิงปืนดำเนินไปอย่างราบรื่นสมดุลกับเฟรมเรตอันลื่นไหลนั้น ทางทีมงาน Bluepoint Games ได้มีการเจาะลงไปปรับแก้ลึกถึงโค้ดเกม จนทำให้ได้เกมเพลย์หลบเข้าที่กำบังโผล่มายิงที่กระชับสนุกยิ่งขึ้น ซึ่งการเข้าไปยุ่งกับตัวโค้ดนี่เองที่ทำให้เกิดผลลบข้างเคียงตามมา ด้วยเหล่าบัคที่ไม่เคยปรากฏพบเจอมาก่อนในเกมเวอร์ชันต้นฉบับ อาทิ ศพศัตรูลอยค้างเติ่งกลางอากาศ, ตัวละครหลุดเข้าไปในฉากแล้วออกไม่ได้ หรือปีนป่ายอยู่ที่หนึ่งกลับแวบไปโผล่อีกจุดอะไรแบบนี้ แต่ใครที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องตื่นตระหนกไป เพราะเหล่านี้ล้วนเป็นบัคหายากที่นานๆทีจะโผล่มาให้เห็นสักครั้ง แถมปัจจุบันทางทีมงานก็เร่งปล่อยแพทช์ขนาดมหึมา 1GB ออกมาแก้ไขปัญหาต่างๆในเกมให้ลดเหลือน้อยลงแล้ว

ทางด้านฟีเจอร์ใหม่ๆ ในเมื่อมันเป็นเกมรีมาสเตอร์จากฝั่งโซนี่ แน่นอนว่าย่อมต้องบรรจุ Photo Mode เพิ่มเข้ามาตามระเบียบเหมือนเช่นเคย เพียงแต่ในเกมอันชาร์ตเต็ดฉบับรวมไตรภาคนี้ ฟีเจอร์ถ่ายรูปดังกล่าวจะถูกอัพเกรดใหม่ให้ดูหรูหราไฮโซยิ่งกว่า ด้วยการเปิดให้ผู้เล่นสามารถเลือกมุมมองที่ต้องการถ่ายได้อิสระ 360 องศา ไม่ว่าจะถ่ายจากด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง มุมเงย มุมสูง ซูมเข้า ซูมออก ล้วนแคปเจอร์สีหน้าตัวละครออกมาได้ชัดหมดทุกช็อตถูกใจขาเซลฟี่นักแล เว้นเสียอย่างเดียวคือกดถ่ายภาพขณะเล็งปืนไม่ได้ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าขันมากกับเกมแอ็คชั่นที่ยึดฉากดวลปืนยิงต่อสู้กันเป็นหัวใจหลัก แต่เรากลับไม่สามารถเก็บภาพบรรยากาศในช่วงเวลานั้นมาได้

อีกหนึ่งสิ่งใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามา หลายคนอาจสังเกตเห็นได้ตั้งแต่หน้าจอเมนู ซึ่งก่อนเข้าเล่นเกมทุกครั้งไม่ว่าภาคไหน จะมีให้เราเลือกระหว่างโหมดการเล่นปกติ กับโหมด Continuous Speed Run ซึ่งโหมดสปีดรันนั้นมันมีไว้สำหรับบรรดานักเล่นจบไวทั้งหลายที่อยากทำเวลาโชว์ความเทพไปอวดชาวโลก โดยเมื่อเลือกเล่นในโหมดนี้ที่มุมขวาบนของหน้าจอ จะปรากฏนาฬิกาจับเวลาที่เดินอยู่ตลอด รวมถึงบอกสถิติเร็วสุดที่เราเคยทำไว้ในด่านนั้นๆให้ได้เห็นกัน

สำหรับสาวกสายมืดสมัย PS3 ทั้งหลายที่กลับตัวกลับใจ ยอมลงทุนซื้อแผ่นแท้ฉบับรวมภาคนี้มาแล้วหวังว่าจะได้นั่งเล่นเกมอันชาร์ตเต็ดในโหมดออนไลน์กับเขาเสียที อาจต้องหลั่งน้ำตาเมื่อเปิดเกมขึ้นมาแล้วหาเมนู Multiplayer ไม่เจอ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าทางโซนี่ ได้ตัดสินใจเอาโหมดนี้ออกไปโดยอ้างเหตุผลน้ำขุ่นๆที่ฟังไม่ค่อยขึ้นว่า "ไม่อยากทำลายคอมมิวนิตี้บนเพลย์สาม" แต่ที The Last of Us Remastered ที่ออกมาก่อนหน้ากลับใส่โหมดออนไลน์มาได้ไม่กลัวแฟนเก่าๆบ่น ซึ่งตัวคนรีวิวเองก็ยังคงมึนกับคำพูดของโซนี่อยู่จนถึงทุกวันนี้

ถึงแม้จะไม่มีโหมดออนไลน์มาให้เล่น "Uncharted The Nathan Drake Collection" ก็ยังเป็นชุดคอลเลคชันที่คุ้มค่าสำหรับคนที่ยังไม่เคยแตะสุดยอดเกมทั้งสามมาก่อน รวมถึงคนที่ยังเล่นเก็บไม่ครบทุกภาค ส่วนใครที่ผ่านมันมาหมดแล้วความสดใหม่ก็คงอยู่ที่การได้กลับไปนั่งเล่นตัวเกมภาคแรกอีกครั้งในบรรยากาศที่ดูแตกต่างไปจากเดิม แถมยังมีโบนัสพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อแผ่น ที่จะได้รับการันตีสิทธิ์ในการร่วมทดสอบเกม "Uncharted 4: A Thief's End" ก่อนใครในช่วงเบต้ามัลติเพลย์เยอร์ ต้นเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งรายละเอียดขั้นตอนการเข้าร่วมนั้น ได้เขียนระบุอธิบายเอาไว้ชัดเจนแล้วภายในกล่อง

เกมการเล่น9
กราฟิก9
เสียง9
ความคิดสร้างสรรค์7
ภาพรวม8.5


ข้อดี : เกมเพลย์ที่ถูกปรับปรุง, ภาพสวยเนียนขึ้น, เฟรมเรตลื่นหัวแตก และมีสุดยอดเกมให้เล่นถึง 3 ภาค
ข้อเสีย : ผุดบัคใหม่ กับการขาดหายไปของโหมดออนไลน์

Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Next Generation InnovationNGIN












*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*





































กำลังโหลดความคิดเห็น