xs
xsm
sm
md
lg

Review: FIFA 16 ลูกหนังบัลลังก์ร้อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แนว กีฬา
ระบบ PS4, Xbox One, PS3, Xbox 360, PC
เรตเกม PEGI: 3 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป

ภาคล่าสุดของซีรีย์ "ราชา" เกมกีฬาลูกหนังผู้ครองใจคอบอลทั่วโลก ที่ดันมาสะดุดล้มระเนระนาดซมซานกลับไปอย่าง "ยาจก"

สำหรับใครที่ติดตามเกมฟุตบอลของค่ายอีเอมาตลอดคงรู้ดีว่า ซีรีย์ฟีฟ่านั้นมักจะมีช่วงเวลาที่ตัวเกมถูกปรับเปลี่ยนแบบยกเครื่องนำเสนอแต่สิ่งใหม่ๆสร้างความตื่นตาตื่นใจ กับอีกช่วงเวลาหนึ่งที่ดำเนินไปแบบเนิบๆไม่เห็นพัฒนาการอะไรทั้งสิ้นเน้นหากินกับของเก่าๆ ซึ่งช่วงเวลาแย่ๆเหล่านั้นก็ได้วนกลับมาอีกครั้งแล้วในเกม FIFA 16 และหากใครที่คิดว่า "ไม่มีอะไรใหม่ไม่เป็นไร ขอให้เหมือนเดิมเป็นพอ" อาจต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เมื่อรู้ว่าฟีฟ่าภาคนี้มันเลวร้ายลงยิ่งกว่าเดิม

ก่อนจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการสาวไส้ เรามาดูด้านดีๆของเกมฟุตบอลประจำฤดูกาลล่าสุดนี้กันเสียก่อน ซึ่ง "FIFA 16" นั้นได้แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ของอีเอ ที่เป็นห่วงเป็นใยเหล่าเกมเมอร์หน้าใหม่ๆที่ยังไม่คุ้นชินกับระบบเกมเพลย์ของฟีฟ่า ด้วยฟีเจอร์ FIFA Trainer ที่จะคอยบอกคอยสอนการบังคับกดปุ่มพื้นฐานเสมือนเราเป็นเด็กทารกแรกเกิด ซึ่งฟีเจอร์นี้หลายคนคงเคยผ่านตากันมาบ้างแล้วในตัวเกมเวอร์ชันเดโม ส่วนใครที่คิดว่าตนเองรู้หมดแล้ว ก็สามารถเลือกปิดมันได้เช่นกัน

รูปแบบการนำเสนอนั้น ยังคงทำได้ดีเหมือนฟีฟ่าภาคก่อนๆ หรือใช้คำว่าไม่มีอะไรใหม่ไปจากเดิมก็คงได้ ทั้งโหมดการเล่นที่คงความหลากหลายชนิดเลือกเล่นกันไม่ถูก, ข้อมูลข่าวคราวของทีมโปรดที่มีการอัพเดทอยู่ตลอดเวลา, โหมด Career ที่ละเอียดสมจริงสมจังไม่ว่าจะสวมบทผู้จัดการทีมหรือนักเตะ, เสียงพากย์บรรยายข้างสนามที่คุยเจาะลึกราวกับนั่งชมการถ่ายทอดสด ไปจนถึงการนำแต้มที่ได้จากการเล่นไปปลดล็อคซื้อไอเทมต่างๆในร้านค้า ที่ยังคงเป็นแรงดึงดูดสำคัญให้เราอยากเล่นต่อเรื่อยๆ

สิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในภาคนี้ ที่เห็นเด่นชัดจริงๆมีเพียงแค่ 2 ประการ อันดับแรกแน่นอนว่าต้องเป็นการที่ FIFA 16 ได้บรรจุเอาเหล่า "นักเตะหญิง" เข้ามาให้หนุ่มๆได้กระชุ่มกระชวยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ซีรีย์ ประเดิมด้วย 12 ทีมชาติดังๆที่เข้าร่วมรายการแข่งขัน "ฟุตบอลโลกหญิง 2015" ที่แคนาดา แต่ทว่าน่าเสียดายที่แข้งสาวไทยไม่ติดอยู่ในโผ เพราะโชคร้ายตกรอบแบ่งกลุ่มในศึกเวิลด์คัพที่ผ่านมา อีกทั้งเรายังถูกบังคับให้สามารถเลือกเล่นเป็นพวกเธอได้แค่ภายในโหมด "Women's International Cup" ที่ถูกแยกเดี่ยวออกมาโดดๆเพียงโหมดเดียวเท่านั้น

เรื่องใหม่ประการที่สอง คงต้องยกให้โหมดยอดนิยมของคนเติมเงินอย่าง Ultimate Team ที่คราวนี้มีการเพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่ที่พบบ่อยในวงการอเมริกันเกมอย่าง NFL หรือ NBA กับระบบใหม่ที่มีชื่อว่า "Draft" ซึ่งเปิดโอกาสให้เราสามารถจิ้มเลือกแข้งซุปตาร์ได้ตามใจอยาก แล้วสร้างทีมรวมดาวในฝันขึ้นมาเล่นแข่งในทัวร์นาเมนท์เฉพาะกิจ หากชนะ 4 นัดรวดก็รับไปเลยการ์ดทองระดับพรีเมี่ยม เพื่อเอาไว้เป็นรากฐานในการก่อร่างสร้างทีมของเราเอง แต่ด้วยความเขี้ยวของอีเอโหมดนี้จึงถูกจำกัดให้เข้าเล่นได้ฟรีแค่ครั้งแรก หากติดใจอยากเล่นอีกต้องควักเนื้อจ่ายถึง 15,000 Coins ซึ่งคงไม่ดีแน่สำหรับเด็กผีคนไหน ที่ต้องการเก็บตังค์ซื้อ "อ็องตอนี มาร์ซียาล" หนูน้อยมหัศจรรย์วัย 19 ปี ว่าที่นิวอองรีคนต่อไป ที่ปัจจุบันกำลังเนื้อหอมจนราคาค่าตัวพุ่งถีบทะลุหลักแสนไปเป็นที่เรียบร้อย

ทางด้านภาพกราฟิก ผลพวงจากการที่อีเอ ได้เจรจาตกลงเซ็นสัญญากับสโมสร "เรอัล มาดริด" จึงส่งผลให้ใบหน้านักเตะราชันชุดขาว ออกมาหล่อเท่ห์สมจริงเหมือนต้นฉบับกันทุกคน ตรงกันข้ามกับบรรดานักเตะในเกมส่วนใหญ่ที่ยังคงใช้หน้าผีขาดเลือดอยู่ โดยเฉพาะเหล่านักเตะผิวสองสีที่มีใบหน้าซีดเผือกเป็นไข่ต้ม จ้องไปจ้องมาดูแล้วเหมือนกำลังมอง "หุ่นขี้ผึ้ง" เล่นเตะบอลกันซะมากกว่า ซึ่งข้อเสียตรงจุดนี้แฟนๆฟีฟ่าคงรับได้ เพราะเห็นกันชินตาจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

วกเข้าเรื่องเกมเพลย์ที่ถือเป็นหัวใจหลักกันบ้าง โดยปีนี้ทางอีเอได้เสริมลูกเล่นปลีกย่อยใหม่ๆให้ตัวเกมดูสมจริงขึ้นไปอีกนิด ซึ่งหลายคนคงสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ตอนที่นักเตะลงสนามว่าที่ด้านหลังของกรรมการมีอะไรเหน็บติดเอาไว้อยู่ที่เอว ความจริงแล้วมันก็คือ "สเปรย์ล่องหน" ที่เริ่มประเดิมใช้กันในศึกเวิลด์คัพ 2014 ที่บราซิล จนได้รับความนิยมนำมาใช้กับหลายลีกชั้นนำของยุโรปในปัจจุบัน โดยในเกมเมื่อเกิดการฟาวล์ขึ้นในระยะหวังผล หากเราไม่ใจร้อนรีบกดข้ามไปเสียก่อน ก็จะได้เห็นกรรมการเดินมาพ่นสเปรย์ฉีดลากตีเป็นเส้นให้เห็นกันจะๆ และไม่ต้องห่วงว่าเส้นขาวๆมันจะอยู่เกะกะสายตาไปตลอด 90 นาที เพราะเมื่อเกมดำเนินไปสักพักมันก็จะค่อยๆเลือนจางหายไปเองสมดังชื่อ

จากที่เขียนมาซะยืดยาว อาจทำให้หลายคนคิดว่าฟังดูแล้วมันก็ไม่แย่เท่าไหร่ ดังนั้นถัดจากนี้ไปเราจะขอพลิกหน้าเหรียญที่อยู่อีกด้านของตัวเกมออกมาให้เห็นกัน ซึ่งใครที่เคยลอง "PES 2014" ที่ว่าแย่สุดๆของวินนิ่งแล้ว พอมาเจอเกมเพลย์ของ "FIFA 16" เข้าไปนี่รับรองเงิบทุกราย และนั่นเป็นผลมาจากปุ่มวิ่ง R2 ของภาคนี้ที่ทำให้ตัวละครพุ่งติดจรวดราวกับกดใช้ไนโตร จากนักเตะที่ยืนนิ่งๆพอนึกอยากจะวิ่งก็สปรินท์ฉีกเลี้ยงบอลไปไกลจนคนตัวเปล่าวิ่งไล่ตามแทบไม่ทัน ส่งผลให้เหล่านักเตะความเร็วสูงในเกมนี้กลายเป็นเทพในบัดดล เท่านั้นไม่พอบรรดา AI คู่แข่งในเกมต่างก็หันมาใช้สไตล์วิ่งหน้าตั้งแตะเส้นหลังแล้วตบเข้ามาตลอด ราวกับว่าเราย้อนเวลากลับไปนั่งเล่นวินนิ่งภาคแรกๆอยู่ยังไงยังงั้น

ระบบใหม่อีกอย่างที่ถูกเสริมใส่เข้ามา และทำให้เกมเพลย์ยิ่งเละเป็นโจ๊ก นั่นก็คือ "No Touch Dribbling" หรือการเลี้ยงโดยเท้าไม่แตะโดนบอล แต่อาศัยการโยกตัวหลอกคู่ต่อสู้เอา หากใครนึกภาพไม่ออกลองไปค้นหาคลิปจังหวะลีลาเลื้อยลากกระชากใจของปีกพ่อมด "ไรอัน กิ๊กส์" ในรอบรองชนะเลิศเอฟเอคัพปี 99 มานั่งดูประกอบตาม อย่างไรก็ตามเทคนิคที่ฟังดูเหมือนจะดีนี้ เมื่อถูกนำมาใช้ในเกมกลับทำให้การเล่นปกติดูผิดเพี้ยนไปหมด ด้วยจังหวะที่ดูเงอะๆงะๆของเหล่านักเตะที่เลี้ยงบอลกันแบบแหยงๆไม่เต็มฝ่าเท้า ดูแล้วไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย

อีกทั้งฟีฟ่าภาคนี้ ยังถูกขนานนามว่าเป็น "ฝันร้าย" สำหรับเหล่าผู้ที่ถนัดสไตล์เน้นตั้งรับเอารถบัสมาจอดและรอจังหวะสวนกลับ เนื่องด้วยสปีดการออกตัวแบบผิดมนุษย์มนาที่เกริ่นไปข้างต้น จนปุ่มสกัดแทบไม่มีประโยชน์ สิ่งที่ทำได้อย่างเดียวในฐานะกองหลังคือนั่งสวดภาวนารอให้คู่แข่งจ่ายบอลผิดพลาดกันเอง ส่วนกรรมการผู้ตัดสินก็สุดทนไม่แพ้กัน เนื่องจากท่านเปาในภาคนี้เหมือนเกิดมาในราชวงศ์ผู้สูงศักดิ์เห็นนักเตะแตะเนื้อต้องตัวกันในกรอบเป็นไม่ได้ต้องเป่าจุดโทษให้ตลอด หรือต่อให้เราเก่งระดับเซียนตั้งรับหน้ากรอบได้อย่างเหนียวแน่น ก็ไม่วายต้องมาเจอกับลูกเตะยิงไกลพลังเท้าช้างที่ไม่ว่าใครหน้าไหนเป็นคนง้างล้วนพุ่งเสยเสียบใต้คานกันทุกราย แถมการเข้าสกัดในเกมนี้ก็ยังคงเป็นแบบโบราณคร่ำครึที่ใช้กันมานานไม่คิดเปลี่ยนสักที คือ เน้นสักแต่ว่าสกัดมันให้พ้นๆไป โดยไม่สนว่าลูกบอลจะออกข้าง หรือไปเข้าเท้าใคร ซึ่งหากผู้ใดสงสัยว่าการเข้าสกัดสมัยใหม่นั้นมันเป็นเช่นไร แนะนำให้ลองซื้อแผ่น PES 2016 มาเล่นดูคงเข้าใจ

จากความน่าผิดหวังของ "FIFA 16" ที่ดูเหมือนขยับใกล้ซีรีย์ "ฟีฟ่าสตรีท" เข้าไปทุกที แถมปีนี้คู่แข่งตัวเป้งอย่าง "PES 2016" กลับทำโดดเด่นจนเกินหน้าเกินตา ก็ยิ่งทำให้เก้าอี้ทองที่ตนนั่งครองมานานเกิดสั่นคลอนร้อนฉ่าขึ้นมา หากว่าปีหน้าอีเอยังวางใจไม่เร่งแก้ไขปรับปรุง และเปซภาคต่อไปไม่ทะลึ่งปรับเปลี่ยนเกมเพลย์ไปเสียก่อน เห็นทีคำโวของโคนามิ ที่เคยลั่นวาจาว่าราชันย์ "วินนิ่ง" จะหวนกลับมาทวงบัลลังก์เกมฟุตบอลอันดับหนึ่ง คงไม่ใช่ฝันที่ไกลเกินจริงซะแล้ว

เกมการเล่น6
กราฟิก9
เสียง9
ความคิดสร้างสรรค์7
ภาพรวม8 (ความจริงได้ 7.75 แต่ปัดขึ้นให้)


ข้อดี : การนำเสนอที่ยังคงสวยสดงดงาม, ได้เล่นเป็นนักเตะหญิง, ฉากพ่นสเปรย์ล่องหน และฟีเจอร์ดราฟต์ในอัลติเมททีม
ข้อเสีย : เกมเพลย์สุดเพลีย, การเคลื่อนไหวดูเก้ๆกังๆ, AI คู่แข่งเอาแต่วิ่ง, เกมรับออกแบบมาได้แย่, ระบบจ่ายบอลที่ตัดสินใจแทนผู้เล่น, ลูกศรเหนือหัวนักเตะเล็กจิ๋วจนไม่รู้บังคับใครอยู่, เพื่อนร่วมทีมไม่ค่อยทำทาง, กรรมการจอมเป่าจุดโทษ และบัคที่ปรากฏให้เห็นบ่อยขึ้นกว่าเดิม

ปู่ชิน
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Next Generation InnovationNGIN












*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*









































กำลังโหลดความคิดเห็น