แนว แอ็คชั่น
ระบบ PS4, Xbox One, PS3, Xbox 360, PC
เรตเกม PEGI 18 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
การปฏิบัติภารกิจครั้งสุดท้ายของสเนค ซึ่งเดินทางมาถึงบทสรุปจุดไคลแมกซ์ที่จะเฉลยคลายปมทุกข้อสงสัยในแฟรนไชส์เมตัลเกียร์ และเหมือนเป็นการเอื้อนเอ่ยแทนคำบอกลาของ "ฮิเดโอะ โคจิมะ"
"เมตัลเกียร์โซลิด แฟนธ่อมเพน" ในภาคนี้ถือเป็นการสานต่อเหตุการณ์ที่หลายคนยังค้างคาใจเกี่ยวกับตัวละคร "Naked Snake" (หรือที่รู้จักกันในนาม Big Boss) วีรบุรุษสงครามเย็นที่มีการปูเรื่องราวมาตั้งแต่เกมเมตัลเกียร์ภาคสาม ข้ามไปยังพีซ วอล์คเกอร์บน PSP และวกกลับมาใหม่ในภาคหลักลำดับที่ห้า ซึ่งหากใครที่สงสัยว่าทำไมเปิดเกมมาบุรุษสายลับตาเดียวผู้น่าเกรงขามรายนี้ถึงได้มีลุคเปลี่ยนไปแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม หรือฐานทัพที่ตนอุตส่าห์ลำบากลำบนสร้างมากับมือจากภาคพีซ วอล์คเกอร์หายไปไหน ก็อยากแนะนำให้ไปหาเกมภาคปฐมบทกราวน์ซีโร่ส์มาเล่นเสียก่อน
ซึ่งผลประโยชน์ที่ได้จากการนั่งเล่นภาคกราวน์ซีโร่ส์มาก่อน มันไม่ได้ช่วยเพียงแค่ให้ผู้เล่นสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้ถูกเท่านั้น แต่ยังเป็นการให้เราได้คุ้นชินกับระบบการบังคับรูปแบบใหม่ที่แปรเปลี่ยนไปจากภาคก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกอาวุธอุปกรณ์ไอเทมด้วยปุ่มทิศทาง, ฟีเจอร์ Reflex ชะลอเวลาสุดเจ๋งยามจ๊ะเอ๋กับศัตรู หรือการที่มันกลายเป็นเกมแนวโอเพ่นเวิลด์แบบเต็มตัว ที่เราสามารถจัดอันดับความสำคัญของมิชชั่นที่อยากทำก่อนหลังได้ หรือเลือกวิธีปฏิบัติภารกิจได้อย่างอิสระเสรีและหลากหลาย ใครถนัดสไตล์ลอบเร้นก็หมอบคลานจากจุดเกิดลากยาวไปถึงฐานศัตรู รู้สึกคันไม้คันมือก็บุกยิงฝ่าดงกระสุนเข้าไปตรงๆ ถ้ามั่นใจในความแม่นก็ส่องสไนไล่เก็บทีละคนจากระยะไกล หากต้องการความอุ่นใจก็สามารถเรียกเฮลิคอปเตอร์มาช่วยยิงสนับสนุน หรือใครขี้เกียจอยากเล่นง่ายจะสั่งทิ้งระเบิดปูพรมทั้งฐานทัพเลยก็ยังได้
ด้วยการหยิบยืมรูปแบบเกมเพลย์โอเพ่นเวิลด์ของตะวันตกมาใช้นี้เอง ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของซีรีย์เมตัลเกียร์เลยทีเดียว จากเมื่อก่อนที่สเนคของเราต้องย่องแทรกซึมฐานทัพหลบซ่อนศัตรูในฉากสภาพแวดล้อมแบบปิดที่ไม่ต่างจากการเล่นซ่อนหาอยู่ในบ้าน แต่พอมาคราวนี้กลับเปิดกว้างทำให้ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ สามารถเลือกจู่โจมศัตรูได้จากทุกทิศ 360 องศา หรือหากคับขันจริงๆก็สามารถวิ่งหนีออกมาจากพื้นที่ตรงนั้นเลยได้ทันที เรียกว่าสบายเรา แต่ลำบากศัตรู แถมแอ็คชั่นเกมเพลย์หลบเข้ากำบังแล้วโผล่มายิงก็ทำออกมาได้กระชับทำให้บู๊สนุกยิ่งกว่าภาคไหนๆ ดังนั้นคงไม่แปลกอะไรหากเห็นบางคนเล่นเดินกราดกระสุนเมามันส์นึกว่าตนเป็นแรมโบ้
อีกหนึ่งปัจจัยที่ถูกเพิ่มเข้ามาในภาคนี้ คือเรื่องของเวลาที่เดินไปแบบเรียลไทม์ ที่เราสามารถล็อคตำแหน่งเป้าหมายในเวลากลางวัน แล้วค่อยเข้าทำตอนกลางคืนในขณะที่ศัตรูกำลังง่วงเหงาหาวนอน อีกทั้งปัจจัยด้านสภาพอากาศแบบไดนามิคในเกมก็มีผลเช่นเดียวกัน อย่างเช่นพายุทรายที่ช่วยบดบังทัศนวิสัยของศัตรู หรือยามฝนตกฟ้าร้องที่ช่วยกลบเสียงฝีเท้าของเรา ส่วนเรื่องภาพกราฟิกแม้ว่ามันจะใช้ฟ็อกซ์เอนจิ้นตัวเดียวกับภาคกราวน์ซีโร่ส์ แต่พอมาในแฟนธ่อมเพนกลับทำให้เราทึ่งได้อีกครั้ง ด้วยขนาดความกว้างใหญ่ไพศาลรายละเอียดสูงของฉากทะเลทรายในอัฟกานิสถาน รวมถึงฉากป่าทุ่งหญ้าสะวันนาในแอฟริกา ที่ถูกเรนเดอร์ออกมาให้เล่นกันอย่างลื่นไหลไม่มีสะดุดคงที่ตลอดในระดับ 60 เฟรมต่อวินาที
สำหรับใครที่เป็นสาวกเมตัลเกียร์ เมื่อได้มาจับ "แฟนธ่อมเพน" เชื่อว่าคงต้องรู้สึกประหลาดเหมือนมีอะไรบางอย่างผิดแปลกไป ซึ่งสิ่งนั้นมันก็คืออัตราส่วนระหว่างเกมเพลย์ กับฉากมูวี่คัตซีน ที่ดำเนินมาจนถึงภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์แล้ว แต่ก็ยังหาความสมดุลจุดลงตัวไม่เจอสักที หลังจากที่ภาคก่อนโดนแฟนบ่นหนาหูว่ามูวี่เยอะเกิน มาคราวนี้ทางทีมงานก็เลยออกแนวประชดประชัน ฉากคัตซีนถูกตัดทอนลดลงไปจนเหลือน้อยมากเพื่อให้ได้เล่นกันแบบเต็มอิ่มสมใจหมาย อีกทั้งเนื้อเรื่องหลักของภาคนี้มันก็ไม่ได้เข้มข้นซับซ้อนซ่อนเงื่อนเท่าไหร่นัก วันๆวนเวียนอยู่แต่การรับจ๊อบหาเงินมาสร้างสมกองกำลังเพื่อไปสะสางหนี้แค้นกับวายร้ายจอมบงการ "ไซเฟอร์" เท่านั้น ส่วนเหล่าบอสศัตรูที่เราต้องสู้ด้วยก็มีอยู่เท่าที่เห็นในช่วงต้นเกม
รูปแบบการดำเนินเกมของแฟนธ่อมเพน ส่วนใหญ่จะได้รับอิทธิพลหลักๆมาจากภาคพีซ วอล์คเกอร์ ที่มีการบอกเล่าเรื่องราวผ่านมิชชั่น เพียงแต่จะถูกปรับปรุงใหม่ให้ดียิ่งขึ้น โดยภาคนี้เราสามารถเลือกบัดดี้มาเป็นเพื่อนร่วมปฏิบัติภารกิจไปกับเราได้ ซึ่งคู่หูเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของ ล้วนต่างช่วยเราได้มากหากเลือกใช้ให้เหมาะกับภารกิจ นอกจากนี้เรายังสามารถสานสายสัมพันธ์ต่อกันเพื่อปลดล็อคคำสั่งใหม่ๆออกมาให้เลือก ส่วนเงินที่ได้หลังจากจบในแต่ละภารกิจก็สามารถนำไปพัฒนาวิจัยอาวุธอุปกรณ์ใหม่ๆ และขยายฐาน Motherbase ของเราให้เติบใหญ่เหมือนเช่นเคย ซึ่งหนนี้เราจะได้เดินสำรวจทั้งนอกทั้งในฐานทัพ Motherbase กันจริงๆเสียที
เนื้อหาภายในแฟนธ่อมเพนนับว่าค่อนข้างยาวเลยทีเดียวหากคิดจะเก็บให้หมด ด้วยจำนวนมิชชั่นที่ผุดขึ้นมาให้เล่นต่อเรื่อยๆหลังจบเครดิต (เอาอีกแล้ว) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการนำภารกิจเก่าๆที่เราเคยเล่นผ่านมาปรับระดับให้ยากขึ้น ส่งผลให้ทั้งเกมมีมิชชั่นหลักให้เลือกเล่นรวมๆแล้วมากถึง 50 ภารกิจด้วยกัน พอมารวมกับบรรดาภารกิจรอง Side OPS ทั้งหลายอีกนับร้อย ก็ยิ่งช่วยให้ตัวเกมสามารถเล่นได้นานเป็นเดือน แต่ด้วยระดับความสำคัญของมันที่ "รอง" สมชื่อ เพราะมีแต่ภารกิจเดิมๆในฉากสถานที่ที่ใช้วนซ้ำไปซ้ำมา จึงอยากแนะนำว่าในช่วงแรกๆหากไม่มีความจำเป็นก็ควรมองข้ามมันไปก่อน ถ้าไม่อยากให้ความซ้ำซากน่าเบื่อของมันมาทำลายอรรถรสความสนุกของเกม
มาถึงในส่วนของการเล่นออนไลน์ เนื่องจากตอนนี้โหมดมัลติเพลย์เยอร์จริงๆของเกมที่เรียกว่า "เมตัลเกียร์ออนไลน์" นั้นยังไม่เปิดให้บริการ จึงทำให้ฟีเจอร์ออนไลน์ในปัจจุบันของเกมถูกใช้กับเพียงแค่มิชชั่น FOB (Forward Operating Bases) ที่เปิดโอกาสให้เราเข้าบุกแทรกซึมป่วนฐาน Motherbase ของผู้เล่นคนอื่น เพื่อชิงเอาเหล่าสต๊าฟฝีมือดี หรือช่วงชิงทรัพยากรอันมีค่ามาเป็นของเรา ซึ่งใครที่ไม่อยากยุ่งเกี่ยว หรืออยากหลุดพ้นจากบ่วงเวรบ่วงกรรม (เราปล้นเขา เขาปล้นเรา) ก็สามารถเลือก Disconnect ออกจากเซิร์ฟเวอร์ เพื่อเล่นเกมในโหมดออฟไลน์ไปตามปกติของเราได้
"Metal Gear Solid V The Phantom Pain" ถือเป็นการปิดฉากตำนานแฟรนไชส์ผู้เป็นต้นแบบเกมแนวสายลับลอบเร้นลงได้อย่างสมบูรณ์ และจากความสนุกที่ได้รับเรื่อยมานับตั้งแต่สมัยวัยเยาว์ จนเติบใหญ่มาได้ถึงทุกวันนี้กับบทบาทของนักรีวิวเกม จึงไม่มีคำไหนแทนความรู้สึกในฐานะที่เป็นแฟนเมตัลเกียร์คนหนึ่งได้ดีไปกว่าคำว่า "ขอบคุณ" ที่ก่อนจากกันยังอุตส่าห์ให้เราได้มีโอกาสเล่น "พีซ วอล์คเกอร์ 2"!!!
เกมการเล่น | 10 |
กราฟิก | 10 |
เสียง | 10 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 10 |
ภาพรวม | 10 |
ข้อดี : ฉากกว้างใหญ่มีรายละเอียด, ร้อยแปดหนทางในการทำภารกิจ, เฟรมเรตสุดลื่นไหล, ปรับแต่งได้แทบทุกอย่าง, คู่หูบัดดี้ที่พึ่งพาได้, อุปกรณ์ iDroid แสนสะดวก, ภารกิจอย่างเยอะ และได้เล่นมากกว่านั่งดู
ข้อเสีย : พล็อตเรื่องดร็อปลง
ปู่ชิน
สนับสนุนบทความรีวิวโดย ร้านแนดซ์โปรเจกต์ NADZ PROJECT
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*