xs
xsm
sm
md
lg

Review: Razer Naga Epic Chroma เล่น MMO อย่างมีสไตล์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประเภท Gaming Mouse
ใช้ได้กับ: PC และ Mac

อุปกรณ์อีกหนึ่งชิ้นในไลน์โครม่าของค่ายงูเขียว ที่เป็นการนำเมาส์ตัวเก่งของคอเกมแนว MMO มาดัดแปลงเพิ่มเติมสีสัน พร้อมเสริมราศีด้วยฟีเจอร์สาย USB ที่สามารถถอดออกได้ หากต้องการใช้งานแบบไร้สาย

ถัดจากเมื่อคราวก่อน ที่ทางเราได้นำเสนอสินค้าในเซตของ Razer Chroma กันไปแล้วถึง 3 ชิ้นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นตัวคีย์บอร์ดแบล็ควิโดวส์ ตัวหูฟังคราเคน 7.1 และเมาส์เดธแอดเดอร์ มาคราวนี้เราขอเอาใจสาวกคอเกมแนว MMO และ MOBA บนพีซีกันบ้างกับเจ้า Razer Naga Epic Chroma ที่เป็นการนำเอาเจ้าซีรีส์เมาส์ปุ่มเยอะอย่างนากา มาประดับแต่งแต้มสีสันของแสงไฟ LED เข้าไปให้สามารถแสดงผลแสงสีได้มากถึง 16.8 ล้านเฉดสี

เริ่มกันที่รูปลักษณ์ภายนอก ตัวเมาส์จะทำจากวัสดุพลาสติกดำด้าน รูปทรงตรงตูดเมาส์ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะกว้างใหญ่จับเต็มไม้เต็มมือ พร้อมฐานรองรับด้านข้างที่มีขนาดกำลังพอดีไม่กว้างหรือแคบจนเกินไปเหมาะกับมือผู้ใช้งานทุกขนาดไซส์ นอกจากนี้ที่ด้านข้างฝั่งขวาของตัวเมาส์ ยังมีการติดแผ่นยางเพื่อเพิ่มความกริบ ในขณะที่ฝั่งซ้ายจะเป็นปุ่มกดต่างๆที่ร้อยเรียงกันเป็นระเบียบ น้ำหนักโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 150 กรัม ซึ่งหนักกว่าเมาส์นาการุ่นปกติเล็กน้อยเพราะมีการฝังแบตเตอรี่เอาไว้ภายใน

มาต่อกันที่ปุ่มกด ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของเมาส์ตัวนี้ โดยที่เจ้าเมาส์นาการุ่นโครม่า มันจะมีปุ่มมาให้กดเท่ากับเมาส์นาการุ่นปกติ นับเฉพาะด้านหลังของตัวเมาส์ก็มีแล้วถึง 7 ปุ่ม ไล่ตั้งแต่ปุ่มคลิกซ้าย, คลิกขวา, ปุ่มเสริมกลางเมาส์ที่นิยมเอาไว้ปรับค่า DPI สองปุ่ม และปุ่ม Scroll Wheel ที่สามารถโยกกดลงไปได้ทั้งซ้าย ขวา หรือกดลงไปตรงๆ ซึ่งหากนับรวมกับปุ่มหมายเลขด้านข้างทั้ง 12 ก็จะทำให้มีจำนวนปุ่มกดทั้งสิ้น 19 ปุ่มด้วยกัน แถมแต่ละปุ่มเรายังสามารถเลือกกำหนดฟังก์ชันการทำงานได้อิสระผ่านซอฟต์แวร์ Razer Synapse 2.0

สีสันแสงไฟ LED ที่ถือเป็นพระเอกตัวชูโรงของเมาส์นาการุ่นเอปปิกโครม่านั้น ทางเรเซอร์ได้ดีไซน์การแสดงแสงสีให้ดูโดดเด่นไม่ซ้ำแบบกับเดธแอดเดอร์ ด้วยแสงไฟ LED เฉพาะตรง Scroll Wheel กับแผงปุ่มตัวเลขด้านข้างทั้ง 12 เท่านั้น ในขณะที่ตัวโลโก้เรเซอร์จะไม่มีแสงไฟส่องสว่าง โดยที่ผู้ใช้สามารถเลือกการแสดงสีได้ 2 แบบ คือรูปแบบฟูลสเปคตรัมไซคลิ่ง ที่เป็นการไล่เปลี่ยนทุกเฉดสีวนไปเรื่อยๆ กับรูปแบบสเตติคสีเดียวแน่นิ่ง ที่ผู้ใช้สามารถเลือกสีสันได้อิสระแยกจากกันระหว่างส่วน Scroll Wheel กับแผงปุ่มหมายเลขด้านข้าง



เลเซอร์ของเมาส์ตัวนี้ จะใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์แบบ 4G ไร้แสงแยงตาเวลายกขึ้น และหากใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ Razer Synapse 2.0 ที่ดาวน์โหลดมาติดตั้งเอาไว้ภายในเครื่อง ผู้ใช้จะสามารถเลือกปรับความไวในการตอบสนองได้สูงสุดถึง 8,200 DPI โดยสามารถเลือกกำหนดลำดับขั้นของการเปลี่ยน DPI ได้ตามความถนัดตั้งแต่ต่ำสุด 2 สเตจไปจนถึงมากสุดที่ 5 สเตจ อีกทั้งเจ้าซอฟต์แวร์ตัวนี้ยังเปิดโอกาสให้เราสามารถปรับลดความสว่างของแสงไฟ LED เพื่อประหยัดพลังงานได้อีกด้วย

เมื่อนำมาทดสอบใช้งานจริงกับการเล่นเกมแนว MMORPG ปุ่มหมายเลขด้านข้างทั้ง 12 ของตัวเมาส์ สามารถแม็พกับจำนวนช่องใส่สกิลของตัวละครได้พอเหมาะพอดี และในบางครั้งกลับรู้สึกเหมือนตัวเมาส์ให้ปุ่มมามากเกินจนเหลือเฟือเหลือใช้เสียด้วยซ้ำสำหรับบางเกม ส่วนถ้าหากใครอยากนำเมาส์ตัวนี้ไปลองกับเกมแนวอื่นๆอย่าง FPS ก็สามารถเล่นได้ แต่ไม่ขอแนะนำเพราะด้วยความใหญ่ พร้อมปุ่มมากมายอาจทำให้เลื่อนเป้ายิงได้ไม่สะดวกนัก และที่สำคัญคือความนิ่งที่ยังไงก็ต้องยกให้เมาส์เดธแอดเดอร์

สำหรับสายเชื่อมต่อกับพีซีที่แถมมาให้ในกล่อง จะเป็นสาย USB แบบถักความยาวมาตรฐานประมาณ 2 เมตร แต่ไฮไลท์ของมันอยู่ตรงคำว่า "เอปปิก" ที่เป็นการเสริมความพิเศษให้เมาส์ตัวนี้ดูมีคุณค่าขึ้นมาด้วยฟีเจอร์ไวร์เลส ซึ่งเราสามารถถอดสาย USB ออกจากตัวเมาส์เพื่อใช้งานมันแบบไร้สายได้ โดยแบตเตอรี่ในตัวสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 20 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ด้านใต้เมาส์มีปุ่มปิดเปิดการใช้งานไวร์เลส พร้อมแสงไฟสีแดงกระพริบแจ้งเตือนยามแบตฯอ่อน ยิ่งไปกว่านั้นในแพคเกจยังแถมแท่นวางเมาส์ระบบแม่เหล็ก ซึ่งทำงานเป็นทั้งแท่นชาร์จและตัวส่งสัญญาณไวร์เลส ที่มาช่วยเสริมสง่าราศีให้กับเมาส์ของเรา

หากคอ MMO ที่พอเห็นป้ายราคา แล้วรู้สึกว่าเมาส์ตัวนี้มันแพงกว่าเมาส์นาการุ่นปกติเกือบๆเท่าตัว ก็อยากให้ลองมองไปที่คุณสมบัติของมันก่อน เนื่องจากเจ้าเมาส์ตัวนี้มันไม่ได้มีเพียงแค่แสงไฟ LED หลากสีสันที่ถูกเพิ่มเข้ามาเท่านั้นเหมือนอย่างสินค้าในไลน์โครม่าชิ้นอื่นๆของทางเรเซอร์ ซึ่งด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดอิสระให้สามารถใช้งานได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย พร้อมกับแท่นวางชาร์จสุดเก๋นี้ จะทำให้คนที่ซื้อไปไม่เสียดายตังค์อย่างแน่นอน

System Requirements
• เครื่องพีซี หรือแมค ที่มีพอร์ต USB
• Windows 8/ Windows 7 / Windows Vista / Windows XP (32-bit) / Mac OS X (v10.7 to 10.9)
• การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต (สำหรับติดตั้งไดรเวอร์)
• พื้นที่ว่างฮาร์ดดิสก์อย่างน้อย 100 MB
• ซอฟต์แวร์ Razer Synapse 2.0 สำหรับปรับแต่งและตั้งค่า



สนใจข้อมูลผลิตภัณฑ์ คลิกเข้าไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.razerzone.com


*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*








กำลังโหลดความคิดเห็น