xs
xsm
sm
md
lg

Review: Razer Chroma Set สีสันใหม่แห่งการเล่นเกม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประเภท Gaming Accessories
ใช้ได้กับ: PC และ Mac

อุปกรณ์เกมมิ่งเซตใหม่จากค่ายเรเซอร์ เอาใจสาวกที่เริ่มรู้สึกเบื่อกับสีเขียวแบบเดิมๆที่ใช้กันมานานหลายปี ด้วยสีสันที่มีให้เลือกเปลี่ยนมากสุดถึง 16.8 ล้านเฉดสี โดยมากันครบชุดแบบยกเซตทั้งคีย์บอร์ด หูฟัง และเมาส์

ขอเริ่มกันที่อุปกรณ์เอกชิ้นแรกที่เป็นหนึ่งทั้งเรื่องสีสันและราคา กับเจ้า Razer Blackwidow Chroma ที่เป็นการนำตัวคีย์บอร์ดรุ่นท็อปล่าสุด Razer BlackWidow Ultimate 2014 มาดัดแปลงให้โฉบเฉี่ยวไฉไลมากยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มลูกเล่นแสงไฟแบ็คไลท์ LED ที่สามารถแสดงได้หมดครบทุกเฉดสีที่มีอยู่บนโลกใบนี้ ในขณะที่ตัวเนื้อวัสดุและดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกยังคงเดิม โดยตัวบอดี้ทำจากพลาสติกดำด้านที่มีความแข็งแรงทนทานไม่เป็นรอย พร้อมด้วยสายถักคุณภาพเยี่ยมอย่างหนาไม่ต้องกลัวเวลาบิดงอ

ส่วนสัมผัสการกดนั้นไม่ต่างจากคีย์บอร์ดรุ่น Ultimate 2014 เนื่องจากภายในเป็นปุ่มเรเซอร์กรีนสวิตซ์แบบแมคคานิคเหมือนกัน ที่ให้เสียงและความรู้สึกในการกดเหมือนคลิกเมาส์ สามารถรองรับการกดได้มากสุดถึง 60 ล้านครั้ง มีปุ่มฟังก์ชันสำหรับปรับเพิ่ม-ลดระดับความสว่างของแสงไฟ LED และ 5 ปุ่มมาโครเรียงแถวอยู่ด้านซ้ายมือ หากนำทั้งสองรุ่นมาวางเปรียบเทียบคงแยกกันไม่ออก นอกเสียจากว่าจะลองมองสังเกตดีๆที่แผ่นยางด้านในใต้ปุ่ม เพราะในรุ่น Chroma จะถูกเปลี่ยนใหม่ให้เป็นแผ่นยางสีขาวแทนที่แผ่นยางสีเขียว เพื่อช่วยในการสะท้อนทุกแสงสีได้อย่างถูกต้องแบบไม่มีผิดเพี้ยน

มาถึงเรื่องแสงสีที่เป็นจุดขายหลักของตัว Razer Blackwidow Chroma ซึ่งการจะให้มันแสดงศักยภาพได้เต็มที่เหมือนในโฆษณา ผู้ใช้งานจำเป็นต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ Razer Synapse 2.0 มาติดตั้งไว้ภายในเครื่อง โดยเจ้าซอฟต์แวร์ตัวนี้มันจะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถปรับการแสดงสีได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งเล่นเวฟ วนเปลี่ยนสีอัตโนมัติ สีเดียวแน่นิ่ง และที่โดนใจสุดๆกับรูปแบบ Reactive ที่มีไฟส่องสว่างเฉพาะปุ่มที่เรากดแล้วค่อยๆดับไป หรือใครไม่ชอบรูปแบบที่เซตมาให้ อยากเลือกจิ้มกำหนดสีไฟเองในแต่ละปุ่มบนแป้นคีย์บอร์ดก็สามารถทำได้อิสระ อย่างใครที่เป็นคอ FPS สามารถตั้งปุ่ม W A S D ให้เป็นสีหนึ่ง และปุ่มเลือกอาวุธ 1 2 3 4 5 ให้เป็นอีกสีหนึ่งก็ยังได้

Razer Blackwidow Chroma สนนราคา 6,090 บาท



สินค้าตัวถัดไปในไลน์โครม่าที่อยากนำเสนอ เป็นอุปกรณ์ที่นักกีฬาอีสปอร์ตทุกคนต้องมี นั่นคือ Razer Kraken 7.1 Chroma ที่เป็นการนำหูฟัง 7.1 ตัวท็อปฉายาอสูรหมึกใต้ทะเลของค่ายเรเซอร์ มาเพิ่มสีสันด้วยแสงไฟ LED ที่สามารถเปลี่ยนได้หลากสีสะกดทุกสายตา แต่ลูกเล่นการแสดงสีอาจด้อยกว่าตัวคีย์บอร์ด เนื่องจากมันสามารถเล่นสีแสงไฟ LED ได้แค่เฉพาะตัวโลโก้เรเซอร์ตรงที่ครอบหูเท่านั้น ส่วนตัวไมโครโฟนด้านล่างจะเปล่งแสงสีขาวเพื่อบ่งบอกสถานะว่ากำลังปิดหรือเปิดไมค์อยู่

ทางด้านคุณภาพของเสียง จากชื่อก็บอกแล้วว่ามันเป็นหูฟัง 7.1 ซึ่งเป็นระบบเสียงรอบทิศทางที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ เมื่อนำมาทดสอบกับเกม Alien Isolation เราจะได้ยินเสียงของศัตรูและรู้ตำแหน่งของมันได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งอุปกรณ์ Motion Detector นอกจากนี้ด้วยโปรแกรมไซแนปส์ 2.0 เราจะสามารถตั้งค่า Calibrate ทิศทางการปล่อยเสียงได้แบบละเอียดยิบตามตำแหน่งการรับรู้เสียงที่ต่างกันไปของแต่ละคน ยกตัวอย่างเช่นเสียงหน้าขวาเราสามารถเลือกปรับได้ว่าเยื้องขวากี่องศา รวมถึงมีตัวเลือกให้บูสต์เพิ่มระดับเสียงเบสสำหรับคนที่ชอบเสียงหนักๆ

ตัวเนื้อวัสดุนั้นไม่ต่างไปจากหูฟังคราเคน 7.1 รุ่นปกติ ประกอบไปด้วยวัสดุที่ทำจากหนังและผ้าเพื่อความนุ่มสบายยามสวมใส่นานๆ ส่วนไมค์จะเป็นแบบสายลวดที่สามารถดันเก็บเข้าไปในรู ทำให้ไม่รู้สึกเกะกะเวลาไม่ใช้งาน นอกจากนี้ตัวหูฟังยังสามารถเลื่อนปรับระดับเพื่อรองรับกับขนาดศีรษะที่ต่างกันของผู้ใช้งาน และยังสามารถพับเก็บได้เพื่อความสะดวกในการพกพา การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์จะไม่ใช้หัวแจ๊คเสียบเหมือนหูฟังทั่วๆไป แต่จะเป็นสาย USB แบบถักความยาวประมาณ 2 เมตร และจากการที่มันเปลี่ยนมาใช้สาย USB นอกจากพีซีแล้วเรายังสามารถนำหูฟังตัวนี้ไปเชื่อมต่อใช้งานกับเครื่องคอนโซลเพลย์สเตชัน 4 ได้อีกด้วย

Razer Kraken 7.1 Chroma สนนราคา 3,790 บาท



มาถึงอุปกรณ์ตัวสุดท้ายกับ Razer Deathadder Chroma ที่เป็นการนำเมาส์พิมพ์นิยมของเหล่าคอ FPS ในรุ่นเดธแอดเดอร์มาแต่งแต้มเพิ่มเติมสีสัน จากรุ่นปกติมีเพียงไฟสีเขียวที่ว่าสวยแล้ว มาคราวนี้ด้วยสีที่มีให้เลือกนับล้านเฉดสียิ่งทำให้มันดูสวยสง่าราศีจับ โดยเราสามารถเลือกปรับแต่งสีแสงไฟ LED ได้อิสระแยกจากกันระหว่างส่วนของ Scroll Wheel กับตัวโลโก้เรเซอร์ตรงตูดเมาส์ ซึ่งน่าจะถูกใจใครหลายๆคนที่ชอบสีสันตัดกันดูแล้วสวยงามไปอีกแบบ นอกจากนี้หากเราซื้อครบเซตแล้วนำทั้งคีย์บอร์ด หูฟัง และเมาส์ในรุ่นโครม่า มาเชื่อมต่อเข้ากับพีซีพร้อมกัน อุปกรณ์ทั้งสามจะทำงานประสานเพื่อแสดงผลแสงสีให้ออกมาดูพร้อมเพรียงกัน

สำหรับวัสดุตัวเมาส์ด้านนอก จะเป็นพลาสติกผิวดำด้านทั้งหมดทำให้ไม่เกิดร่องรอยนิ้วมือเวลาจับ ซึ่งผิวสัมผัสอาจขรุขระสากมือสักเล็กน้อยสำหรับคนที่เพิ่งจับครั้งแรก แต่พอใช้ไปจนชินแล้วจะรู้สึกชอบเพราะจับถนัดติดมือมากกว่าแบบผิวเรียบ ส่วนสาย USB จะเป็นสายถักที่มีความคงทนและไม่พันกันให้หงุดหงิดใจ แถมด้านข้างของตัวเมาส์ทั้งฝั่งซ้ายและขวา ยังมีการเสริมยางเพื่อเพิ่มกริบในการจับ ต่อให้เราสะบัดเมาส์แรงแค่ไหนเวลาเล่นก็ไม่มีทางหลุดออกจากมือ

ตัวเมาส์จะใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์แบบ 4G ที่มีความนิ่งและแม่นยำ สามารถปรับความไวเมาส์ได้ตั้งแต่ต่ำสุด 100 DPI ไปจนถึงสูงสุดที่ 10,000 DPI เลยทีเดียว โดยเราสามารถเลือกกำหนดระดับการเปลี่ยน DPI ได้ระหว่าง 2 - 5 สเตจตามความสะดวก แต่บนตัวเมาส์จะไม่มีปุ่มสำหรับปรับ DPI โดยเฉพาะ ทำให้ผู้ใช้งานต้องเสียสละปุ่มใดปุ่มหนึ่งบนเมาส์เพื่อเอาไว้เปลี่ยน DPI สำหรับเลเซอร์ใต้เมาส์จะเป็นแบบไร้แสง จึงปราศจากแสงแยงตาเวลาที่ยกเมาส์ขึ้น อีกทั้งตัวเมาส์ยังสามารถ Calibrate สแกนผิวสัมผัสของแผ่นรองเมาส์ได้ทุกชนิดทุกยี่ห้อ ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นแผ่นรองเมาส์จากเรเซอร์เท่านั้น

Razer Deathadder Chroma สนนราคา 1,990 บาท



เมื่อนำราคามาเปรียบเทียบกัน ระหว่างอุปกรณ์เรเซอร์รุ่นสีสันโครม่า กับรุ่นปกติไฟสีเขียวเพียวๆ จะพบว่ามีราคาต่างกันไม่ถึงพัน ซึ่งเรื่องความคุ้มค่าก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ถ้าถามความเห็นส่วนตัว คงต้องบอกว่าความสามารถในการปรับแต่งสีสันหรือเปลี่ยนอะไรให้ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะะตัวนั้น ถือเป็นปัจจัยแม่เหล็กสำคัญในการเลือกซื้อสินค้าในปัจจุบัน เพราะบนโลกนี้หากไม่ใช่แฟนกัน คงไม่มีใครอยากใส่เสื้อผ้าซ้ำสีซ้ำลายกับคนอื่น

System Requirements
• พีซีพร้อมพอร์ต USB
• Windows 8/ Windows 7 / Windows Vista / Windows XP (32-bit) / Mac OS X (v10.6 to 10.9)
• การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต (สำหรับติดตั้งไดรเวอร์)
• พื้นที่ว่างฮาร์ดดิสก์อย่างน้อย 200 MB
• ซอฟต์แวร์ Razer Synapse 2.0 สำหรับปรับแต่งและตั้งค่า



สนใจข้อมูลผลิตภัณฑ์ คลิกเข้าไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.razerzone.com


*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*


กำลังโหลดความคิดเห็น