ภาคเสริม"Warlords of Draenor" ทำยอดขายใน 24 ชั่วโมง ทะลุ 3.3 ล้านชุด นอกจากนั้นยังเป็นแรงส่งสำคัญให้ยอดผู้เล่นเวิลด์ออฟวอร์คราฟต์ทะลุ 10 ล้าน ด้านผู้บริหารแอคติวิชันบลิซซาร์ดเล็งนำเกมดังลุยตลาดในตะวันออกกลางที่ดูจะมีอนาคตสดใส
หลังเปิดวางจำหน่ายภาคเสริม "Warlords of Draenor" ของเกมเวิลด์ออฟวอร์คราฟต์ ล่าสุดทางบลิซซาร์ดได้ออกมาเปิดเผยความสำเร็จ ระบุว่าภายใน 24 ชั่วโมงสามารถขายภาคเสริมดังกล่าวได้มากกว่า 3.3 ล้านชุด และยังเป็นแรงส่งให้ยอดสมาชิกผู้เล่นเกมเวิลด์ออฟวอร์คราฟต์พุ่งทะลุ 10 ล้านคน
ยอดสมาชิกผู้เล่นเกมเวิลด์ออฟวอร์คราฟต์พุ่งสูดสุดเมื่อปี 2010 จากยอดผู้เล่น 12 ล้านคน จากนั้นก็มียอดผู้เล่นลดลง เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมามียอดผู้เล่นที่ 6.8 ล้านคน แต่พอเมื่อใกล้ถึงเวลาที่ภาคเสริม "Warlords of Draenor" จะเปิดวางจำหน่ายก็มียอดผู้เล่นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ภาคเสริม "Warlords of Draenor" ได้เปิดวางจำหน่ายในเกาหลีใต้ , จีน , ไต้หวัน และมาเก๊า ซึ่งน่าจะมียอดผู้เล่นเข้ามาในเซิร์ฟเวอร์มากขึ้น ในช่วงแรกที่เกมเปิดวางจำหน่ายปรากฏว่ามีปัญหาเรื่องเซิร์ฟเวอร์พอสมควร ซึ่งทางบลิซซาร์ดก็ชดเชยให้เวลาเล่นเกมเพิ่ม 5 วันสำหรับแอคเคาท์ที่แอคทีฟในวันที่ 14 พฤศจิกายน
"บ๊อบบี้ โคติค" ซีอีโอของแอคติวิชันบลิซซาร์ด ออกมาเปิดเผยมุมมองที่น่าสนใจ ระบุว่าตลาดเกมในตะวันออกกลางจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และเตรียมจะนำซีรีส์เกมฟอร์มยักษ์อย่าง "เวิลด์ออฟวอร์คราฟต์" และ "คอลออฟดิวตี้" ไปเปิดตลาดให้ได้ โดยให้เหตุผลว่าเกมเมอร์ในตะวันออกกลางมีเงินทองมีความสามารถในการจ่าย และยังเป็นเกมเมอร์ที่มีความรู้มีการหาข้อมูลเกี่ยวกับเกม
ก่อนหน้านี้บริษัทที่ปรึกษา "Strategy&" ได้ระบุว่า ตลาดเกมในตะวันออกกลางจะเติบโตจากในปีนี้ที่มีมูลค่า 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 4.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2022 ซึ่งตัวเลขการเติบโตดังกล่าว ถือเป็นการเติบโตที่รวดเร็วกว่าประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีน , รัสเซีย และเกาหลีใต้
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*