ระบบ PS4, XboxOne, PS3, Xbox360, PC
เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
การกลับมาจับเกมแนวสยองขวัญอีกครั้งของเจ้าพ่อไบโอฯ "ชินจิ มิคามิ" ที่ยังคงบรรยากาศกลิ่นอายเหมือนผลงานผีชีวะชิ้นสุดท้ายที่ตนฝากทิ้งไว้ให้แคปคอมเมื่อ 10 ปีก่อน
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความแค้นที่ซีรีส์ลูกรักอย่างเรสซิเดนท์อีวิล ถูกแคปคอมพาเสียคนออกนอกลู่นอกทางไปไกล หรือแค่อยากกลับมาพิสูจน์ไฟในตัวที่ยังไม่มอดไหม้ให้ผู้คนได้ประจักษ์ ที่เป็นต้นเหตุทำให้เกมนี้ถือกำเนิดขึ้นมา กับผลงานใหม่แนวสยองขวัญสั่นประสาท ที่เหมือนเป็นการรวบรวมเอาประสบการณ์ทุกอย่างที่ผ่านมาของโปรดิวเซอร์หนุ่มใหญ่วัย 49 ปีรายนี้มายำผสมรวมกันในเกมเดียว
ส่วนตัวละครผู้โชคร้ายที่ต้องมาแบกรับทุกอย่างที่อยู่ในหัวของชินจิ มีชื่อว่า "เซบาสเตียน คาสเทลลานอส" นักสืบหนุ่มแห่งเมืองคริมสัน ที่ต้องมาสืบคดีฆาตกรรมปริศนา ณ โรงพยาบาลจิตเวชบีคอน ร่วมกับคู่หู "โจเซฟ" และนักสืบสาวหน้าใหม่ "คิดแมน" จนได้เข้าไปพัวพันเหตุการณ์ลึกลับเหนือธรรมชาติที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อนายแพทย์แอบทำการทดลองประหลาดกับสมองของผู้ป่วยโรคจิต จนเกิดเป็นมิติบ้าสุดสยองที่เหยื่อผู้หลงเข้าไปในวังวนไม่มีทางหนีรอดกลับออกมาได้
แม้ตัวเกมจะโปรโมทโฆษณาความสยองเอาไว้ซะดิบดี รวมไปถึงความตั้งใจของทีมผู้สร้างที่พยายามสอดแทรกเหตุการณ์แปลกประหลาดในบรรยากาศมืดๆทึมๆให้ผู้เล่นต้องผวาอยู่เป็นระยะ แต่ว่าน่าเสียดายที่คนเล่นกลับรู้สึกเฉยๆ อาจเป็นเพราะความคุ้นชินจากการที่เคยเห็นศพเกลื่อนเลือดท่วมจอแบบนี้มาเยอะ บวกภาพสไตล์บีบจอเลียนแบบภาพยนตร์ ที่พอมาผสมเข้ากับมุมกล้องชิดติดหลังตัวละครก้มทีเห็นแต่ก้นจนมองอะไรไม่ค่อยเห็น ก็เลยยิ่งดูไม่รู้เรื่องไปกันใหญ่ ส่งผลให้ความสยองในเกมดูจืดสนิทราวกับนั่งดูหนังที่นักแสดงพยายามยัดเยียดยิงมุกให้คนดูขำทั้งๆที่มันไม่ตลก
ซึ่งจุดเด่นที่ฉายแววจนกลบความสยองของเกมไปหมด กลับอยู่ตรงที่ระบบเกมเพลย์แอ็คชั่นที่ดูเหมือนเฮียชินจิ ไม่ค่อยตั้งใจจะเน้นกับมันมากสักเท่าไหร่ ทั้งๆที่มันไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือดของเฮียแกมานับตั้งแต่ยุคสมัยเรสซิเดนท์อีวิล 4 ซึ่งหากใครที่ชื่นชอบความทรงจำบรรยากาศเก่าๆเหล่านั้นคงรู้สึกได้เหมือนกลับมายังบ้านยามที่ได้จับเกมนี้ ด้วยองค์ประกอบต่างๆที่ชวนให้รำลึกถึงทั้งแอ็คชั่นการยิง ฉากหมู่บ้านในชนบท ลวดติดกับระเบิด กับดักปากฉลาม หรือแม้กระทั่งบอสถือเลื่อยยนต์ที่ยังตามมาหลอกหลอน
ถึงข้างกล่องจะเขียนกำกับว่าเป็นแนว Survival Horror แต่นักสืบหนุ่มมาดเยอะของเรากลับมีอาวุธครบมือให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นปืนพก, แม็กนั่ม, ช็อตกัน, สไนเปอร์ หรือหากสาวกไบโอฯคนไหนคิดถึงเกรเนดลันเชอร์ที่สามารถเปลี่ยนชนิดกระสุนได้ เกมนี้ก็มีให้บริการแม้รูปลักษณ์ภายนอกอาจดูแปลกตาสักเล็กน้อย (เพราะเป็นหน้าไม้) แต่วิธีการใช้งานนั้นแทบไม่ต่างกัน ส่วนกลยุทธ์ยิงขาเพื่อประหยัดกระสุนอันน้อยนิดก็ยังคงใช้ได้ผลเหมือนเก่า เพียงแค่เปลี่ยนจากท่าทุ่มซูเพลกซ์ของลีออนมาเป็นหย่อนไม้ขีดไฟลงไปเผาร่างของมันแทน
เลเวลในเกมนั้นถูกออกแบบมาแทบเป็นเส้นตรงมีแก้ปริศนาบ้างเล็กน้อย และใช้แพทเทิร์นวนซ้ำให้เราเดินสำรวจ ย่องเจาะกะโหลก ควักปืนยิงศัตรู สู้กับบอส พอหมดมุกก็ตัดไปอีกฉากสถานที่หนึ่งดื้อๆโดยไม่ต้องมีเหตุผลบอกกล่าวที่มาที่ไป เหมือนคนสร้างนึกอะไรขึ้นได้ก็หยิบๆจับมาใส่ในเกมจนวุ่นวายปะติดปะต่อเรื่องราวลำบาก ซึ่งความสยองจะมีอยู่ในช่วงแรกๆของเกมเท่านั้น แต่ไม่นานลายเริ่มออกกลายเป็นเกมลุยยิงไปซะงั้น ด้วยศัตรูหลักสิบที่เรียงหน้ากันมาต้อนรับ กับเหล่าบอสสุดโหดที่ตัวเกมบีบบังคับให้ต้องสู้
จากส่วนผสมที่ไม่ลงตัวระหว่างการเอาตัวรอดกับแอ็คชั่นชูตติ้ง จึงทำให้ระบบเกมเพลย์ดูขัดแย้งกันเองจะสยองก็ไม่จะบู๊ก็ติดๆขัดๆ ซึ่งเท่าที่เล่นมาสิ่งที่ดูลงตัวมากที่สุดในเกมนี้คงเป็นเรื่องของฉากสภาพแวดล้อม ที่ต้องชมคนออกแบบว่าทำออกมาได้สวยงาม ช่วยเพิ่มอรรถรสให้เกมนี้น่าเล่นขึ้นเป็นกอง แต่ทว่าน่าเสียดายที่ทีมงานเทคนิคไม่เห็นคุณค่า กลับล็อคเฟรมเรตเอาไว้ที่ 30 เฟรมต่อวินาที และอาจจะร่วงลดลงไปต่ำกว่านั้นในฉากกว้างๆที่มีเอฟเฟกต์เยอะๆ ส่งผลให้ตัวเกมเวอร์ชันคอนโซลภาพกระตุกเล่นสะดุดไม่ไหลลื่น แต่หากใครเล่นบนพีซีก็ถือว่าโชคดีไปเพราะมีการปล่อยแพทช์อัพเดทเพิ่มตัวเลือกปรับความเร็วภาพได้ถึง 60 เฟรมต่อวินาที แถมยังมีสูตรโกงเกมให้บู๊ได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องมานั่งหงุดหงิดกับระบบขัดใจแม่
เนื้อแท้ของ "ดิ อีวิล วิทอิน" นั้นมันคือเกมแอ็คชั่น โดยเฉพาะด่านหลังๆที่ให้ยิงบู๊กันแบบไม่ต้องแอบ อีกทั้งยังต้องเจอกับบอสอยู่เป็นระยะ แต่ดันมาเสียตรงที่การบังคับตัวละครอันเชื่องช้าตามแบบฉบับเกมแนวเซอร์ไววอล ที่มาทำลายบรรยากาศความสนุกของเกม ซึ่งจะว่าไประบบเกมเพลย์แอ็คชั่นตามสไตล์ไบโอฯ 4 มันก็มีความเครียดกดดันแฝงในตัวอยู่แล้วเหมือนก๋วยเตี๋ยวที่เคี่ยวน้ำซุปจนกลมกล่อม ไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องปรุง เติมความสยอง เพิ่มข้อจำกัดจำกี่ลงไปอีกให้เสียรสชาติ
เกมการเล่น | 7 |
กราฟิก | 8 |
เสียง | 8 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 7 |
ภาพรวม | 7.5 |
ข้อดี : ฉากสวยงามปนความหลอน, สะใจตอนยิงหัว และให้บรรยากาศเกมไบโอฯยุคแรกๆ
ข้อเสีย : มุกเดิมๆไม่มีอะไรแปลกใหม่, มุมกล้องชวนปวดหัว, ภาพกระตุกแม้เล่นบน PS4, แอ็คชั่นตัวละครตอบสนองช้าไม่ทันใจ กับเกมการเล่นเน้นยิงทั้งที่กระสุนไม่ค่อยมี
ปู่ชิน
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Next Generation InnovationNGIN
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*