"ฮาจิเมะ ทาบาตะ" ผู้กำกับ "ไฟนอลแฟนตาซี 15" คนใหม่ให้สัมภาษณ์สื่อหลายแห่งเกี่ยวกับรายละเอียดของเกม ยอมรับเพิ่งสร้างเสร็จแค่ประมาณครึ่งเดียวและตัวละครผู้เล่นจะเป็นทีมผู้ชายล้วนๆ
ทาบาตะเผยว่าการพัฒนาเกมในขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 50 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ เป็นตัวเลขความคืบหน้าตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนตอนที่เขาเข้ามาร่วมงาน มิใช่ตัวเลขจากตอนเผยโฉมครั้งแรกในชื่อ Versus XIII เมื่อปี 2006 โดยพวกเขาทำไปตามลำดับตั้งแต่ต้นเกมจึงทำให้ส่วนแรกมีความสมบูรณ์มากกว่าส่วนอื่นและใช้ทีมงานอยู่ประมาณ 200 ถึง 300 คน
เกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวผู้กำกับ ทาบาตะอธิบายว่าอดีตซีอีโอ "โยอิจิ วาดะ" เป็นคนสั่งให้ทีมสร้างภาค Type-0 เข้ามาร่วมงานกับทีมสร้างภาค 15 ในปี 2012 โดยเขายังคงพูดคุยกับ "เท็ตสึยะ โนมุระ" ผู้ออกแบบตัวละครและผู้กำกับคนก่อนหน้าเพื่อรักษาแนวคิดดั้งเดิมเอาไว้ แต่การเปลี่ยนเครื่องและใช้ชื่อเป็นภาคหลักก็ทำให้พวกเขาต้องประเมินเนื้อหาเกมใหม่หมดเกี่ยวกับเรื่องที่ทำได้ ทำไม่ได้และเรื่องที่จำเป็นต้องทำ
เขายืนยันว่าตัวละครผู้เล่นทั้งหมดจะเป็นชายล้วนภายใต้คอนเซปต์ "มิตรภาพ" และ "การเดินทาง" โดยกราฟิกของเกมในขณะนี้ยังทำได้เพียง 70 เปอร์เซ็นต์ของเป้าหมายและจะพยายามทำให้ได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ตอนปล่อยเดโมให้ทดลอง
สำหรับการขับรถ ทาบาตะมองว่าเนื้อหาในเกมจะมีลักษณะคล้ายภาพยนตร์แบบ "Road Trip" เล่าเรื่องของกลุ่มเพื่อนขับรถเดินทางไปด้วยกัน โดยจะควบคุมเอง ปล่อยให้คนขับพาไปอัตโนมัติ หรือจะลงเดินเท้าบ้างก็ได้ ทำเป็นแผนที่เปิดกว้างขนาดใหญ่เชื่อมกันหมดพร้อมบางเขตที่ยานพาหนะเข้าไม่ถึง ส่วนตอนดำเนินเรื่องจะเป็นการเข้าสู่สถานที่เหตุการณ์ลักษณะคล้ายเกม "เรด เดด รีเดมชัน" มากกว่า "สกายริม" ที่แค่เดินหาเควสต์ภารกิจ
นอกจากนี้ โลกรอบๆ จะมีการเปลี่ยนสภาพอากาศและเวลา ส่งผลต่อระบบการเล่น เอฟเฟกต์คาถาและพฤติกรรมมอนสเตอร์ ทำให้ผู้เล่นต้องหยุดตั้งแคมป์พักผ่อนในแต่ละวัน คิดเป็นเวลาประมาณ 30 นาทีโลกจริงต่อ 1 วันในเกม พร้อมยกตัวอย่างว่าเจ้าเต่ายักษ์ "อดามันทอยส์" ที่เห็นในวีดีโออาจต้องใช้เวลาสู้ร่วม 30 วันในเกมเลยทีเดียว
ด้านการต่อสู้ ทาบาตะบอกว่าเกมจะไม่ใช่แบบกำหนดให้กด 1 ปุ่มเพื่อทำอะไร 1 อย่าง แต่การเคลื่อนไหวจะไหลลื่นต่อเนื่องกันไป ให้ผู้เล่นควบคุมตัวเอกนอคติสเพียงคนเดียวคอยสลับแผนรุกรับ เปลี่ยนอาวุธเป็นชุดตามสถานการณ์และสั่งงานพรรคพวก เน้นให้ดูพื้นที่สามมิติรอบๆ แล้วตัดสินใจคล้ายกับระบบ "แกมบิท" ของภาค 12
เขาอธิบายว่าเดโมของเกมที่ชื่อว่า "เอพิโซดดัสคา" (Episode Duscae) จะอิงมาจากชื่อสถานที่หนึ่งในเกม ใช้เวลาเล่นเฉพาะเนื้อเรื่องประมาณ 1 ชั่วโมงหรือถ้าจะลงดันเจียนสำรวจฉากรอบๆ ด้วยก็อาจถึง 4 ชั่วโมง มีการจำกัดขนาดของโลกเปิดกว้างเอาไว้ แต่ยังนำเสนอระบบสภาพอากาศและเวลาเหมือนเกมเต็ม
ทาบาตะปิดท้ายว่าโครงการที่เขาอยากทำมากที่สุดคือภาคต่อ "ไฟนอลแฟนตาซี Type-1" โดยขณะนี้เกมไฟนอลแฟนตาซี 15 ที่จะลงทั้งเครื่องเพลย์สเตชัน 4 และ Xbox One ยังคงไม่มีกำหนดวางจำหน่าย
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
Gematsu
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
