"ชูเฮย์ โยชิดะ" ประธานเวิลด์ไวด์สตูดิโอของโซนีแสดงความเห็นเกี่ยวกับสภาพตลาดคอนโซลยุคหน้า ชี้ค่ายเกมขนาดกลางมีแนวโน้มจะอยู่รอดได้ลำบากจนแม้แต่โซนีเองก็ต้องสั่งปิดไปหลายราย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทางโซนีได้ปิดค่ายเกมใต้สังกัดที่มีขนาดกลางค่อนไปทางใหญ่หลายแห่ง อาทิสตูดิโอลิเวอร์พูล (Studio Liverpool) ผู้สร้างเกมแข่งรถยุคอนาคต Wipeout หรือซิปเปอร์อินเตอร์แอคทีฟ (Zipper Interactive) ผู้สร้างเกมซีรีส์ SOCOM โดยให้เหตุผลว่าพวกเขาต้องโยกย้ายการลงทุนมาให้ทีมงานระดับหัวแถวแทน
โยชิดะเผยว่า "เราได้สนับสนุนสตูดิโอบางแห่งอย่าง นอตตีด็อก (Naughty Dog) โซนีซานตาโมนิกา (Sony Santa Monica) และเกริลา (Guerilla) เพื่อให้สามารถพัฒนาหลายโครงการในเวลาเดียวกันได้ ขณะที่เราต้องปิดสตูดิโอขนาดกลางซึ่งกำลังดิ้นรนเพื่อการแข่งขัน มันเป็นปฏิกิริยาตอบรับต่อการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย"
เขามองว่าการทำให้ผู้บริโภคยอมจ่ายเงิน 60 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,900 บาท) ต่อเกมถือเป็นเรื่องยาก และวิธีเดียวที่ทำได้คือการนำเสนอเกมฟอร์มใหญ่ที่เหนือชั้นกว่าเกมขนาดกลางไปไกล เป็นสถานการณ์ที่ "รากเลือด" ไม่มีที่ยืนในตลาดสำหรับเกมขนาดกลางในช่วงสองปีที่ผ่านมา
โยชิดะทิ้งท้ายว่า "ถ้าคุณกำลังคิดจะตั้งสตูดิโอ ขนาดสักราวๆ 40 ถึง50 คน มันเป็นยุคสมัยที่อยู่ยาก ไม่ว่าคุณจะพยายามขยายตัวและแข่งขันขึ้นไปเป็นระดับเกรดเอ หรือจะไปเป็นสตูดิโออินดี้อิสระขนาดเล็ก มันเป็นคำถามที่ดีและสำคัญมากสำหรับสตูดิโอขนาดกลางหลายแห่ง"
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
Silicon Era