ระบบ Playstation 3, Xbox360, PC
เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
เมื่อแก๊งค์เดอะเซนต์ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำโลกเสรีครองโลกทั้งใบ แต่ไม่วายต้องมาเจอกับมหันตภัยร้ายจากต่างดาวที่หมายครองทั้งจักรวาล จึงเกิดเป็นสงครามความโกลาหลหลุดโลกในแบบที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
"เซนต์โรว์ 4" ภาคต่อในซีรีส์เกมแอ็คชั่นโอเพ่นเวิลด์ที่มีประวัติอันยาวนาน โดยภาคนี้ยังคงเป็นผลงานจากทีมสร้างเดิมที่สตูดิโอ Volition, Inc. เพียงแค่เปลี่ยนโฉมหน้าของบริษัทแม่ผู้จัดจำหน่ายเกมจาก THQ ที่ประสบปัญหาล้มละลายกลายเป็น Deep Silver แทน ซึ่งก่อนที่จะมาเป็นภาค 4 นั้นตัวเกมได้เคยถูกกำหนดให้เป็นเนื้อหาเสริมของเกม "Saints Row: The Third" ในชื่อ "Enter the Dominatrix" แต่ต่อมาทางผู้บริหารเกิดเปลี่ยนใจ ประกาศยกเลิกกลางคันและยกเนื้อหาทั้งหมดมาใช้ในเกมภาคที่สี่นี้
เหตุการณ์ในเกมจะดำเนินต่อจากภาคที่แล้ว เมื่อแก๊งค์เดอะเซนต์ได้ถูกเรียกให้เข้าไปช่วยเหลือสายลับ MI6 ณ ทวีปตะวันออกกลาง ในภารกิจสังหาร "ไซรัส" อดีตหัวหน้าหน่วย STAG ที่เกิดบ้าคลั่งเคียดแค้นเหล่าเดอะเซนต์ และเตรียมแผนปล่อยนิวเคลียร์ถล่มกลางกรุงวอชิงตันดีซี แต่โชคดีที่เราสามารถปลดชนวนได้ทันจนกลายเป็นฮีโร่ขวัญใจอเมริกันชน จนกระทั่ง 5 ปีต่อมาเราจึงถูกประชาชนโหวตให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ
แต่ทว่าช่วงเวลาแห่งความสุขมักไม่ยืนยาว เมื่อมีเอเลี่ยนจอมวายร้ายแห่งจักรวาลนาม "Zinyak" ที่หมายตาโลกมนุษย์ของเรามาเนิ่นนานหลายร้อยปี ได้ยกทัพเข้ามาบุกรุกรานจับตัวเราที่เป็นหัวหน้าแก๊งค์ รวมถึงสมาชิกเดอะเซนต์ทุกคนเอาไว้เป็นเชลยทาสในโลกซิมูเลชั่นเสมือนจริงที่ถอดแบบมาจากเมือง Steelport ดังนั้นหน้าที่ในการกอบกู้โลกและปลดแอกมวลมนุษยชาติจากเหล่าเอเลี่ยนที่ดูเหมือนหลุดมาจากโลกซูเปอร์แมนนี้จึงตกอยู่ในมือของประธานาธิบดีสุดเพี้ยนอย่างเรา ที่บังเอิญค้นพบพลังซูเปอร์พาวเวอร์แบบสุดขั้วที่แฝงอยู่ในตัว
โดยตัวเกมภาคนี้จะเป็นการนำภาพยนตร์ฮอลลีวูดชื่อดังมายำล้อเลียนหลายเรื่องมาก แต่ที่ใช้เป็นตีมหลักในการดำเนินเนื้อเรื่องคือ "เดอะเมทริกซ์" หนังแอ็คชั่นไซไฟเหนือโลกของสองพี่น้องตระกูลวาชอว์สกี ที่ว่าด้วยเรื่องราวของแฮคเกอร์หนุ่มที่ถูกชะตากำหนดให้เป็นเดอะวัน ผู้ที่จะมาปลดแอกมนุษย์บนโลกจำลองจากการตกเป็นทาสของเหล่าเครื่องจักร ซึ่งตัวเกมได้นำพล็อตเรื่องดังกล่าวมาดัดแปลงเปลี่ยนจากเครื่องจักรมาเป็นมนุษย์ต่างดาว แล้วเสริมเติมแต่งด้วยมุกล้อเลียนจากหนังสารพัดสารพันตามสไตล์เซนต์โรว์
ระบบเกมเพลย์หลักๆนั้นยังคงเหมือนเดิม ในแนวแอ็คชั่นมุมมองบุคคลที่สามให้เราเดินหรือขับยานพาหนะสำรวจเมืองเลือกทำเควสต์ได้อิสระโดยมีอาวุธให้ใช้หลากหลายชนิด แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือปุ่ม R2 ที่แต่เดิมในภาคก่อนๆถูกใช้เป็นปุ่มกดปาระเบิด มาในภาคนี้กลับถูกเปลี่ยนเป็นการใช้พลังซูเปอร์พาวเวอร์แทน แม่นแล้วอ่านไม่ผิด เพราะตัวละครของเราในโลกเสมือนจริงนี้มีพลังเหนือมนุษย์ไม่ต่างจาก "นีโอ" ในเรื่องเดอะเมทริกซ์ทั้งกระโดดสูง วิ่งเร็ว ต่อยหนัก และท่าพิชิตบอสสุดเวอร์ เผลอๆอาจเก่งกว่าด้วยซ้ำ ด้วยพลังพิเศษต่างๆนานาที่เอามาจากฮีโร่ในหนังสือการ์ตูนอย่างพลังน้ำแข็ง ไฟ สายฟ้า บาเรียป้องกันตัว มีพลังจิตสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของ ล้างสมองได้เหมือนเจได แต่เสียดายตรงที่ไม่สามารถปล่อยลูกพลังฮาโดเคนได้ ทั้งๆที่ซูเปอร์ลูกน้องของเราใช้บ่อยจนเราเริ่มอิจฉา
รูปแบบการเล่นจะตัดสลับไปมาระหว่างโลกจริงกับโลกจำลอง โดยที่ตัวละครของเราจะรับเควสต์จากลูกเรือภายในยานแล้วกลับไปทำภารกิจในโลกเสมือน ซึ่งเควสต์ในเกมจะแบ่งออกเป็นเควสต์หลักเล่นไปตามเนื้อเรื่อง กับเควสต์รองที่สอดแทรกด้วยมินิเกมคลายเครียดสนุกๆที่จะมาช่วยฝึกฝนการใช้พลังซูเปอร์แถมยังเป็นการปลดล็อคอาวุธ ชุดเสื้อผ้า และพลังใหม่ๆไปด้วยในตัว ยกอย่างเช่น กระโดดข้ามแพลตฟอร์ม วิ่งความเร็วสูงแข่งกับเวลา ใช้พลังทำลายข้าวของ หรือจับคนยัดห่วง ซึ่งนอกเหนือจากการพูดคุยรับเควสต์แล้วเรายังสามารถขอโซเดมาคอมกินตับลูกเรือภายในยานได้ทุกคนไม่เว้นแม้แต่หุ่นยนต์
ทุกครั้งที่เคลียร์ภารกิจสำเร็จ เราจะได้รับรางวัลตอบแทนเป็นค่าประสบการณ์อัพเลเวลตัวละคร และเงินเอาไว้ใช้ซื้อเสื้อผ้าหน้าผม อัพเกรดรถยนต์ ซื้อปืน เพิ่มค่าสเตตัสของทั้งเราและสมาชิกในแก๊งค์ ส่วนพลังซูเปอร์พาวเวอร์จำเป็นต้องใช้กลุ่มก้อนข้อมูล (Data Cluster) ที่เก็บได้ตามฉากในการอัพเกรด โดยอาวุธปืนในเกมเราสามารถเลือกปรับแต่งมันให้เข้ากับเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ได้หลายแบบ มีทั้งปืนเก่ายุคคาวบอยไปจนถึงปืนสุดล้ำของเอเลี่ยน แถมไม่ใช่แค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไป แต่เปลี่ยนไปถึงกระสุนที่อยู่ข้างใน ช่วยทำให้เกิดความหลากหลายไม่จำเจ
ภาพกราฟฟิกในเกมเวอร์ชันเพลย์สเตชัน 3 ถือว่าทำออกมาได้ดีสำหรับเกมแนวโอเพ่นเวิลด์ แม้รายละเอียดพื้นผิวจะดูด้อยกว่าเวอร์ชันพีซีก็ตาม ส่วนเรื่องเฟรมเรตยังมีอาการกระตุกเล็กน้อยเวลาหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นบนฉากพร้อมกัน แต่พอในฉากอีเวนท์เวลาที่ตัวเราอยู่ในตึกหรืออาคารเฟรมเรตจะกลับมาลื่นไหลไม่มีสะดุด โดยบรรยากาศในโลกจำลองนี้ตอนเริ่มแรกจะมีแค่ช่วงเวลากลางคืนดูหม่นหมองเหมือนโดนกดขี่ แต่เมื่อเล่นเคลียร์เนื้อเรื่องไปได้สักพักท้องฟ้าก็จะค่อยๆเปลี่ยนสีมีแสงอาทิตย์รำไรสาดส่องให้ความรู้สึกอบอุ่นเริ่มมีความหวัง ทำให้ผู้เล่นรู้สึกอินมีอารมณ์ร่วมไปกับเกม แถมยังสามารถชวนเพื่อนให้มาจอยเล่นร่วมกันแบบ Co-op เมื่อไรก็ได้ที่ต้องการ
มาพูดถึงข้อเสียกันบ้าง ซึ่งปัญหาที่พบเจอในเกมส่วนใหญ่มักจะมาจากบัค ทั้งฟิสิกส์ตัวละครที่ดูไม่ค่อยสมจริงเท่าไรนักเอาแน่เอานอนไม่ได้ รวมถึงระบบควบคุมที่หยาบจนทำให้มินิเกมน่าสนุกกลายเป็นฝันร้าย โดยบัคที่พบเจอบ่อยๆก็มีรถล่องหนในฉากคัตซีน ตัวละครหลุดเข้าไปในฉาก รถระเบิดแล้วค้างอยู่กลางอากาศ ตัวละครหัวโตมีรูปร่างบิดเบี้ยว ระบบจับการปะทะที่แย่ตัวละครล้มง่ายโดนนิดโดนหน่อยก็ลงไปกองเหมือนนักบอลแถบละตินอเมริกา และเมื่อแจ้งปัญหาไปทางทีมผู้พัฒนาก็ได้ออกมาแก้ต่างจนสีข้างถลอกว่า "ข้อผิดพลาดดังกล่าวมันไม่ใช่บัค แต่เป็นความตั้งใจของทีมงานเองที่ใส่เข้ามาเพื่อต้องการสื่อให้เห็นถึงความไม่เสถียรในโลกดิจิตอล"
สำหรับเกมเซนต์โรว์ภาคล่าสุดนี้ แสดงให้เห็นถึงความใจหินของทีมงานที่กล้าฉีกแนวออกไปจากทุกภาคที่ผ่านมา จากเดิมที่ซีรีส์นี้ยังคงวิ่งไล่ตามความสำเร็จของเกม GTA จากค่ายร็อคสตาร์ แต่พอมาในปัจจุบันหลังเปลี่ยนลุคซีรีส์นี้ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งของเกมโอเพ่นเวิลด์สไตล์บ้าบิ่นหลุดโลกที่ไม่มีใครหน้าไหนกล้าเทียบเคียง
| เกมการเล่น | 8 |
| กราฟิก | 8 |
| เสียง | 8 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 10 |
| ภาพรวม | 8.5 |
ข้อดี : สนุกแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก, เนื้อเรื่องหลุดโลกเน้นเอาฮา, พลังซูเปอร์เจ๋งๆเพียบ, ปรับแต่งได้เกือบทุกอย่าง
ข้อเสีย : เกมเพลย์แข็งทื่อไปหน่อย และเหล่าบัคที่คอยกวนใจผู้เล่น
Shin
สนับสนุนแผ่นเวอร์ชัน PS3 ในการรีวิวโดยบริษัท ซีดีเกมเมอร์ จำกัดCD Gamer
