"เอเชียซอฟท์" เผยกลยุทธการดำเนินงานปีนี้ เน้นปรับภาพลักษณ์และการทำงานรวมศูนย์ในระดับภูมิภาค พร้อมขยายตลาดสู่ 3 ประเทศแถบอินโดจีน อีกทั้งยังมีการเซ็นสัญญากับค่ายเกมระดับโลกเพื่อนำ 2 เกมฟอร์มยักษ์มาเปิดให้บริการแถบอาเซียน รวมถึงจะให้ความสำคัญกับธุรกิจเกมบนโทรศัพท์-แท็ปเล็ต
บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรม Asiasoft Talk 2013 เพื่อแถลงแผนการดำเนินธุรกิจในปี พ.ศ. 2556 โดยมีนักลงทุน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์และสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟัง
นายปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ระบุว่า การดำเนินธุรกิจในปี พ.ศ. 2556 ทางเอเชียซอฟท์จะมีกลยุทธหลัก 4 ประการ อย่างแรกคือการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์และการดำเนินงานขององค์กร ให้กลายเป็นผู้ให้บริการระดับภูมิภาค
"5-6 ปีที่แล้วเราเริ่มตั้งออฟฟิศในต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบันเรามีออฟฟิศอยู่ใน 6 ประเทศ การดำเนินงานในแต่ละประเทศค่อนข้างจะมีอิสระ มีการตัดสินใจดำเนินการได้เอง ดูแลตลาดภายในประเทศนั้นๆ ได้เอง ทำให้ในเชิงการตลาดและการขายไม่เชื่อมต่อกัน ข้อดีคือมีความคล่องตัว มีความรวดเร็ว การตัดสินใจฉับไว เข้าสู่ตลาดได้เร็ว แต่การเปลี่ยนแปลงที่จะมีขึ้นหลังจากนี้ จะทำให้ในแต่ละประเทศมีการประสานงานกัน เหมือนเล่นเป็นทีมเดียวกัน จะมีทีมกลางเข้ามาดูแล เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังจะช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้ ในขณะเดียวกันผู้บริโภคก็จะมองเราเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่ครอบคลุมระดับภูมิภาค แทนที่จะเป็นแค่ผู้ให้บริการขนาดกลางในแต่ละประเทศ" นายปราโมทย์ กล่าว
นายปราโมทย์ ระบุว่า เอเชียซอฟท์ได้เลือกประเทศสิงคโปร์เป็นจุดศูนย์กลางในการดำเนินงาน เนื่องจากมีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ต้นทุนค่าใช้จ่ายค่อนข้างต่ำ มีระบบการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกันได้ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีการจัดการด้านบัญชีและภาษีที่ชัดเจน ซึ่งส่งผลดีกับเอเชียซอฟท์ เพราะบริษัทมีรายได้จากหลายประเทศ
ถัดมาคือการขยายตลาดสู่ 3 ประเทศในกลุ่มอินโดจีน ได้แก่ เวียตนาม พม่า กัมพูชา เป็นกลุ่มประเทศที่มีสภาพภูมิศาสตร์และปัจจัยหลายอย่างคล้ายกัน ซึ่งก่อนหน้านี้เอเชียซอฟท์เข้าไปทำธุรกิจในเวียตนามผ่านตัวแทนจำหน่าย แต่เมื่อปลายปีที่แล้วบริษัทได้เข้าไปลงทุนในบริษัททีแอลซี โดยทำการถือหุ้น 60 เปอร์เซ็นต์ ทำให้จากนี้ไปเอเชียซอฟท์สามารถลงทุนในเวียตนามได้แบบเต็มตัว แม้ว่าภาครัฐจะมีกระบวนการคัดกรองที่เข้มงวด แต่รายได้ในส่วนของธุรกิจเกมออนไลน์ที่เวียตนามถือว่ามากที่สุดในแถบอาเซียน มีการเติบโตที่รวดเร็ว โดยในปีนี้เอเชียซอฟท์จะเข้าไปเปิดเกมจำนวน 6 เกม
"สำหรับกัมพูชาถือว่าเป็นตลาดที่ไม่ใหญ่ แต่สามารถเติบโตได้ในระดับหนึ่ง ปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดให้บริการเกมในกัมพูชาจำนวน 1 เกม ส่วนทางด้านของพม่านับว่าเป็นตลาดที่ใหม่มาก บริษัทมีการส่งทีมงานเข้าไปศึกษาตลาด พบว่ามีร้านอินเตอร์เน็ตประมาณ 2,000 - 3,000 ร้าน การตัดสินใจเข้าไปทำธุรกิจเกมในพม่าอาจมีคนมองว่าเร็วไป แต่บริษัทจำเป็นต้องทำ เพราะที่ผ่านมาเวลาเปิดตลาดใหม่ๆ เอเชียซอฟท์มักจะเป็นฝ่ายตามหลังบริษัทอื่น ในครั้งนี้จึงอยากจะลองเป็นผู้บุกเบิกบ้าง" นายปราโมทย์ กล่าว
ลำดับที่ 3 คือการให้ความสำคัญกับคอนเทนต์เกมที่นำมาเปิดให้บริการ โดยก่อนหน้านี้เอเชียซอฟท์ได้เปิดให้บริการเกมระดับกลางเป็นหลัก แต่ในปีนี้ด้วยความที่มีฐานลูกค้ามากขึ้น บริษัทมีการเติบโตมากขึ้น ทำให้บริษัทตัดสินใจให้บริการเกมระดับโลก จากเดิมที่เป็นแค่เกมเล็กๆ จากจีน - เกาหลี
"พูดเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ คือปีนี้เราจะเน้นขายหนังฮอลลีวูดมากขึ้น เป็นผลงานของเมเจอร์สตูดิโอ เพราะเรามีความพร้อมมากขึ้น แล้วเจ้าของสิทธิ์เองเขาก็เห็นถึงการเติบโตของตลาดนี้ ว่ามันเริ่มใหญ่จนเพียงพอที่จะเข้ามาลงทุนตรงนี้ได้ ซึ่งเกมที่เราเตรียมจะเปิดตัวในปีนี้ นับเป็นครั้งแรกที่เราได้เซ็นสัญญากับทาง โซนี่ออนไลน์ เอนเตอร์เทนเมนท์ โดยจะนำมาเปิดให้บริการในประเทศแถบภูมิภาคอาเซียน ส่วนอีกบริษัทที่เราได้จับมือด้วยก็คือเซก้า เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักเซก้า นี่จะเป็นครั้งแรกเช่นกันที่เราได้เซ็นสัญญากับเซก้าเพื่อนำเกมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของเขามาให้บริการในแถบอาเซียน" นายปราโมทย์ กล่าว
เกมที่เอเชียซอฟท์ได้เซ็นสัญญากับทางโซนี่ออนไลน์ จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับบรรดาตัวละครซูเปอร์ฮีโร่หลากหลายรูปแบบที่มาจากการ์ตูนยอดนิยมในอเมริกา ส่วนเกมที่เซ็นสัญญากับทางเซก้า จะเป็นเกมที่เปิดให้บริการในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว สามารถเล่นแบบครอสแพล็ตฟอร์มได้ ตัวเกมต่อยอดมาจากซีรี่ย์เกมคอนโซลชื่อดังที่มีอายุยาวนานหลายปี อย่างไรก็ตามทางเอเชียซอฟท์ได้ขอความร่วมมือจากผู้สื่อข่าวในการไม่เปิดเผยชื่อเกมทั้งสอง เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ เมื่อพร้อมแล้วจึงจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ส่วนเกมอื่นๆ ที่น่าสนใจและเตรียมให้บริการในไทยก็คือ Ragnarok 2 , Cabal 2 , Audition 2
กลยุทธสุดท้ายคือการให้ความสำคัญกับธุรกิจเกมบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์แท็ปเล็ต ซึ่งนายเคนนี่ โก ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินของเอเชียซอฟท์ ได้ระบุว่า จะมีการเพิ่มโมบายโซเชียลเน็ตเวิร์คและเกมแพล็ตฟอร์มของเพลย์พาร์ค พร้อมทั้งนำเสนอบริการใหม่ๆ ให้แก่สมาชิกเดิมของเพลย์พาร์ค ในขณะเดียวกันก็จะมีการโปรโมตบริการต่างๆ บนแพล็ตฟอร์มเหล่านี้ อาทิ ห้องแช็ตสำหรับแต่ละกิลด์ เกมไกด์ บทสรุปเกม ตารางเวลาสำหรับรวมกลุ่มลงดันเจี้ยน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นที่ออกมารองรับเกมออนไลน์ที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน อาทิ ระบบตรวจสอบล็อกอิน (Authenticator) , ประมูลไอเท็ม , ระบบดูแลจัดการตัวละคร ฯลฯ รวมถึงจะมีการเปิดให้บริการและจัดจำหน่ายเกมบนโทรศัพท์ทั้งในแบบที่ให้บริการเองและแบบแชนแนลเกมจากบริษัทอื่น การดำเนินการในส่วนนี้จะเริ่มในช่วงไตรมาส 3
