ในงานมหกรรมเกม E3 ประจำปี 2012 "เอปปิก เกมส์"(Epic Games) ผู้สร้างเกม เกียร์ ออฟ วอร์ ได้นำเดโมอันเรียล เอนจิ้น 4 มาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านแสงเงา และการย่นระยะเวลาในการพัฒนาเกม
อันเรียล เอนจิ้น 4 ของเอปปิก เกมส์ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนากราฟิกของวิดีโอเกมในยุคถัดไป เนื่องจาก อันเรียล เอนจิ้น 3 ระบบเทคโนโลยีเอนจิ้นก่อนหน้านี้ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในเกมระดับคุณภาพที่ออกวางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน เชื่อได้ว่าเมื่ออันเรียล เอนจิ้น 4 เสร็จสมบูรณ์ บริษัทเกมหลายๆแห่งก็จะพากันมาเจรจาตกลงกับทางเอปปิกเพื่อขอลิขสิทธิ์นำเอนจิ้นรุ่นใหม่ตัวนี้ไปใช้ด้วย
"อลัน วิลลาร์ด" พนักงานอาวุโสฝ่ายเทคนิคของเอปปิก ได้ทำวิดีโอเดโมตัวใหม่ขึ้นมาที่แนะนำเกี่ยวกับความสามารถของอันเรียล เอนจิ้น 4 โดยเน้นไปที่ความสามารถเกี่ยวกับการให้แสงเงาในแบบเรียลไทม์ แสงเงาต่างๆของวัตถุจะมีการเปลี่ยนแปลงไปขึ้นอยู่กับแสงเงาที่มากระทบ
เอฟเฟกต์ที่เกี่ยวข้องกับอนุภาคมีความน่าสนใจอย่างมากในเดโมตัวนี้ วิลลาร์ดพูดถึงวิดีโอเดโมว่าในห้องสามารถบรรจุอนุภาคได้มากกว่า 1 ล้านอนุภาค ซึ่งแต่ละอนุภาคสามารถควบคุมได้ด้วยตัวเขาเอง โดยอนุภาคที่ว่านี้จะสามารถเล่นกับทิศทางแสงได้ เมื่อห้องมืดลงจะเห็นอนุภาคขนาดใหญ่ เมื่อมีแสงเข้ามาที่ห้องจะเห็นแสงที่สะท้อนกับอนุภาคคล้ายกับฝุ่นขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วน
ความสามารถอื่นๆของอันเรียล เอนจิ้น 4 ที่โชว์ในเดโมตัวนี้ ก็มีอีกหลายอย่าง อาทิ เอฟเฟกต์การสะท้อนของวัตถุมันวาว , ระบบแสงเงา , เลนส์แฟลร์ , การปรับรูม่านตา(จำลองลักษณะของดวงตาเวลาอยู่ในที่มืดแล้วออกไปเจอแสงสว่าง)
สำหรับนักพัฒนาเกม "อันเรียล เอนจิ้น 4" จะช่วยย่นระยะเวลาในการพัฒนาเกมได้ วิลลาร์ดได้โชว์ในเดโมตัวนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้ใช้สามารถเข้าไปในส่วนแก้ไขได้ตลอดเวลา ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนจากโหมดเครื่องมือปรับแต่งกับโหมดเอนจิ้นได้ทันทีที่ต้องการ ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยประหยัดเวลาในการพัฒนาเกมได้เยอะ
อินเตอร์เฟซการใช้งานเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆในอันเรียล เอนจิ้น 4 จะยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถโยกย้ายไปวางตามจุดต่างๆที่ผู้ใช้ถนัดได้ นอกจากนั้นยังมี "Kismet 2" ที่เป็นสคริปต์แก้ไขเกี่ยวกับภาพที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์สามารถสร้างฉากอินเตอร์แอคทีฟได้ด้วยการแปลงโค้ดวัตถุไปเป็นแบบโฟลชาร์ตอินเตอร์แอคทีฟ
วิลลาร์ด ระบุอีกด้วยว่าเดโมตัวอย่างที่นำมาโชว์นี้รันบนการ์ดจอระดับไฮเอนด์ Nvidia GeForce GTX 680 ที่ยังไม่วางจำหน่ายในตลาด สำหรับราคาการ์ดจอรุ่นดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณ 500-600 เหรียญสหรัฐ
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamasutra.com