หุ้นเกมโซเชียลญี่ปุ่นดิ่งเหวหลังโดนคุมขายไอเทม

บริษัทผู้ให้บริการเกมออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือและเว็บเครือข่ายสังคมของญี่ปุ่นหลายรายเตรียมเผชิญวิกฤติครั้งใหญ่ หลังโดนหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคตรวจสอบวิธีการขายไอเทมเป็นเงินจริงจนหุ้นตกระนาวสูงสุดกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ในวันเดียว

ปัญหาดังกล่าวเริ่มต้นมาจากวิธีการที่เรียกว่า "Kompu Gacha" (ย่อจาก Complete Gacha) เป็นการขายไอเทมเสมือนจริงแบบสุ่มโดยที่ผู้ซื้อไม่รู้ว่าจะได้อะไร แล้วพ่วงเงื่อนไขพิเศษให้สะสมไอเทมครบชิ้นส่วนตามกำหนดเพื่อปลดล็อกรางวัลใหญ่ที่เป็นของหายากจริงๆออกมา

หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคของญี่ปุ่นได้เข้ามาตรวจสอบวิธี Kompu Gacha หลังได้รับคำร้องจำนวนมากว่าเป็นการยั่วยุให้เล่นพนันและสร้างปัญหากับเด็กเยาวชนที่ขาดความสามารถในการควบคุมตนเอง อีกทั้งยังเข้าข่ายเป็นวิธีเดียวกับที่เคยโดนกฏหมายห้ามในอดีตด้วย

ผลกระทบจากข่าวนี้ ทำให้บรรดาบริษัทผู้ให้บริการเกมออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือและเว็บเครือข่ายสังคมที่มีแหล่งรายได้หลักเป็นการขายไอเทมต้องเผชิญวิกฤติหุ้นตกเป็นประวัติการณ์ โดยตัวเลขรวมจากทั้งหมด 12 บริษัทคิดเป็นมูลค่าการตลาดสูญหายไปถึง 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 117,000 ล้านบาท) และในจำนวนนั้นก็มีค่ายที่ดำเนินธุรกิจวีดีโอเกมควบคู่กันรวมอยู่ด้วย ได้แก่โคนามิที่หุ้นตกไป 18 เปอร์เซนต์ นัมโคบันได 9.5 เปอร์เซ็นต์และแคปคอม 6.6 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ

หนึ่งในบริษัทที่โดนผลกระทบมากที่สุดคือ Gree ที่หุ้นตกไปกว่า 23 เปอร์เซ็นต์ โดย "โยชิคาสึ ทานากะ" ผู้ก่อตั้งต้องสูญเงินถึง 702 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 21,700 ล้านบาท) จากอัตราส่วนการถือหุ้นใหญ่สุด 49 เปอร์เซ็นต์ โดยเขาเคยได้รับการยกย่องจากนิตยสาร Forbes ว่าเป็นเศรษฐีพันล้านผู้สร้างตัวเองอันดับหนึ่งของเอเชียด้วยวัยเพียง 35 ปี เป็นรองเพียง "มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก" ผู้ก่อตั้งเฟซบุ็คในระดับโลกเท่านั้น

ทางหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคประกาศว่าจะขอความร่วมมือให้เลิกใช้วิธีดังกล่าวก่อนแล้วจะใช้กฏหมายบังคับหากไม่ได้ผล ขณะที่ทางฝั่งผู้ให้บริการเกมก็ยังไม่แถลงนโยบายที่แน่ชัดออกมา แต่ก็เริ่มขยับตัวยกเลิกปรับเปลี่ยนวิธีขายของในเกมไปล่วงหน้าแล้ว อย่างเช่นการจำกัดอายุและวงเงินใช้จ่ายของผู้เล่นในแต่ละเดือน หรือบางรายก็ยกเลิกของที่ขายด้วยวิธี Kompu Gacha เป็นการชั่วคราว
ตัวอย่างของวิธี Kompu Gacha