นิวยอร์กไทมส์ นสพ.ชื่อดังของสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยตัวเลขงบประมาณที่บริษัทโซนี่ทุ่มเพื่อโปรโมทเครื่องเกมพกพาใหม่ล่าสุดเพลย์สเตชันวีตาทั้งบนยูทูป เฟซบุ๊ค สื่อทีวี และป้ายบิลบอร์ดตามหัวเมืองใหญ่ในอเมริกาสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ร่วม 50 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในขณะที่เครื่องเพลย์สเตชันวีตาของบริษัทโซนี่กำลังจะออกวางจำหน่ายอาทิตย์หน้าในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้แล้วที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และดูเหมือนว่ามันจะเป็นการทำแคมเปญการตลาดบนเครื่องเล่นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของบริษัทเลยทีเดียว
เมื่อล่าสุดหนังสือพิมพ์รายวันยักษ์ใหญ่ของอเมริกา "นิวยอร์กไทมส์" ได้รายงานว่าบริษัทโซนี่ได้ทุ่มงบประมาณใช้เงินไปทั้งสิ้นกว่า 50 ล้านเหรียญหรือประมาณ 1,550 ล้านบาทในการทำการตลาดเครื่องเพลย์สเตชันวีตา ซึ่งทางโซนี่ได้ทำงานร่วมกับฝ่ายการตลาดของบริษัท Deutsch ในการสร้างเครือข่ายโฆษณาสำหรับเครื่องวีตา และใช้สโลแกนหลักว่า "Never Stop Playing"
โดยบริษัทโซนี่ได้ทำการโฆษณาผ่านหลากหลายสื่อทั้งบน 26 เว็บไซต์อย่างเฟซบุ๊ค ยูทูป และทวิตเตอร์ รวมไปถึงบนสื่อโทรทัศน์ในขณะที่กำลังฉายรายการดังๆอาทิ The Simpsons, South Park, Tosh.O และระหว่างการแข่งขันบาสเกตบอล NBA และ NCAA นอกจากนี้ยังมีการโปรโมทเครื่องวีตาผ่านทางคลื่นสถานีวิทยุ Sirius XM อีกทั้งยังมีป้ายบิลบอร์ดโฆษณาแปะอยู่ตามตึกในเมืองสำคัญหลักๆของอเมริกาอย่างนิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก และชิคาโกอีกด้วย
"จอห์น โคลเลอร์" (John Koller) ผู้อำนวยการอาวุโสของบริษัทโซนี่ออกมากล่าวว่า "มันเป็นการเปิดวางจำหน่ายแพลตฟอร์มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแง่ของการลงทุนทางการตลาดเลยทีเดียว ซึ่งเป้าหมายของเราก็คือการบอกให้เหล่าเกมเมอร์รับรู้ว่าเครื่องวีตานี้จะทำให้พวกเขาได้มีส่วนร่วมและรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเล่นเกมอยู่บนเครื่องคอนโซล"
ถึงแม้เครื่องเพลย์สเตชันวีตาจะไม่ประสบความสำเร็จนักหลังวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น แต่บริษัทโซนี่คาดหวังว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างเมื่อเครื่องวีตาออกวางจำหน่ายในอาทิตย์หน้านี้ที่อเมริกา โดยทาง "ชูเฮย์ โยชิดะ" (Shuhei Yoshida) ประธานบริษัทโซนี่เวิลด์ไวด์สตูดิโอ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ Venture Beat โดยให้เหตุผลว่ารายชื่อเกมวีตาที่เปิดตัวพร้อมเครื่องนั้นจะถูกใจรสนิยมคอเกมฝั่งตะวันตกมากกว่าเกมเมอร์ชาวญี่ปุ่น
"อันชาร์ตเต็ด มันเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมและเป็นหนึ่งในซีรีย์เกมระดับยักษ์ แต่มันกลับไม่เวิร์คในญี่ปุ่น ซึ่งฝ่ายการตลาดของทางโซนี่เอนเตอร์เทนเมนท์ญี่ปุ่นได้ทุ่มเทความพยายามอย่างหนักเพื่อกระตุ้นกระแสของเกมให้ดีขึ้น แต่มันก็ยังแน่นิ่งเหมือนเดิม โดยที่เกมอันชาร์ตเต็ด 3 ขายได้เพียง 200,000 ชุดเท่านั้นซึ่งน้อยมากหากเทียบกับคอลออฟดิวตี้ที่สามารถขายได้ถึง 300,000 หรือ 400,000 ชุด แถมคอลออฟดิวตี้ยังเป็นซีรีย์เกมจากตะวันตกที่ขายดีที่สุดในตลาดญี่ปุ่นอีกด้วย ดังนั้นญี่ปุ่นจึงถือเป็นตลาดที่หินเอามากๆเมื่อเวลาที่คุณเห็นเกมอย่างมอนสเตอร์ฮันเตอร์ทำยอดขายได้ถึง 4 ล้านชุดเฉพาะในญี่ปุ่น" โยชิดะ กล่าว
สำหรับผู้เล่นฝั่งอเมริกาทางโยชิดะกล่าวว่าพวกเขามีความสนใจในเกมแนวแอ็คชั่นผจญภัยและเกมแนวยิงทั้งหลายมากกว่าซึ่งเป็นสองแนวเกมที่เล่นได้อย่างไหลลื่นบนเครื่องวีตา โยชิดะเชื่อว่าเกมอย่าง Uncharted: Golden Abyss, FIFA Soccer และ Call of Duty จะสามารถดึงดูดผู้เล่นในอเมริกาที่กำลังมองหาประสบการณ์การเล่นเกมคอนโซลนอกสถานที่
นอกจากนี้ทางโยชิดะยังได้ชี้แจงถึงตัวเลขยอดขายเครื่องวีตาในญี่ปุ่นที่ดูย่ำแย่นั้น โดยเขาอธิบายว่า "ตัวเลขยอดขายเครื่องวีตาในญี่ปุ่นยังอยู่ในช่วงขอบเขตที่ทางเราตั้งเป้าเอาไว้ เพียงแต่มันอาจจะไม่ได้อยู่จุดสูงพอที่จะทำให้เรารู้สึกปลาบปลื้มก็เท่านั้น ซึ่งนอกเหนือจากความยากลำบากของซอฟต์แวร์เกมที่กล่าวมาข้างต้นแล้วตัวเลขยอดขายของเครื่องวีตานี้ยังได้รับผลกระทบมาจากความนิยมของเครื่องรุ่นก่อน PSP ที่มีอย่างต่อเนื่อง และทางบริษัทโซนี่ก็ได้คาดการณ์ไว้แล้วถึงการเปลี่ยนแปลงอันเชื่องช้าจากเครื่องเก่า PSP ไปสู่เครื่องใหม่เพลย์สเตชันวีตาในประเทศญี่ปุ่น"
เครื่องเพลย์สเตชันวีตาจะออกวางจำหน่ายครั้งแรกที่อเมริกาในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ โดยรุ่น WiFi สนนราคา 250 เหรียญ (ประมาณ 7,730 บาท) ส่วนรุ่น 3G สนนราคา 300 เหรียญ (ประมาณ 9,270 บาท) อีกทั้งจะมีเกมรองรับในวันเปิดตัวเครื่องมากกว่า 20 เกมด้วยกันอาทิ Uncharted: Golden Abyss, Wipeout 2048 และ Little Deviants
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot
ign
joystiq
gamasutra