"โทโมโนบุ อิตางากิ" ผู้สร้างซีรีย์ Dead or Alive และนินจาไกเดน ขึ้นบรรยายในงานสัมนานักพัฒนาเกม "DICE 2012" ที่ลาสเวกัส แฉเบื้องหลังค่ายเทคโมนำเกม Dead or Alive เวอร์ชันเพลย์สเตชันสองไปวางขายทั้งที่ยังสร้างไม่เสร็จ
อิตางากิซึ่งขณะนี้ออกมาตั้งสตูดิโอชื่อ "Valhalla" ของตัวเอง เผยว่าเขาเคยถูกค่ายเทคโมสั่งให้แปลง Dead or Alive 2 ซึ่งมีต้นฉบับจากเกมตู้ไปลงเพลย์สเตชันสองภายในเวลาสองเดือนครึ่งเพื่อให้ทันกำหนดเครื่องออกในเดือนมีนาคมปี 2000 ที่ญี่ปุ่น โดยเขากล่าวว่า "ทีมงานทั้งหมดที่นำโดยตัวผมได้ทุ่มสุดตัวเพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย แต่โชคไม่ดีที่ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาด"
ขณะที่เส้นตายใกล้เข้ามา ผู้จัดการฝ่ายขายก็ได้มาหาอิตางากิที่โต๊ะแล้วบอกว่า "ขอยืมแผ่นไปเล่นก่อนได้ไหม" และหลังจากให้ตัวอย่างซึ่งยังสร้างไม่เสร็จไป แผ่นเกมก็ถูกนำไปเข้าโรงงานผลิตขายทันที โดยที่อิตางากิไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เขายอมรับว่าตัวเกมได้ทำกำไรมหาศาลให้กับบริษัทเทคโม แต่การปล่อยงานที่ยังสร้างไม่เสร็จดีออกไปทำให้เขาและทีมงานบางส่วนสะเทือนใจมาก จนถึงกับคิดว่าจะเลิกสร้างวีดีโอเกมเลยทีเดียว
อิตางากิเล่าว่าเขาเก็บตัวอยู่กับบ้านนานถึง 3-4 เดือน ดื่มเหล้าตั้งแต่เช้าจรดเย็น ร้องไห้ นั่งดูภาพยนตร์ "อาร์มาเกดอน" และฟังเพลงประกอบ "I Don’t Want to Miss a Thing" ของวงแอโรสมิธซ้ำหลายรอบกับลูกสาวอายุ 3 ขวบ ซึ่งเขายอมรับว่าเป็นการใช้ชีวิตที่เหลวแหลก แต่เมื่อหลับตานึกถึงภาพยนตร์ น้ำตาก็ยังไหลออกมาอยู่เสมอ
หลังจากนั้น อิตางากิก็สามารถตั้งสติกลับมาได้และสร้างเกม "Dead or Alive 2: Hardcore" ซึ่งเป็นเวอร์ชันสมบูรณ์ที่พวกเขาอยากทำในทีแรก เพิ่มตัวละคร ท่าต่อสู้และ สังเวียนใหม่ กลายเป็นการวางขายครั้งที่สองในญี่ปุ่นต่อจากตัวที่ยังไม่เสร็จดี ส่วนทางอเมริกาและยุโรปก็ออกเป็นภาค Hardcore เวอร์ชันเดียวเลย
อิตางากิสรุปว่า "ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร แอโรสมิธและอาร์มาเกดอนคือผู้ช่วยชีวิต บริษัท เพื่อน และครอบครัวของผม" โดยเขาถึงกับขอลิขสิทธิ์เพลงของวงแอโรสมิธมาประกอบในเกม Dead or Alive ภาคหลังๆที่เขายังรับผิดชอบอยู่เลยทีเดียว
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
Joystiq
Wired