“ดีเอสไอ” แถลงจับ 3 ผู้ต้องหาปั๊มซีดีเพลงลูกทุ่งละเมิดลิขสิทธิ์ ยึดของกลาง 1 หมื่นแผ่น เผยเครือข่ายผลิตแผ่นซีดีปลอมเปลี่ยนการผลิตจากเครื่องปั๊มขนาดใหญ่ หันมาใช้เครื่องไรต์ซีดีจากเครื่องคอมพ์ต้นทุนไม่ถึง 2 พันบาท คาดในพื้นที่ภาคอีสานผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องทำให้จับยาก ด้านผู้ดูแลลิขสิทธิ์เพลงเผยค่ายเพลงใหญ่ได้รับความเสียหายจากตรงนี้ปีละ 100 ล้าน หากรวมสะสมตั้งแต่เปิดบริษัทไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้าน
วันนี้ (3 ก.พ.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญาดีเอสไอ แถลงถึงกรณี พ.ต.ท.มนต์ชัย วัชรบุตร ผอ.ส่วนทรัพย์สินทางปัญญา 2 ดีเอสไอ นำกำลังเข้าจับกุมแผ่นซีดี ดีวีดีเพลงลุกทุ่งละเมิดลิขสิทธิ์ ที่เปิดขายบริเวณตลาดนิกรธานี หน้าห้างสรรพสินค้าดิสเคาน์สโตร์แห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี หลังทราบว่าเป็นแหล่งกระจายสินค้าแผ่นเพลงละเมิดลิขสิทธิ์ไปในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยยึดของกลางได้ประมาณ 10,000 แผ่น จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย และให้การรับสารภาพ
พ.อ.ปิยะวัฒก์กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่าแหล่งปั๊มซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ในภาคอีสานนั้น ตั้งอยู่ใน จ.อุบลราชธานี แต่เมื่อมีการตรวจค้นกลุ่มผู้ต้องสงสัยจะเก็บอุปกรณ์หลบหนีไป ซึ่งคาดว่าผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่เข้าไปเกี่ยวข้อง โดยดีเอสไอจะสืบสวนขยายผลขบวนการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ต่อไป เพราะถือว่าสถานการณ์การละเมิดลิขสิทธิ์ค่อนข้างรุนแรง
พ.ต.ท.มนต์ชัยกล่าวว่า ดีเอสไอพยายามจะสืบสวนขยายผลจับกุมไปให้ถึงแหล่งผลิตรายใหญ่ แต่ปัญหาขณะนี้ผู้ผลิตแผ่นวิดีโอ ซีดี ดีวีดีปลอม หรือละเมิดลิขสิทธิ์ได้เปลี่ยนวิธีการจากเครื่องปั๊มขนาดใหญ่ที่ราคาเป็นล้าน ซึ่งเคลื่อนย้ายยากมาเป็นเครื่องไรท์ซีดีทาวเวอร์ที่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยใส่เข้าไป 1 แผ่น ออกมา 10 แผ่น และต้นทุนไม่ถึง 2,000 บาท โดยที่ผ่านมาปัญหาหนักใจในการจับกุมผู้ค้าแผ่นซีดี ดีวีดี ทั้งเพลงและภาพยนตร์ปลอม เพราะจะมีผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ในภาคอีสานให้ความคุ้มครอง ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมจะมีคนจำนวนมากมาล้อมกรอบขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งดีเอสไอจะต้องระมัดระวังและรอบคอบในการเข้าจับกุม
ด้าน นายยิ่งใหญ่ เพิ่มสกุล ผู้จัดการฝ่ายปราบปราม บริษัทลิขสิทธิ์เพลง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดูแลผลงานของค่ายเพลงท็อปไลน์มิวสิค, ชัวร์ออดิโอ, นพพรซิลเวอร์โกลด์ เปิดเผยว่า ค่ายเพลงที่ตนดูแลอยู่ได้รับความเสียหายจากการค้าแผ่นซีดี ดีวีดี ทั้งเพลงและภาพยนตร์ปลอมในแต่ละปีมูลค่าสูงกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นความเสียหายสะสมตั้งแต่เปิดบริษัทไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทแล้ว เพราะการยึดของกลางแต่ละครั้งต้องใช้รถสิบล้อมาขน และโดยเฉพาะในภาคอีสานถือว่าถูกละเมิดลิขสิทธิ์มากเป็นอันดับ 1 ดังนั้นยืนยันว่าบริษัทค่ายเพลงจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไม่มีการยอมความเด็ดขาด
วันนี้ (3 ก.พ.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญาดีเอสไอ แถลงถึงกรณี พ.ต.ท.มนต์ชัย วัชรบุตร ผอ.ส่วนทรัพย์สินทางปัญญา 2 ดีเอสไอ นำกำลังเข้าจับกุมแผ่นซีดี ดีวีดีเพลงลุกทุ่งละเมิดลิขสิทธิ์ ที่เปิดขายบริเวณตลาดนิกรธานี หน้าห้างสรรพสินค้าดิสเคาน์สโตร์แห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี หลังทราบว่าเป็นแหล่งกระจายสินค้าแผ่นเพลงละเมิดลิขสิทธิ์ไปในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยยึดของกลางได้ประมาณ 10,000 แผ่น จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย และให้การรับสารภาพ
พ.อ.ปิยะวัฒก์กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่าแหล่งปั๊มซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ในภาคอีสานนั้น ตั้งอยู่ใน จ.อุบลราชธานี แต่เมื่อมีการตรวจค้นกลุ่มผู้ต้องสงสัยจะเก็บอุปกรณ์หลบหนีไป ซึ่งคาดว่าผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่เข้าไปเกี่ยวข้อง โดยดีเอสไอจะสืบสวนขยายผลขบวนการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ต่อไป เพราะถือว่าสถานการณ์การละเมิดลิขสิทธิ์ค่อนข้างรุนแรง
พ.ต.ท.มนต์ชัยกล่าวว่า ดีเอสไอพยายามจะสืบสวนขยายผลจับกุมไปให้ถึงแหล่งผลิตรายใหญ่ แต่ปัญหาขณะนี้ผู้ผลิตแผ่นวิดีโอ ซีดี ดีวีดีปลอม หรือละเมิดลิขสิทธิ์ได้เปลี่ยนวิธีการจากเครื่องปั๊มขนาดใหญ่ที่ราคาเป็นล้าน ซึ่งเคลื่อนย้ายยากมาเป็นเครื่องไรท์ซีดีทาวเวอร์ที่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยใส่เข้าไป 1 แผ่น ออกมา 10 แผ่น และต้นทุนไม่ถึง 2,000 บาท โดยที่ผ่านมาปัญหาหนักใจในการจับกุมผู้ค้าแผ่นซีดี ดีวีดี ทั้งเพลงและภาพยนตร์ปลอม เพราะจะมีผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ในภาคอีสานให้ความคุ้มครอง ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมจะมีคนจำนวนมากมาล้อมกรอบขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งดีเอสไอจะต้องระมัดระวังและรอบคอบในการเข้าจับกุม
ด้าน นายยิ่งใหญ่ เพิ่มสกุล ผู้จัดการฝ่ายปราบปราม บริษัทลิขสิทธิ์เพลง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดูแลผลงานของค่ายเพลงท็อปไลน์มิวสิค, ชัวร์ออดิโอ, นพพรซิลเวอร์โกลด์ เปิดเผยว่า ค่ายเพลงที่ตนดูแลอยู่ได้รับความเสียหายจากการค้าแผ่นซีดี ดีวีดี ทั้งเพลงและภาพยนตร์ปลอมในแต่ละปีมูลค่าสูงกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นความเสียหายสะสมตั้งแต่เปิดบริษัทไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทแล้ว เพราะการยึดของกลางแต่ละครั้งต้องใช้รถสิบล้อมาขน และโดยเฉพาะในภาคอีสานถือว่าถูกละเมิดลิขสิทธิ์มากเป็นอันดับ 1 ดังนั้นยืนยันว่าบริษัทค่ายเพลงจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไม่มีการยอมความเด็ดขาด