เกมออนไลน์ Star Wars : The Old Republic หรือ SWTOR เป็นเกมแนว MMORPG สำหรับเล่นบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Window อ้างอิงเนื้อเรื่องมาจากมหากาพย์สตาร์วอร์ โดยย้อนไปในช่วงหลายพันปีก่อนการถือกำเนิดของ "ดาร์ธ เวเดอร์" ท่ามกลางสงครามที่แผ่ขยายไปทั่วกาแล็กซีระหว่างฝ่ายสาธารณรัฐกาแล็กติกกับฝ่ายจักรวรรดิซิธ ผู้เล่นจะมีโอกาสได้สร้างตัวละครพร้อมกับเลือกฝ่ายที่ต้องการเข้าร่วมสนับสนุน
แต่ละฝ่ายจะมี 4 อาชีพให้เลือกเล่น (ฝ่ายละ 4) โดยในส่วนของฝ่ายสาธารณรัฐกาแล็กติกจะมีอาชีพ Trooper , Smuggler , Jedi Knight , Jedi Consular ขณะที่ฝ่ายจักรวรรดิซิธจะมีอาชีพ Bounty Hunter , Sith Warrior , Imperial Agent , Sith Inquisitor ซึ่งในทุกอาชีพเมื่อเล่นถึงเลเวล 10 จะสามารถเลือก Advanced Class ได้อาชีพละ 2 แบบ พร้อมทั้งยังมีสกิลให้เลือกเล่นอีก 3 สาย ทำให้สามารถสร้างตัวละครที่มีรูปแบบการเล่นได้หลากหลายตามที่ต้องการ
ตัวเกม SWTOR เน้นการทำเควสต์เป็นหลัก แบ่งออกเป็นเควสต์เนื้อเรื่องของแต่ละอาชีพ ซึ่งเควสต์อาชีพจะเป็นเควสต์หลักที่ใช้ในการดำเนินเรื่อง แถมยังมีพื้นที่พิเศษเป็น Story Area ที่คนอื่นจะเข้ามาไม่ได้ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องของการถูกผู้เล่นอื่นกลั่นแกล้งหรือขัดขวางการดำเนินเนื้อเรื่อง รองลงมาจะเป็นเควสต์เนื้อเรื่องของดาวแต่ละดวง เควสต์เดลี่ฮีโรอิค เควสต์แฟลชพ็อยท์ เควสต์วอร์โซน จุดเด่นของระบบเควสต์ในเกมนี้คือระบบการดำเนินเรื่องด้วยฉากอนิเมชั่นทุกเควสต์ ย้ำว่าทุกเควสต์จริงๆ ต่างจากเกม RPG ทั่วไปที่จะมีหน้าต่างข้อความขึ้นมาให้อ่าน แต่เกมนี้เมื่อกดคุยกับ NPC เพื่อรับเควสต์ ฉากจะตัดเข้าสู่อนิเมชั่นที่มีการพากย์เสียงทุกตัวละคร ทำให้เกิดความรู้สึกอินไปกับเรื่องราวได้อย่างเต็มที่
ระหว่างการพูดคุยจะมีตัวเลือกบทพูดของเราขึ้นมาให้เลือกว่าเราจะตอบสนองต่อสถานการณ์นั้นอย่างไร การตัดสินใจเลือกคำพูดของเราจะส่งผลถึงเนื้อหาของเกมในตอนนั้น รวมถึงจะส่งผลต่อสภาพจิตใจของตัวละครว่าจะไปในด้านมืดหรือด้านสว่าง ยกตัวอย่างเช่น ภารกิจบางอย่างอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจว่าจะช่วยคนหรือจะทำตามหน้าที่ ซึ่งผลที่ได้จะมีความแตกต่างกัน แถมสภาพจิตใจทั้งสองด้านยังส่งผลต่อการใช้ไอเท็มหรือรับสิทธิพิเศษภายในเกมบางอย่าง อาทิ ด้านมืดจะใช้ดาบไลท์เซเบอร์สีแดง ด้านสว่างจะใช้สีเขียว-ฟ้า
อีกหนึ่งจุดที่มีความสำคัญสำหรับเกมออนไลน์คือการมีเพื่อนร่วมทางหรือกลุ่มที่จะคอยช่วยในการเล่น ตรงจุดนี้ตัวเกม SWTOR มีระบบ Companion ที่ทำออกมาได้ดี ช่วยอุดช่องว่างกรณีเล่นคนเดียว โดยจะคอยช่วยทั้งในเรื่องของการต่อสู้ มีทักษะในการต่อสู้หลายรูปแบบ ช่วยคราฟท์สิ่งของภายในเกม สร้างความสัมพันธ์กับผู้เล่น อีกทั้งยังมีเนื้อเรื่องเฉพาะตัวในรูปแบบของเควสต์พูดคุยกับตัวละครผู้เล่น การตัดสินใจบางครั้งจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่นกับ Companion นอกจากนี้ผู้เล่นสามารถหาชุดสวมใส่และอาวุธเพื่อเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของ Companion ได้ด้วย
ระบบการสร้างสิ่งของภายในเกม SWTOR ใช้ชื่อว่า Crew Skill ซึ่งผู้เล่นจะสามารถใช้ให้ Companion ไปทำการคราฟท์สิ่งของรวมถึงค้นหาวัตถุดิบในการคราฟท์ได้โดยที่ไม่ต้องทำเอง ทำให้การพัฒนาความสามารถด้านนี้ทำได้ไม่ยากเกินไป แถมสิ่งของที่สร้างขึ้นมาก็มีคุณภาพในระดับที่คุ้มค่า มีการแบ่งสกิลออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย Gathering Skill เป็นสกิลรวบรวมวัตถุดิบ , Crafting Skill เป็นสกิลที่ใช้ในการสร้างสิ่งของ , Mission Skill เป็นสกิลที่ใช้ทำภารกิจพิเศษ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนเป็นสิ่งของที่ไม่สามารถเก็บได้จากแผนที่ทั่วไป
ในส่วนของการรวมกลุ่มผู้เล่นเพื่อออกผจญภัยนั้น ในแต่ละกลุ่มจะมีตัวละครได้สูงสุด 4 ตัวละคร (รวม Companion ถ้าในกลุ่มมีผู้เล่นครบ 4 จะไม่สามารถเรียก Companion ออกมาช่วยสู้ได้) ตัวเกม SWTOR นำเสนอพื้นที่พิเศษที่เป็น Heroic Area ที่มีศัตรูแข็งแกร่งกว่าปกติ อีกทั้งยังมี Flash Point ที่เป็นภารกิจบนพื้นที่ต่างๆ (คล้ายดันเจี้ยนในเกมอื่น) ส่วนการต่อสู้ระดับสูงที่ต้องรวมกลุ่มกันมากกว่า 4 คน จะเรียกว่า Operation (8 และ 16 คน)
หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจบนดาวดวงที่สอง (ประมาณเลเวล 15-20) ผู้เล่นจะมียานอวกาศเป็นของตัวเอง เพื่อใช้ในการเดินทางไปยังดาวดวงอื่นๆ รวมถึงสามารถเข้าร่วมภารกิจต่อสู้ใน Space Combat ได้ด้วย ระบบการเล่นของโหมดนี้จะเป็นลักษณะ On-Rail Shooting (ฉากเกมจะเลื่อนไปเองโดยอัตโนมัติตามที่เกมกำหนดไว้) มุมมองบุคคลที่สาม ควบคุมยานด้วยเมาส์ เมื่อลากเป้าของเมาส์ไปด้านขวาหรือซ้ายของจอ ยานก็จะบินไปตามเป้าของเมาส์ ตรงจุดนี้ถือว่าระบบ Space Combat ทำออกมาได้ดี เข้ากับเนื้อหาเกม สนุกมากกว่าที่ผู้เขียนคาดไว้ในตอนแรก นอกจากจะต้องยิงต่อสู้กับยานของศัตรูแล้ว ยังต้องควบคุมยานของเราคอยหลบอุกกาบาตหรือกระสุนของศัตรู แถมยังสามารถซื้ออุปกรณ์มาอัพเกรดยานให้มีสมรรถนะสูงขึ้นได้
ระบบการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นจะมี 2 แบบ แบบแรกคือ World PvP ที่ผู้เล่นในเซิร์ฟเวอร์ PvP สามารถโจมตีฝ่ายตรงข้ามได้ในแผนที่ทั่วไปตามปกติ โดยเมื่อผู้เล่นเข้าสู่พื้นที่ที่มีโอกาสพบกับฝ่ายตรงข้าม จะมีคำเตือนพร้อมกับสัญลักษณ์ปรากฏขึ้นมาที่รูปของตัวละคร การสังหารศัตรูในแบบแรกนี้ ผู้เล่นจะได้รับเหรียญ Mercenary Commendation เอาไว้ใช้แลกซื้อไอเท็ม
ส่วนการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นแบบที่สองคือระบบ Warzone ที่จะเป็นสมรภูมิพิเศษให้เข้าไปร่วมต่อสู้ จุดที่ถือว่าทำได้ดีมากสำหรับการต่อสู้ใน Warzone นั่นคือจะมีการเพิ่มระดับของตัวละครที่มีเลเวลต่ำให้กลายเป็น 49 เพื่อที่ทุกคนจะได้ต่อสู้กันอย่างสมน้ำสมเนื้อมากขึ้น ทำให้ผู้เล่นเลเวล 5 เลเวล 10 ก็สามารถต่อสู้กับผู้ที่มีเลเวลสูงกว่าได้ โดยหลังจบการต่อสู้ในแต่ละรอบของระบบ Warzone ผู้เล่นจะได้รับเหรียญ Warzone Commendation ไว้แลกซื้อไอเท็มได้ ซึ่งในปัจจุบันมีให้เล่น 3 สมรภูมิ ได้แก่ Alderaan Civil War การต่อสู้ชิงพื้นที่ป้อมปืนเพื่อยิงยานแม่ของฝ่ายตรงข้าม , Voidstar การบุกเข้าไปทำลายเทคโนโลยีด้านอาวุธของฝ่ายตรงข้าม , Huttball รักบี้หฤโหด !?
Star Wars : The Old Republic หรือ SWTOR ถือว่าเป็นเกมออนไลน์ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม การที่นักวิจารณ์ทั่วโลกให้คะแนนเกมนี้ในระดับสูงไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าจะต้องซื้อกล่องราคา 60 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้ซีดีคีย์ในการสมัครไอดี รวมถึงต้องจ่ายค่าบริการเดือนละ 14.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ผู้เขียนก็รู้สึกว่าคุ้มค่าทุกบาทจริงๆ (เกมล่าสุดที่ยอมจ่ายค่าบริการคือ WoW และได้หยุดเล่นมาซักพักแล้ว) โดยในปัจจุบันมีกลุ่มผู้เล่นชาวไทยจำนวนหนึ่งเล่นเกมนี้อยู่ประมาณ 3 - 4 กิลด์ ส่วนสิ่งที่อาจจะเป็นปัญหาสำหรับผู้เล่นในไทยนั่นคือการที่กล่องเกมไม่มีการจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย ต้องสั่งซื้อจากเว็บไซต์ต่างประเทศอย่าง เพลย์เอเชีย อเมซอน หรืออาจจะเลือกซื้อจากบางร้านที่หิ้วเข้ามาขาย เว็บไซต์บางแห่งของไทยก็จะมีขายเฉพาะซีดีคีย์
คะแนนรวม 9/10
พรศักดิ์ เมฆชมภู
*บทความชิ้นนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณ*
The Old Republic Story
กว่า 3 พันปีก่อนการถือกำเนิดของ "ดาร์ธ เวเดอร์"
ด้วยการปกป้องคุ้มครองจาก "เจได" สาธารณรัฐกาแล็กติกจึงได้ชื่อว่าเป็นปราการที่คอยดูแลความสงบสุขของกาแล็กซีมาอย่างยาวนาน โดยตลอดช่วงเวลาหลายศตวรรษในขณะนั้น สิ่งที่ถือเป็นภัยคุกคามกาแล็กซีมากที่สุดนั้นคือ "จักรวรรดิซิธ" หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้ทำสงครามกันมาเป็นระยะๆ ในที่สุดฝ่ายสาธารณรัฐก็ได้รับชัยชนะและเชื่อกันว่า "ซิธ" ได้ถูกกำจัดไปแล้ว แต่ถึงกระนั้น "เจได" ก็ยังคงเฝ้าคอยระวังภัยที่ดวงดาว Korriban ซึ่งเป็นดินแดนบ้านเกิดของ "ซิธ" เพื่อป้องกันกาแล็กซีจากภัยร้ายที่ยังคงซุกซ่อนอยู่ จนกระทั่งวันหนึ่ง...
กลุ่มผู้รอดชีวิตจำนวนไม่มากได้หลบหนีพ้นจากการโจมตี เพื่อไปเตือนภัยการคุกคามของจักรวรรดิซิธ แต่นั่นก็ช่วยกอบกู้สถานการณ์ของสาธารณรัฐได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดวงดาว Korriban เป็นเพียงแค่ 1 ในหลายแห่งที่ถูกโจมตี ตลอดช่วงหลายปีหลังจากนั้น ฝ่ายสาธารณรัฐได้รับความเสียหายอย่างหนักจากความพ่ายแพ้หลายครั้ง ขณะที่ฝ่ายจักรวรรดิซิธกำลังฮึกเหิมในชัยชนะ รุกคืบเข้าสู่ดวงดาวที่สำคัญหลายแห่ง หลอกล่อให้ฝูงยานอวกาศของฝ่ายสาธารณรัฐออกจากจุดที่มั่น พร้อมทั้งเข้าโจมตีดวงดาว Alderaan ดินแดนของเหล่าชนชั้นสูง แต่ฝ่ายจักรวรรดิซิธไม่รู้เลยว่ายังคงมีความหวังหลงเหลืออยู่บนดวงดาวแห่งนั้น
ความกล้าหาญในการลุกขึ้นต่อต้านจักรวรรดิซิธบนดวงดาว Alderaan ได้ปลุกเร้าขวัญและกำลังใจให้กับฝ่ายสาธารณรัฐไปทั่วกาแล็กซี แต่ถึงกระนั้นสมดุลแห่งอำนาจก็ยังคงอยู่กับฝ่ายจักรวรรดิซิธ แต่แล้วจู่ๆ จักรวรรดิซิธก็ยื่นข้อเสนอสัญญาสงบศึกให้กับฝ่ายสาธารณรัฐ แม้จะอยู่ท่ามกลางความสงสัยว่านี่อาจจะเป็นกลลวง แต่ฝ่ายสาธารณรัฐก็ตัดสินใจยอมรับข้อเสนอพร้อมกับให้บรรดาเจไดระดับสูงเดินทางไปพบกับฝ่ายจักรวรรดิซิธที่ดวงดาว Alderaan คงเหลือไว้เพียงเจไดวัยเยาว์ทั้งหลายอยู่เฝ้าวิหารที่มั่นสำคัญของเหล่าเจไดบนดวงดาว Coruscant และนั่นคือเป้าหมายที่แท้จริงของจักรวรรดิซิธ !!
หลังจากถล่มวิหารของเจไดและมีชัยเหนือกองกำลังป้องกันของฝ่ายสาธารณรัฐ ด้วยการที่กองกำลังของฝ่ายจักรวรรดิยึดครองดาว Coruscant เป็นตัวประกัน ทำให้ฝ่ายสาธารณรัฐไม่มีทางเลือกและต้องยอมรับข้อตกลงจากฝ่ายจักรวรรดิ ที่ต้องการให้ยอมรับอำนาจการควบคุมจากฝ่ายจักรวรรดิ รวมถึงขอบเขตการปกครองที่ครอบคลุมดวงดาวหลายแห่ง อย่างไรก็ตามแม้ข้อตกลงครั้งนี้จะสามารถยุติสงครามได้อย่างเป็นทางการ แต่ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายยังคงเกิดขึ้นตลอดมาหลังจากนั้น ดูเหมือนว่าการหวนกลับมาทำสงครามกันอีกครั้งจะกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้...