อิด ซอฟต์แวร์ (id Software) สตูดิโอผู้สร้างซีรีย์เกมยิงในตำนานอย่าง Doom เปลี่ยนแนวทางในการทำเกม โดยการลดระยะเวลาในการสร้างต่อเกมให้สั้นลง และเลิกสร้างเอนจิ้นขึ้นมาใหม่สำหรับเกมตัวต่อไป
ในระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา การพัฒนาเกมของทาง ไอดี ซอฟต์แวร์ จะเป็นในรูปแบบ หนึ่งเกมต่อหนึ่งเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม ถึงแม้ว่าจะมีการอนุญาตให้ผู้พัฒนารายอื่นได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ตัวเองสร้างขึ้นในการพัฒนาเกมซีรีย์ของตน อย่าง Wolfenstein: Enemy Territory และ Quake 4 แต่ถ้าดูเฉพาะผลงานภายในของทางบริษัทเพียงอย่างเดียว ทั้งเรื่องเทคโนโลยี และการพัฒนาเกมนั้นมักจะเดินไปด้วยกันเสมอ จากผลการพัฒนาเกมของทางสตูดิโอ
• id Tech 1: Doom(1993), Doom 2 (1994)
• id Tech 2: Quake (1996), Quake 2 (1997)
• id Tech 3: Quake 3 Arena (1999)
• id Tech 4: Doom 3 (2004)
• id Tech 5: Rage (2011)
ล่าสุด "ทอดด์ ฮอลเลนส์เฮด" (Todd Hollenshead) ซีอีโอของทาง อิด ซอฟต์แวร์ ก็ได้ออกมากล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงแนวทางการทำเกมของสตูดิโอว่า "เราจำเป็นต้องร่นระยะเวลาให้สั้นลง และผมคิดว่าเราไม่สามารถวิวัฒนาการเทคโนโลยีไปพร้อมกับทุกเกมที่เราสร้างได้" ซึ่งเกมที่กำลังจะมาอย่าง Doom4 ยังใช้เทคโนโลยี id tech 5 ในการพัฒนาแล้ว ทอดด์ ยอมรับว่า "เราจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเดิมๆในการสร้างเกมใหม่ๆบ้าง ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ถ้าหากปราศจากความทุ่มเทที่เราใส่ลงไป"
โชคดีที่ตอนนี้ทาง อิด ซอฟต์แวร์ มีบริษัทใหญ่อย่าง เบเทสดา ซอฟต์เวิร์ค (Bethesda Softworks) คอยหนุนหลังอยู่ สตูดิโอดังกล่าวจึงสามารถพัฒนาถึงสองเกมควบคู่ไปด้วยกันได้ โดยไม่ต้องพะวงถึงความเสี่ยง ทอดด์ กล่าวปิดท้ายว่า "เราลงทุนลงไปกับการการสร้างเกมทั้งสอง ซึ่งขนาดในการสร้างอยู่ในระดับ AAA เหมือนกับวางเดิมพันทั้งบริษัทเลยทีเดียว"
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
joystiq