"เอเชียซอฟท์" เผยผลประกอบการปี พ.ศ. 2553 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 48.2 เปอร์เซ็นต์ เร่งเดินหน้าเป็นผู้ให้บริการเกมระดับภูมิภาค รุกชิงส่วนแบ่งตลาดเกม FPS พร้อมทยอยเปิดเกมใหม่อีกหลายแนว นอกจากนี้ยังได้ทำโมบายแอพพลิเคชั่นรองรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงขยายการลงทุนสู่ตลาดใหม่ในอินโดนีเซีย เปิดเกมแรกไตรมาส 2 ปีนี้
วานนี้ (3 มี.ค.) บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยผลประกอบการของบริษัทฯในปี พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมา พร้อมแผนการดำเนินธุรกิจในปี พ.ศ. 2554 ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดในพื้นที่เดิม รวมถึงเปิดตลาดใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย
นายปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯได้เปิดให้บริการเกมใหม่ทั้งหมด 7 เกม แบ่งเป็นเกมในประเทศไทย 4 เกม ส่วนอีก 3 เกมเปิดให้บริการในประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย แต่สัดส่วนของรายได้หลักทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศยังคงมาจากเกมเก่า
ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทฯ ในปี พ.ศ. 2553 มีรายได้รวม 1,539.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากเกมใหม่ๆในต่างประเทศยังไม่สามารถสร้างผลงานที่โดดเด่นได้ แต่ถ้าดูเฉพาะตัวเลขในประเทศไทยจะมีรายได้ 1,082.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.3 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามแม้ว่าการเติบโตของรายได้รวมจะเพิ่มขึ้นไม่มาก แต่เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วกำไรสุทธิกลับเพิ่มขึ้นถึง 48.2 เปอร์เซ็นต์ ด้วยตัวเลข 264.5 ล้านบาท
การดำเนินงานในต่างประเทศสามารถพลิกจากขาดทุนในปี พ.ศ. 2552 มาเป็นกำไรในปี พ.ศ. 2553 ตรงจุดนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการลดต้นทุนในการดำเนินงาน โดยมีการย้ายทีมงานจำนวนมากจากในสิงคโปร์ที่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงไปอยู่มาเลเซีย ทั้งคอลเซ็นเตอร์ เกมมาสเตอร์ คัสตอมเมอร์เซอร์วิส ฯลฯ ทำให้บริหารต้นทุนได้ดีขึ้น ลดต้นทุนได้ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์
น.ส.ศิริรัตน์ ไวศรายุทธ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายโครงการเกม ระบุว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปี พ.ศ. 2554 สำหรับประเภทเกม MMO จะมีการคัดสรรเลือกเกมที่จะมาเปิดให้บริการโดยดูคุณภาพของเกมเป็นหลัก รวมไปถึงการมุ่งสร้างฐานรองรับกลุ่มผู้เล่นในระดับภูมิภาค เนื่องจากบริษัทฯต้องการผันบทบาทจากผู้ให้บริการเกมระดับประเทศไปเป็นผู้ให้บริการเกมระดับภูมิภาค
บริษัทฯจะมีการทำเว็บไซต์ PLAY FPS ขึ้นมาเป็นชุมชนออนไลน์รองรับผู้เล่นเกมแนว FPS ทั้งในประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเกมใหม่ที่จะนำมาเปิดให้บริการในระดับภูมิภาคคือเกม A.V.A. เหตุผลที่เน้นกลุ่มเกมแนว FPS เนื่องจากเป็นแนวเกมที่มีตลาดขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นกลุ่มที่บริษัทฯยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดน้อย
น.ส.ญาดาผนิต โพธิเนียร รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ระบุว่า ในส่วนของเกมแนวแคชวล บริษัทฯต้องการที่จะเพิ่มเกมในหมวดหมู่ที่ทำผลงานได้ดีอยู่แล้วในปัจจุบัน อย่างเช่นตลาดเกมแนวดนตรี ขณะเดียวกันก็จะเข้าไปชิงส่วนแบ่งในตลาดเกมแนวอื่นๆที่ก่อนนี้บริษัทฯไม่ได้เข้าไปร่วมแข่งขัน โดยบริษัทฯมีแผนที่จะเปิดให้บริการเกมแนวจับจังหวะดนตรีที่เป็นรูปแบบของเครื่องดนตรีหลายชิ้นที่มีชื่อว่า Band Master และเกมแอ็คชั่นชู้ตติ้ง Giga Slave พร้อมตั้งเป้าในปีนี้ว่าต้องการที่จะได้ส่วนแบ่งทางการตลาดเกมแคชวลประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์
น.ส.สุวรรณี ตั้งจิตร์พร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ระบุว่า ในส่วนของการดำเนินงานด้านไอที บริษัทฯได้สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคด้วยการผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 27001 : 2005 นอกจากนี้ยังมีการสร้างอุปกรณ์ @Key ซึ่งเป็นอุปกรณ์ป้องกันการแฮ็กไอดีเกมในเครือฯเอเชียซอฟท์ ขณะเดียวกันเพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนที่เพิ่มสูงขึ้นก็ได้จัดทำโมบายแอพพลิเคชั่น "PlayPark" สำหรับใช้งานบนไอโฟน โดยจะเปิดให้ดาวน์โหลดได้ภายในเดือนนี้ผ่านทางร้านค้าออนไลน์ App Store
น.ส.ลัดดาวัลย์ พัฒนาพรอนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ระบุว่า แผนการดำเนินงานขยายตลาดใหม่ในประเทศอินโดนีเซียเกิดขึ้นเนื่องจากบริษัทฯได้สำรวจพบว่า อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตสูงเป็นลำดับที่ 5 ของเอเชีย รวมถึงยังเป็นประเทศที่มีผู้ใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ "เฟซบุ้ค" สูงเป็นลำดับที่ 2 ของโลก ซึ่งกลุ่มผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเหล่านี้เป็นผู้ที่เล่นเกมออนไลน์ประมาณ 10.5 - 13.5 ล้านราย จึงได้ดำเนินการร่วมลงทุนกับบริษัทในท้องถิ่นเพื่อทำการเปิดให้บริการเกมออนไลน์ ด้วยงบฯลงทุน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจะเริ่มทำการเปิดให้บริการเกมแรกในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้