บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ "อิเล็กทรอนิกส์ อาร์ต" เปิดเผยว่าในปี 2010 จะวางจำหน่ายซอฟท์แวร์เกมประมาณ 40 เกม ซึ่งลดลงจากเดิมที่เคยวางจำหน่ายไปมากกว่า 50 เกมในปี 2009 และอาจจะน้อยกว่านั้นในอนาคต รวมถึงจะมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมเกมบนโทรศัพท์มือถือและโซเชี่ยล เน็ตเวิร์ค
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนที่แล้ว "อิเล็กทรอนิกส์ อาร์ต" ได้ออกมาเปิดเผยผลประกอบการที่มีตัวเลขขาดทุน 391 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมระบุว่าจะมีการตัดเกมออกจากพอร์ตประมาณหนึ่งโหล เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายและจะได้มุ่งเน้นพัฒนาเกมที่มีคุณภาพสูง รวมถึงจะมีการปลดพนักงานออกประมาณ 1,500 ตำแหน่ง ซึ่งคิดเป็น 17 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมด
ล่าสุดประธานผู้บริหารบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ อาร์ต "จอห์น ริคซิติลโล่" ได้ออกมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า ในอนาคตจะมุ่งพัฒนาไปที่เกมออนไลน์และเกมบนโทรศัพท์มือถือมากขึ้น ขณะที่เกมคอนโซลจะมีการลดจำนวนลงจากเดิมที่เป็นอยู่ ซึ่งในปัจจุบัน "อีเอ" จัดจำหน่ายเกมไปมากกว่า 50 ภายในปีนี้ ดังนั้นในปีหน้าบริษัทจะลดจำนวนลงมาอยู่ที่ระดับ 40 เกมต่อปี และก็คงจะไม่น่าแปลกใจถ้าในอนาคตจะเหลือเพียง 30 เกมต่อปี เพื่อจะได้มุ่งเน้นพัฒนาเกมที่มีคุณภาพ
จอห์น ริคซิติลโล่ ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า เกมยอดฮิตที่ได้รับความนิยมสูงในแต่ละปี อาทิ Left 4 Dead 2 , Modern Warfare 2 นั้นมีไม่มากแถมยังทั้งช่วงเวลาห่างกันพอสมควร ซึ่งในระหว่างนั้นบรรดาผู้บริโภคก็หันไปเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือและเกมที่เปิดให้เล่นฟรีบนระบบ "โซเชี่ยล เน็ตเวิร์ค" อาทิ เฟซบุ๊ค ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน เพราะเหตุนั้น "อีเอ" จึงได้ตัดสินใจซื้อกิจการของ Playfish บริษัทผู้พัฒนาเกมบนระบบโซเชี่ยล เน็ตเวิร์ค เพื่อการเติบโตของบริษัทในอนาคต
ข้อมูลจาก
รอยเตอร์
