เจ้าของค่ายโวแบรนด์เกม Call of Duty ยิ่งใหญ่เกรียงไกรที่สุดในสื่อบันเทิง คุยรายได้รวมทุกภาคทะลุ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากยอดขาย 55 ล้านชุดทั่วโลก
แอ็คติวิชันประกาศความสำเร็จอีกครั้ง หลังส่งเกมชูตเตอร์จากซีรีส์ “คอลล์ ออฟ ดิวตี้” (Call of Duty )ไปกอบโกยเงินเข้ากระเป๋าอย่างถล่มทลายในทุกภาค ขณะนี้ตัวเลขผ่านหลัก 3พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 99,750 ล้านบาท จากการวางจำหน่ายทั่วโลก ส่งผลให้กลายเป็นหนึ่งในเกมที่แอ็คติวิชันอ้างว่าไม่มีมาทัดเทียมได้ในตอนนี้
“บ็อบบี้ โคทิคก์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอ็คติวิชัน กล่าวเยินยอเกมตัวเก่งของบริษัทว่า Call Of Duty เป็นหนึ่งในสื่อบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตอนนี้ หากคุณพิจารณาถึงจำนวนชั่วโมงที่ผู้เล่นเกมของเราเข้าไปเล่นเกม Call Of Duty มันก็เหมือนกับว่า มันเป็นหนึ่งในสื่อบันเทิงที่มีคนเข้าไปชมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไปแล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ หากนับเอายอดขายเกม Call Of Duty ตั้งแต่ภาคแรกเป็นต้นมา เกม 6 ภาคจากซีรีส์นี้สามารถขายไปได้แล้วทั้งสิ้น 55 ล้านชุดทั่วโลก(แก้ไข) โดยเกมภาคล่าสุด “โมเดิร์น วอร์แฟร์2” (Call of Duty: Modern Warfare 2)ขายได้ถึง 550 ล้านเหรียญสหรัฐภายใน5วันแรกที่วางแผง และวันแรก(10 พ.ย.)ขายได้ถึง 4.7 ล้านชุด เฉพาะในอเมริกาและอังกฤษ
เกมภาคแรกพัฒนาโดยทีม “อินฟินิตี้ วอร์ด”(Infinity Ward)วางขายบนเครื่อง PC ในปี 2003 ปัจจุบันเกมในตระกูลนี้ถูกแยกออกเป็น 2 ทีมเพื่อหมุนเวียนส่งเกมสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อินฟินิตี้ วอร์ดเป็นทีมงานหลักที่เปลี่ยนแนวทางของเกมจากยุคสงครามโลกครั้งที่สองมาสู่การต่อสู้ในยุคใหม่ภายใต้ชื่อตอนModern Warfare ขณะที่ “Treyarch” เป็นทีมงานรองที่เน้นเกมในแนวทางเดิมอยู่
ข้อมูลจาก...
www.gamesindustry.biz
www.ign.com
www.gamasutra.com
