เวียคอม การันตีเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงและตัวละครเสมือนของวงเดอะบีทเทิ้ล จะได้รับเงินตอบแทนอย่างต่ำ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ และถ้าหากเกม Beatles: Rock Band ทำยอดขายได้อย่างงดงาม อาจจะจ่ายผลตอบแทนให้ถึง 40 ล้านเหรียญสหรัฐ
เวียคอม สื่อมีเดียยักษ์ใหญ่ของโลกสร้างเกมดนตรี "The Beatles: Rock Band" ผ่านแบรนด์เอ็มทีวีเกม โดยให้ค่ายอิเลคทรอนิคส์ อาร์ตทำหน้าที่ในการจัดจำหน่ายเกม และฮาร์โมนิกซ์ รับหน้าที่ในการพัฒนาเกม นอกจากรายจ่ายที่เวียคอมต้องให้กับทางอีเอและฮาร์โมนิกซ์แล้ว อีกหนึ่งรายจ่ายที่ต้องคำนึงก็คือเงินที่ต้องจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับผู้ถือครองลิขสิทธิ์เพลงของวงเดอะบีทเทิ้ล และผู้ถือครองลิขสิทธิ์ตัวละครเสมือนในเกม
จากข้อมูลรายงานในหนังสือพิมพ์ Los Angeles Times ที่อ้างอิงแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อ 3 คน ระบุว่า เวียคอมการันตีเม็ดเงินผลตอบแทนขั้นต่ำแก่เจ้าของลิขสิทธิ์เพลงและตัวละครในเกม "Beatles: Rock Band" อยู่ที่ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยหากเกมสามารถทำยอดขายได้อย่างงดงาม ผลตอบแทนที่ว่าจะขึ้นไปถึง 40 ล้านเหรียญสหรัฐ
เม็ดเงินผลตอบแทนส่วนใหญ่มาจากจำนวนเพลงในเกม The Beatles: Rock Band ที่มีทั้งหมด 45 เพลง โดยเพลงส่วนใหญ่ในเกมดนตรีตัวนี้อยู่ภายใต้ลิขสิทธิของ Sony/ATV Music Publishing ที่เป็นพันธมิตรร่วมทุนของโซนี่ นอกจากนั้นยังมีอีกสองค่ายเพลงที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงและตัวละครเสมือนจากวงเดอะบีทเทิ้ล ได้แก่ Corps (Paul McCartney และ Ringo Starr) และ EMI Music ( John Lennon และ George Harrison)
จากราคาต้นทุนการสร้างเกมที่ค่อนข้างสูง ทำให้เอ็มทีวีเกม วางแผนที่จะจำหน่ายเกมเป็นสองเวอร์ชั่น เวอร์ชั่นแรกขายเฉพาะเกมในราคา 60 เหรียญสหรัฐ ส่วนอีกเวอร์ชั่นจะมีราคาสูงอยู่ที่ 250 เหรียญสหรัฐ จะมีอุปกรณ์ดนตรี กีต้าร์ , เบส , กลอง เลียนแบบอุปกรณ์ของวงเดอะบีทเทิ้ล อย่างไรก็ตามล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีสัญญาณจากร้านค้าปลีกว่าแพคเกจเกมเดอะบีทเทิ้ลจะไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เนื่องจากร้านค้าปลีกมีการลิสเกมเวอร์ชั่น value edition เอาไว้ โดยเวอร์ชั่นนี้จะมาพร้อมกับอุปกรณ์เครื่องดนตรีมาตรฐานของเกมร็อกแบนด์ สนนราคาระหว่าง 140-160 เหรียญสหรัฐ สำหรับการทำแพคเกจเวอร์ชั่น Value ออกมานั้นมีข้อมูลจาก Times ระบุว่ามาจากการที่อุปกรณ์เครื่องดนตรีของเกมร็อกแบนด์มีอยู่ในสต๊อคมาก มีปัญหาในเรื่องการจำหน่ายออกไปเนื่องจากเกมแนวดนตรีมีความนิยมลดลง
"The Beatles: Rock Band" จะวางจำหน่ายในวันที่ 9 กันยายนนี้ ในอเมริกา , ออสเตรเลีย และยุโรป เกมจะออกวางจำหน่ายพร้อมกันบนเครื่อง วี , Xbox360 , เพลย์สเตชั่น 3 โดยจะไม่ลงเครื่องเพลย์สเตชั่น 2
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com