Rate CERO “A” สำหรับทุกเพศทุกวัย
ทันทีที่สิ้นเสียงประกาศว่าภาคต่อของเกมภาษาที่ขายดีที่สุดในแดนปลาดิบอย่าง "ดราก้อน เควสต์9" (Dragon Quest IX) จะมาลงเครื่องเล่นเกมมือถือหน้าจอเล็กๆนาม Nintendo DS หลายคนอาจจะแปลกใจ บางคนอาจรู้สึกผิดหวัง จนมีเสียงบ่นจากหลายเว็บไซต์ว่านี่เป็นการถอยหลังเข้าคลองของซีรีส์ หรือมีข้อสงสัยว่ามันจะสนุกเทียบเท่าเครื่องคอนโซลได้หรือ หากใครเป็นแฟนซีรีส์ดราก้อน เควสต์มานานคงจะพอทราบว่า ศักยภาพหรือความแรงของเครื่องไม่ใช่สิ่งจำเป็นของซีรีส์นี้ ส่วนสำคัญของดราก้อน เควสต์อยู่ที่ระบบการเล่นที่เรียบง่ายแต่สนุกมากกว่า ดังนั้นจึงต้องพิสูจน์ว่า ทางสแควร์ เอนิกซ์จะสามารถดึงเอาลูกเล่นของเครื่องเกม 2 หน้าจอมาใช้สร้างสรรค์ความสนุก และจะรักษาความคลาสสิกของซีรีส์นี้ได้หรือไม่
เมื่อเริ่มเกม สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจไม่น้อยก็คือ กราฟิกในเกมที่เป็นโพลิกอน 3D มุมมองจากทางด้านบนที่นอกจากจะเข้าใจง่ายแล้วยังงดงามเกิดคาด ทั้งพื้นผิว แสงสี ทำได้ดีมากรวมทั้งคัตซีนที่เป็นการ์ตูนคุณภาพสูงมากเช่นกัน ถ้าเทียบกับซีรีส์ รีเมคทั้งดราก้อน เควสต์ และไฟนอล แฟนตาซีที่ลง DS ก่อนหน้านี้ ดราก้อน เควสต์ 9 ทำได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ดนตรีประกอบที่ประพันธ์โดย "โคอิจิ ซุงิยามะ" ก็ยังสร้างสรรค์ได้ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม มีความดังชัดและมีคุณภาพดี ส่วนซาวด์ประกอบก็ยังคงความเป็นดราก้อน เควสต์ไว้อย่างครบถ้วนกระบวนความ โดยเนื้อเรื่องของภาคนี้ ว่าด้วยการค้นหารวบรวมผลไม้แห่งเทพธิดา ทั้ง 7 ลูกที่ตกลงไปยังโลกมนุษย์
ระบบเกมยังคงเป็นเกม Turn Base RPG แบบดั้งเดิมที่ยังคงความเป็นดราก้อน เควสต์ โดยจะใช้จอบนเป็นการดูแผนที่ และจอล่างเพื่อเล่น และเมื่อตัดเข้าฉากต่อสู้ จอบนจะเป็นฉากต่อสู้ ส่วนจอล่างจะเป็นการใส่คำสั่งผ่านเมนู ที่สำคัญไม่มีการยืนเรียงแถวเพื่อสลับไปตีแล้วเดินกลับมาเข้าแถวใหม่ ตัวละครมีการเคลื่อนไหวทำให้เกมดูมีสีสันกว่าเดิม และที่เปลี่ยนไปคือการที่เราได้เห็นศัตรูเป็นตัวๆเดินทั้งบนที่ และดันเจี้ยน ทุกตัวทำให้เราเลือกสู้และหลบหลีกได้ง่ายขึ้นโดยตัวเกมสามารถใช้ได้ทั้งทัชสกรีน และปุ่มบังคับแบบเดิมได้ ส่วนตัวคิดว่าใช้ปุ่มน่าจะดีกว่าเพราะเมนูนั้นตัวเล็กไปหน่อยทำให้จิ้มได้ลำบาก ส่วนการบังคับตัวละคร ใช้การจิ้มที่หน้าจอแล้วลากให้ตัวละครเดินไปตามทิศทางที่ต้องการ
ตัวเกมให้อิสระในการสร้างตัวละครได้เต็มที่ เรียกว่าเป็นครั้งแรกของซีรีส์ที่เราสามารถกำหนดได้ทุกอย่าง ทั้งเพศ ,รูปร่าง, หน้าตา และสีผิวทรงผม นอกจากนี้ ทุกอย่างที่เปลี่ยนแปลงทั้งอาวุธ , เสื้อผ้า , เกราะ รวมทั้งเครื่องประดับจะไปปรากฏอยู่ในเกมทั้งหมด ทำให้การสร้างตัวละครเป็นหนึ่งในสีสันของภาคนี้ที่สร้างความสนุกให้ผู้เล่นได้อย่างดีและแม้ว่าตัวละครดำเนินเนื้อเรื่องหลักๆจะมีตัวเอกเพียงตัวเดียว ตัวละครอื่นที่เราสร้างมาไม่มีบทบาทต่อเนื้อเรื่อง เรียกว่าตัวเกมเน้นการดำเนินเรื่องตามเหตุการณ์ในเกมโดยที่ตัวละครในกลุ่มไม่มีปฏิสัมพันธ์กัน แต่โดยรวมก็ไม่ได้ทำให้เกมเสียสมดุลเพราะเนื้อเรื่องในเกมก็ยังคงความน่าติดตามอยู่เช่นเดิม
ส่วนดันเจี้ยน และการออกแบบด่านก็ยังคงเป็นแบบ 3D มุมมองด้านบนเหมือนดราก้อน เควสต์ภาครีเมค แต่มุมกล้องเกมมีการปรับให้ดูหลายมุม และสามารถปรับเองได้เล็กน้อย โดยในบางจุดไม่สามารถปรับได้ ที่เหมือนจะน่าผิดหวังเล็กๆก็คือ ตัวดันเจี้ยนออกแบบมาสั้นเกินไปหน่อยสำหรับซีรีส์ดราก้อน เควสต์ คงเป็นเพราะผู้สร้างต้องการทำให้สั้นๆเพื่อให้เหมาะกับเครื่องมือถือที่มีเวลาเล่นไม่ยาวนานเท่าคอนโซล และสามารถพกพาไปไหนได้ ส่วนระดับความยากในเกมที่มีความสมดุล ไม่ยากเกินไปและก็ไม่ง่ายแน่ถ้าไม่รู้วิธีเล่น เพราะตัวเกมต้องใช้การวางแผนการเล่น รวมไปถึงการเลือกใช้คาถา ท่าไม้ตาย ที่ละเอียดรอบคอบ ถึงจะผ่านเหล่าบอสสุดโหดไปได้ แต่ถ้ามีประสบการณ์เคยเล่นดราก้อน เควสต์ มาก่อนก็จะผ่านไปไม่ยากนัก
ระบบที่โดดเด่นในเกม น่าจะเป็นระบบอาชีพ และสกิลที่มีการพัฒนาและผสมสานข้อดีจากหลายๆภาคมาไว้ด้วยกัน โดยสกิลที่ได้จากอาชีพต่างๆที่มีให้เลือกมากมาย สกิลแบบปกติที่ได้เมื่อเลเวลถึงที่กำหนด เช่น คาถาต่างๆ อันนี้เป็นสิ่งปกติที่ต้องมีในเกมภาษาอยู่แล้ว ส่วนที่พิเศษก็คือสกิลที่ได้จากอาวุธ และสกิลความสามารถตามสายอาชีพ โดยสกิลประเภทนี้จะได้จากการอัปค่า P ของสกิลเมื่อเลเวลขึ้น และสกิลพิเศษนี้จะคงอยู่ติดตัวตลอดแม้ว่าจะเปลี่ยนไปเล่นอาชีพอื่นแล้วก็ตามที ทำให้มีการผสมผสานความสามารถของแต่ละสายอาชีพมารวมกันได้ เช่นการให้อาชีพนักมวยสามารถใส่ดาบได้ เป็นต้น
เมื่อเราเปลี่ยนอาชีพใหม่แล้ว ตัวละครจะกลับไปเลเวล 1 อีกครั้ง ซึ่งหลายคนอาจจะบ่นว่าต้องมานั่งเก็บเลเวลกันใหม่ แต่มันส่งผลให้เราสามารถปั๊มสกิลสายต่างๆได้รวดเร็วมากขึ้น เพราะการกลับไปเริ่มใหม่ สามารถเพิ่มความสามารถต่างๆได้รวดเร็วเพราะเลเวลขึ้นเร็ว อันเป็นเรื่องที่ชาญฉลาดของผู้สร้าง แต่สำหรับอาชีพที่ปั๊มเลเวลไปแล้ว เลเวลก็ยังคงอยู่เท่าเดิมและสามารถสลับกลับไปเล่นต่อได้ ส่วนอาชีพชั้นสูงทั้งพาราดิน, แรนเจอร์, นักรบเวทมนตร์ หรือนักปราชญ์ ก็ไม่ได้มากันง่ายๆต้องทำเควสต์กันก่อนซึ่งในบางเควสต์อาจจะยุ่งยากกันเล็กน้อย
ส่วนหม้อผสมไอเท็มของภาคก่อนๆก็มีมาให้ พร้อมกับข้าวของอาวุธที่ราคายังคงโหดเช่นเดิมไม่เปลี่ยน นอกจากนี้ยังมีเควสต์ต่าง ๆให้เล่นกันอีกมากมายนับไม่ถ้วน เรียกว่ามีให้ทำกันจุใจ และของใหม่ที่เป็นจุดเด่นของภาคนี้คือระบบการเล่นหลายคน ที่เราสามารถเล่นกับเพื่อนได้ 4 คนผ่านระบบไวเลสไร้สาย โดยการเล่นเป็นการรับเควสต์สำรวจดันเจี้ยนกับเพื่อน ที่เราสามารถแยกกันเดินเพื่อสำรวจ และร่วมกันสู้เมื่อตัวละครอยู่ใกล้กัน โดยต่างคนต่างบังคับตัวละครของตน เสียดายที่ไม่สามารถออนไลน์เพื่อเล่นกับเพื่อนได้ แต่การที่ได้เล่นกับเพื่อนแบบเห็นหน้ากันอาจจะสร้างสัมพันธ์ได้ดีกว่า และไม่มีอุปสรรคในการติดต่อสื่อสารแบบการเล่นออนไลน์ ส่วนการออนไลน์มีไว้อัปเดทเควสต์ใหม่ๆที่ผู้สร้างสัญญาว่าจะมีทุกสัปดาห์ พร้อมทั้งร้านขายของออนไลน์ไว้ให้เราได้ซื้อของได้อีกด้วย และเกมยังมีระบบอีโมชั่น ที่จะทำให้ตัวละครเราแสดงท่าทางต่างๆ แม้ดูเหมือนจะไร้สาระแต่มันก็จำเป็นในการผ่านบางจุดของเกม
สรุปแล้วแม้เนื้อเรื่องหลักของตัวเกมจะสั้นไปนิด (ประมาณ 40 กว่า ชม. ) ทำให้เรายังไม่ทันดื่มด่ำกับความสนุกที่สมบูรณ์แบบเกมก็จบเสียแล้ว แต่ก็ยังมีเควสต์ย่อยให้เล่นอีกมากมาย และยังมีการอัปเดทผ่านทางอินเทอร์เน็ต รวมทั้งการได้เล่นกับเพื่อนๆนั้นทำให้สามารถเล่นได้เรื่อยๆ และยังเล่นได้หลายรอบเพื่อเล่นสายอาชีพ,สกิลที่แตกต่างในการเล่นได้อีกด้วย และสุดท้ายสำหรับคำถามว่าเกมนี้ยังน่าเล่นเทียบเท่า ภาคคอนโซลหรือไม่ คำตอบคือ ดราก้อน เควสต์9 ยังคงความสนุกที่เรียบง่าย คลาสสิกไม่เปลี่ยนแปลง และยังคงเสน่ห์ ของดราก้อน เควสต์ไว้ครบถ้วน แม้จะอยู่บนหน้าจอเล็กๆ เป็นการพิสูจน์ว่า ถ้าเกมดีอยู่บนเครื่องอะไรก็สร้างความสนุกให้กับผู้เล่นได้เช่นกัน
ข้อดี : ระบบการเล่นยังคงเยี่ยมเหมือนเดิม , การได้เล่นกับเพื่อนๆ
ข้อเสีย : เกมนี้อาจทำให้คุณ อดหลับอดนอนเล่นทั้งคืน, เนื้อเรื่องหลักสั้นไปนิด
แนะนำ : หาเพื่อนๆ ลุยดันเจี้ยน กัน
เกมการเล่น | 10 |
กราฟิก | 10 |
เสียง | 10 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 10 |
ความคุ้มค่า | สุดยอดเกมภาษา |
ภาพรวม | 10 |
Darth.Vader (วงศกร ปฐมชัยวัฒน์)
พบวิธีเล่นโดยละเอียด พร้อมการแปลสกิล และบทสรุปได้ที่นี่ www.thaids.com (คลิก)