น่าแปลกใจที่เกมออนไลน์ในบ้านเราส่วนใหญ่มักจะเป็นแคชวล ไม่ว่าจะเป็นแนวอาร์พีจี เกมเต้น เกมกีฬา หรือแม้แต่เกมเรซซิ่งก็ตาม โดยแนวหลังสุดแบบที่ไม่ใช่โกคาร์ทมีเปิดให้บริการเพียงแค่ 2 เกมเท่านั้น ทั้งๆที่เกมเรซซิ่งแบบจริงจังจะสนุกมากหากสามารถออนไลน์แข่งขันกันเป็นจำนวนหลายคน และหนึ่งในสองเกมนั้นคือ Drift Street เกมที่สามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
Drift Street มีเนื้อหาเกี่ยวกับการดูแลผลประโยชน์ด้านพลังงานชนิดใหม่ที่ชื่อว่า Mittron ภายในเกาะแห่งหนึ่ง รัฐบาลโลกได้ก่อตั้งองค์กรที่ชื่อว่า Organization of Mittron Development (OMD) เข้ามารับหน้าที่ดูแล แต่กลับมีกลุ่มรถยนต์ลึกลับ Hitech Unman Vechile (HUV) เข้ามาสร้างความวุ่นวาย จึงมีการรับสมัครนักขับรถยนต์ฝีมือดีเข้ามาปราบปราม
เมื่อสร้างตัวละครแล้ว ผู้เล่นจะเริ่มเกมพร้อมกับรถทดสอบหน้าตาคล้ายรถแท็กซี่ภายใน Driver Dome โดมขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางของเกม สามารถควบคุมรถด้วยการใช้ปุ่มทิศทางบนคีย์บอร์ด แต่ถ้าคุ้นเคยกับการเล่นเกมมุมมองบุคคลที่หนึ่งก็สามารถใช้ปุ่ม w , a , s , d ได้เช่นกัน ใช้ทักษะดริฟท์เวลาเข้าโค้งด้วยปุ่ม Shift และใช้บูสเตอร์เร่งความเร็วด้วยปุ่ม Ctrl ขีดบูสเตอร์จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแต่สามารถเร่งการเพิ่มได้ด้วยการทำคอมโบ และจะลดลงหากมีการชนเกิดขึ้น เปลี่ยนมุมกล้องให้มองจากในรถและนอกรถด้วยปุ่ม C มองด้านหลังรถด้วยปุ่ม X
เกมนี้ไม่มีการใช้ไอเท็มโจมตีผู้อื่น ไม่มีการสวมวิญญาณมาริโอ้กระโดดเก็บเหรียญ (มีบางเกมรถยนต์กระโดดเก็บเหรียญได้ ใครคิดเนี่ย !!) กราฟฟิกของเกมไม่ได้ถูกทำออกมาแบบสมจริง แต่เป็นลักษณะเหมือนการ์ตูนอนิเมชั่นซึ่งทำออกมาได้สวยงามและน่าเล่น ขณะที่เสียงดนตรีถือว่ายังไม่โดดเด่นแต่ผู้เล่นสามารถปรับแต่งได้ด้วยการนำเพลงที่ชื่นชอบมาใส่ไว้เอง
ภายใน Driver Dome ประกอบด้วย ร้านขายรถ (Dealer Shop) , ร้านขายไอเท็ม (Part Shop) , โรงรถ (My Garage) , โซนแข่งขัน (Battle Zone) , ศูนย์กลางคลับรถยนต์ (Club Center) , ศูนย์ประมูล (Auction House) รวมถึงทางออกสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าไปในเมือง
โซนแข่งขัน (Battle Zone) เป็นพื้นที่สำหรับผู้ที่ต้องการแข่งร่วมกับผู้เล่นอื่น มีห้องฝึกสอน (Tutorial) เมื่อผ่านการฝึกสอนจะได้รับรถยนต์ระดับ V1 (ผู้เล่นใหม่ควรเข้ารับการฝึกสอน) ในส่วนการแข่งขันจะแบ่งออกเป็นระดับตามเกรดของรถยนต์ ผู้เล่นสามารถตั้งห้องแข่งขันได้สูงสุด 16 คนพร้อมกัน ทั้งประเภทเดี่ยวและทีม สามารถทำการแข่งขันได้ทันทีที่ผู้แข่งขันพร้อมโดยไม่ต้องรอให้คนเต็ม ช่วยทำให้การแข่งขันต่อเนื่องและสนุกมากขึ้น ภายในสนามแข่งขันจะมีจุดเช็คพ็อยท์ที่เรียกว่า Gate คอยช่วยรถยนต์คันที่ตามหลัง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเพิ่มค่าบูสเตอร์ นอกจากนี้ยังมีรถของชาวบ้านทั่วไป (NPC) วิ่งอยู่บนถนน ทำให้การแข่งขันมีความท้าทายเพิ่มขึ้น ต้องคอยหลบหลีกให้ดีไม่อย่างนั้นนำอยู่ดีๆอาจชนรถบรรทุกที่จอดติดไฟแดงอยู่ตามสี่แยก (เป็นอุทาหรณ์ว่าไม่ควรแข่งรถยนต์บนถนนหลวง)
โรงรถ (My Garage) เป็นที่เก็บรถยนต์ของผู้เล่น มีพื้นที่จำกัดในการเก็บรถแต่สามารถซื้อไอเท็มเพื่อขยายความจุในการเก็บรถยนต์ได้ , ศูนย์ประมูล (Auction House) เป็นศูนย์กลางสำหรับผู้เล่นที่ต้องการซื้อขายรถยนต์ ไอเท็มและชิ้นส่วนต่างๆ , ร้านขายไอเท็ม (Part Shop) จุดขายไอเท็มหลายประเภท รวมถึงชิ้นส่วนที่เพิ่มความสามารถรถยนต์และยังปรับแต่งอะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆได้ที่นี่ ,ศูนย์กลางคลับรถยนต์ (Club Center) เป็นจุดที่ผู้เล่นสามารถมาสร้างคลับและจัดการรายละเอียดต่างๆ รวมถึงเข้าร่วมการแข่งขันประจำแชนแนลได้ , ร้านขายรถยนต์ (Dealer Shop) โชว์รูมรถเจ้าเดียวภายในเกม (รวยเละ !!) ปัจจุบันมีรถตั้งแต่ระดับ V1 - V6 ขายในร้าน (ระดับสูงสุดของเกมคือ V9) ถูกใจคันไหนสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ ถ้าตัวละครเลเวลสูงพอและมีเงิน ?!!?
นอกจากร้านขายไอเท็มภายใน Driver Dome ยังมีอีกร้านที่ชื่อว่า Drift Shop ขายอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ให้สวยงาม อีกทั้งยังเพิ่มความสามารถให้กับรถยนต์ด้วย ใช้ค่าเงินในเกมและเงินที่ได้จากการเติมเงินจริงเพื่อซื้อไอเท็มร้านนี้ ผู้เล่นสามารถเข้าร้านได้ด้วยการกดปุ่ม F4 (อุปกรณ์ในร้านนี้ดูดีไม่มีของแปลกๆอย่างลูกโป่งบนหลังคารถ นับว่าทีมออกแบบมีรสนิยมที่ค่อนข้างดีพอสมควร)
เมื่อออกจากโดมเพื่อเข้าไปในเมือง ผู้เล่นจะโผล่มาที่สถานี (Station) ภายในสถานีผู้เล่นจะสามารถเติมน้ำมันให้กับรถยนต์ได้ รวมถึงรับภารกิจหลัก (Mission) ซึ่งถูกมอบหมายจากรัฐบาล OMD ภารกิจในส่วนนี้จะเกี่ยวพันกับเนื้อเรื่องของเกม การทำภารกิจหลักได้รับค่าตอบแทนจำนวนมากและช่วยให้ผู้เล่นพัฒนาไปสู่สถานีระดับสูงขึ้น รวมถึงได้รับอนุมัติให้ไปยังเมืองอื่นๆ ภารกิจส่วนใหญ่จะต้องแข่งขันกับเวลา สามารถทำได้เรื่อยๆจนกว่าจะผ่าน (กรณีที่ไม่ผ่านหากทำต่อจะได้รับเวลาเพิ่มทำให้ง่ายขึ้น) , ภารกิจส่งของ (Daily Mission) ได้รับมอบหมายจากบริษัทเอกชนที่มีสายสัมพันธ์กับรัฐบาล OMD ภารกิจส่งของได้รับค่าตอบแทนน้อย แต่สามารถทำซ้ำได้เรื่อยๆ
เมื่ออยู่ภายในเมือง (นอกสถานี) จะมีลูกศรนำทางช่วยให้ไม่หลงทางเวลาทำภารกิจ มีรถชาวบ้าน (NPC) วิ่งอยู่ทั่วไป สามารถทำคอมโบเพื่อรับไอเท็มและเร่งการเพิ่มค่าบูสเตอร์ได้ด้วยวิธีขับรถยนต์แบบเสี่ยงตาย อาทิ วิ่งสวนเลน , ขับปาดหน้ารถคันอื่น , ดริฟท์ , ขับรถขึ้นแท่นกระโดด นอกจากนี้ระหว่างที่ขับรถยังรับภารกิจเร่งด่วนได้จากโอเปอเรเตอร์โดยไม่ต้องเข้าสถานี (การขับเสี่ยงตายและรับโทรศัพท์ระหว่างขับไม่ควรทำในชีวิตจริง) อีกทั้งยังมีภารกิจลาดตระเวนที่ต้องวิ่งสำรวจเส้นทางให้ทั่วเมือง (จุดรับภารกิจจะเป็นแสงสีเหลือง) และภารกิจประจำวันเล็กๆน้อยๆ ซึ่งจะได้รับทันทีที่เข้าเล่นเกม
การโจมตีเพียงอย่างเดียวของเกมนี้คือการชน เมื่อผู้เล่นรับภารกิจจัดการกับรถยนต์ HUV จำเป็นจะต้องใช้วิธีชนให้รถศัตรูพังภายในเวลาที่กำหนด ภารกิจขับรถไล่ล่าลักษณะนี้ถือว่าทำได้ดีและสนุก นอกจากนี้ยังมีช่วงเวลา Rush Time ให้ไล่ล่าบอสที่เป็นรถขนาดใหญ่ อาทิ รถขยะ , รถบรรทุก , รถตักดิน , รถหุ้มเกราะ (มาได้ไงเนี่ย !!) สามารถเข้าร่วมได้ด้วยการไปยังจุด Rush Time เมื่อมีการประกาศ (สัญลักษณ์ R บนแผนที่) โดยในส่วนของการไล่ล่าบอสจะได้รับไอเท็มชิ้นส่วนรถยนต์ทุกครั้งที่ชน (ไม่จำเป็นจะต้องทำลาย แค่ชนก็ได้รับไอเท็ม) ทำให้ได้รับความนิยมจากผู้เล่นพอสมควร (นอกจากไล่ล่าบอสยังต้องคอยหลบหลีกรถยนต์คันอื่นๆที่วิ่งตามกันเป็นขบวน บางครั้งต้องวางแผนคำนวณเส้นทางขับไปดักหน้าบอส)
โดยรวมถือว่าเกมนี้สนุกและเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน ติดลมไม่รู้ตัวเลยทีเดียว ผู้ที่ชื่นชอบเกมแนวแข่งรถยนต์ควรจะลองเล่นดูซักครั้งหนึ่ง ด้วยกราฟิกแบบการ์ตูนอนิเมชั่นที่สวยงาม ดนตรีและเสียงประกอบอื่นๆภายในเกมที่อาจจะไม่โดดเด่นแต่ก็สามารถปรับแต่งได้ รวมถึงรถยนต์ที่ถอดแบบมาจากรถยนต์ที่มีชื่อเสียงหลายรุ่น น่าจะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้เล่นได้เป็นอย่างดี
เกมการเล่น | 8 |
กราฟิก | 7 |
เสียง | 6 |
การควบคุม | 7 |
ความคุ้มค่า | สนุกกว่าที่คิดเอาไว้ |
ภาพรวม | 7 |
*หมายเหตุ*
บทความนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณ
พรศักดิ์ เมฆชมภู