"สแควร์ เอนิกซ์" เผยผลประกอบการปีงบประมาณล่าสุด ทั้งยอดขายและรายได้จากการดำเนินงานหดตัว ส่วนซอฟต์แวร์เกมที่ทำยอดขายสูงสุดคือ Dragon Quest V ตามมาด้วย FF : Dissidia , FF : Crisis Core , Chrono Trigger , The Last Remnant ตามลำดับ
บริษัท สแควร์ เอนิกซ์ โฮลดิ้ง เปิดเผยรายงานผลประกอบการปีงบประมาณสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม ค.ศ.2008 ระบุว่า บริษัทมียอดขาย 135,693 ล้านเยน ลดลง 8 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำไว้ 147,546 ล้านเยน ด้านรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 12,277 ล้านเยน ลดลง 42.9 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่รายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 6,333 ล้านเยน ลดลง 31.1 เปอร์เซ็นต์
5 อันดับแรกของซอฟต์แวร์เกมของบริษัทที่ทำยอดขายมากที่สุดในรอบปีงบประมาณคือ Dragon Quest V (DS) ขายไปทั้งสิ้น 1.35 ล้านชุด ตามมาด้วยเกม Final Fantasy : Dissidia (PSP) ขายไป 930,000 ชุด , Final Fantasy : Crisis Core (PSP) ขายไป 840,000 ชุด , Chrono Trigger (DS) ขายไป 790,000 ชุด , The Last Remnant (Xbox360,PC) ขายไป 580,000 ชุด
ถึงแม้ว่าผลประกอบการจะมีการหดตัวในช่วงปีที่ผ่านมาแต่บริษัทสแควร์ เอนิกซ์ โฮลดิ้ง คาดการณ์ว่า การวางจำหน่ายเกมฟอร์มยักษ์อย่าง Final Fantasy XIII และ Dragon Quest IX จะทำให้ผลประกอบการปีหน้าจะมียอดขายอยู่ที่ 180,000 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 32.7 เปอร์เซ็นต์ ส่วนรายได้จากการดำเนินงานจะอยู่ที่ 25,000 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 103.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่รายได้สุทธิจะอยู่ที่ 15,000 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 136.8 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ภายหลังการรายงานผลประกอบการ ราคาหุ้นของ "สแควร์ เอนิกซ์" ก็ได้เพิ่มขึ้นสูงสุดป็นสถิติของบริษัทนับตั้งแต่ปี ค.ศ.2003 โดยมีการคาดการณ์ว่าน่าจะได้รับผลกระทบจากการเข้าซื้อหุ้นกิจการ Eidos ซึ่งมีเกมอย่าง Batman และ Kane and Lynch 2 ที่เชื่อว่าสามารถทำยอดขายได้เกินล้านชุด และน่าจะทำให้ยอดขายนอกประเทศญี่ปุ่นของ"สแควร์ เอนิกส์" เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกันกับ Taito บริษัทลูกอีกแห่งของ "สแควร์ เอนิกซ์" ที่เปิดศูนย์เกมอาเขตเพิ่มขึ้นประมาณ 10-20 แห่ง และน่าจะส่งผลดีต่อ "สแควร์ เอนิกซ์"
ข้อมูลจาก
รายงานผลประกอบการสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค. 2009
Gamasutra
Kotaku