ผลสำรวจชี้ ผู้ใช้ "ไอโฟน-PSP" ซื้อเกมมาเล่นมากที่สุด

ผลสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมของเกมเมอร์ชิ้นล่าสุดเปิดเผยออกมาในงาน "MI6 Games Marketing Conference" ระบุว่าในปี 2008 ผู้ใช้ไอโฟนซื้อเกมมาเล่นมากที่สุดเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มเกมตัวอื่น ทางด้านผู้ใช้เครื่องเกมพกพา PSP ซื้อเกมมือสองมาเล่นมากที่สุด

งานประชุมด้านการตลาดในอุตสาหกรรมเกม "MI6 Games Marketing Conference" จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในซานฟรานซิสโกเมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา เนื้อหาส่วนใหญ่ในงานประชุมจะเป็นบรรดาผู้จำหน่ายเกมที่จะมารวมตัวกันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการตลาดในวงการเกม และเพื่อให้งานนี้มีความน่าสนใจมากขึ้น ทางผู้จัดงานได้เปิดเผยผลสำรวจที่น่าสนใจหลายชิ้นเกี่ยวกับพฤติกรรมของเกมเมอร์

ในบรรดาผลสำรวจหลายชิ้น มีงานอยู่ชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งพบว่า "ไอโฟน" เป็นอุปกรณ์ที่สร้างโอกาสในตลาดวิดีโอเกมได้มากที่สุด จากปัจจัยสนับสนุนหลายอย่าง ผลสำรวจพบว่าผู้ที่มีโทรศัพท์มือถือไอโฟน จะใช้เวลาในการเล่นเกมมากกว่าผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถืออย่างอื่น นอกจากนั้นกลุ่มผู้ใช้ไอโฟนยังเป็นกลุ่มผู้เล่นเกมที่เติบโตรวดเร็วที่สุดอีกด้วย

ปัจจัยสำคัญที่สุดที่สนับสนุนให้ไอโฟนสร้างโอกาสได้ดีที่สุดในตลาดวิดีโอ คือเจ้าของเครื่องไอโฟนจะมีพฤติกรรมซื้อเกมมาเล่นมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องเกมทุกแพลตฟอร์ม ระยะเวลา 12 เดือนในปี 2008 ผู้ใช้ไอโฟนซื้อเกมใหม่ไปเล่นเฉลี่ย 4.57 เกม มากกว่าแพลตฟอร์มเกมอื่นทุกชนิด เจ้าของเครื่องเกมพกพา PSP ตามมาเป็นอันดับสอง ด้วยอัตราเฉลี่ย 4.12 เกม ตามด้วยเจ้าของเครื่องเพลย์สเตชั่น 3 ด้วยอัตราซื้อเกมใหม่เฉลี่ย 3.99 เกม อันดับสี่เป็นเจ้าของเครื่อง Palm PDA ด้วยอัตราเฉลี่ย 3.70 เกม , Xbox360 อัตราเฉลี่ย 3.55 เกม , วี อัตราเฉลี่ย 3.44 เกม และ DS อัตราเฉลี่ย 3.39 เกม

ทางด้านตลาดเกมมือสองจะแตกต่างกันเล็กน้อย ระยะเวลา 12 เดือนในปี 2008 เจ้าของเครื่องเกมพกพา PSP ซื้อเกมมือสองมาเล่นมากที่สุดด้วยอัตราเฉลี่ย 2.71 เกม ตามด้วยเจ้าของเครื่องเพลย์สเตชั่น 3 ด้วยอัตราเฉลี่ย 2.54 เกม , ไอโฟน อัตราเฉลี่ย 2.33 เกม , Xbox360 อัตราเฉลี่ย 2.15 เกม ปิดท้ายด้วย DS และ Palm PDAs ที่มีอัตราเฉลี่ยเท่ากันที่ 2.01 เกม

ผลสำรวจยังได้สอบถามเกี่ยวกับปัจจัยในการตัดสินใจซื้อเกม โดยเรียงลำดับความสำคัญจากตัวเลข 1 ไป 5 ปรากฏว่า ราคาที่เหมาะสม เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการตัดสินใจซื้อเกม คิดเป็น 72 เปอร์เซนต์ของกลุ่มตัวอย่าง ให้ปัจจัยเรื่องราคามีความสำคัญอยู่ในตัวเลขลำดับ 4 หรือ 5 การเล่นเดโมเกมตามมาเป็นปัจจัยลำดับที่สอง คิดเป็น 62 เปอร์เซนต์ของกลุ่มตัวอย่าง

แพคเกจบรรจุภัณฑ์ของเกมก็มีส่วนในการตัดสินใจซื้อเกมคิดเป็น 50 เปอร์เซนต์ของกลุ่มตัวอย่าง การตัดสินใจซื้อเกมผ่านการตรวจสอบข้อมูลรีวิวเกมบนเว็บไซต์คิดเป็น 42 เปอร์เซนต์ของกลุ่มตัวอย่าง การเช่าเกมคิดเป็น 39 เปอร์เซนต์ มีคอนเท้นต์ให้ดาวน์โหลดหลังเกมวางจำหน่ายคิดเป็น 32 เปอรเซนต์ และมีฟีเจอร์ออนไลน์มัลติเพลเยอร์คิดเป็น 27 เปอร์เซนต์

การสำรวจครั้งนี้เป็น E-Poll ที่กระทำผ่านระบบออนไลนในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลุ่มตัวอย่างเป็นเกมเมอร์กว่า 1,000 คน

ข้อมูลและภาพประกอบจาก
www.gamespot.com