และแล้ว Ensemble Studios ผู้มีผลงานโด่งดังจากเกมในซีรีส์ Age of Empires ก็ปิดตัวลง เราจะไปเยือนพวกเขาครั้งสุดท้ายเพื่อเป็นการอำลา ทิศทางของสตูดิโอแห่งนี้จะเป็นอย่างไร เราไปติดตามกันครับ
วันนี้ Ensemble Studios ปิดตัวลง ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาทำผลงานได้ย่ำแย่เหมือนที่สตูดิโออื่นเป็นกัน แต่ด้วยเหตุที่เพราะพวกเขาสร้างความสำเร็จอย่างมากในอุตสาหกรรมเกม ซอฟต์แวร์ภายใต้ชื่อ Age of Empires ซีรีส์ขายได้ถึง 20 ล้านชุดและประสบความสำเร็จอย่างสูง เกม Halo Wars ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายที่พวกเขาได้สร้างสรรค์ก็สำเร็จไปด้วยดีและกำลังจะวางจำหน่ายในไม่ช้านี้
เมื่อสามปีก่อนเราได้มาเยือนสตูดิโอแห่งนี้ ผมได้บอกกับคุณ Tony Goodman ซึ่งเป็นผู้บริหารว่าเขาทำงานได้ยอดเยี่ยมมาก เขาหยุดและก็บอกว่า"ผมมีความเชื่อตั้งแต่แรกเริ่มแล้วว่า ภารกิจของบริษัทเราคือสร้างสถานที่ซึ่งยอดเยี่ยมสำหรับทำงานและจากนั้นก็ทำเกมที่ยอดเยี่ยมออกมาด้วย"
เมื่อสองอาทิตย์ก่อนเราได้กลับไปที่ Dallas เพื่อทัวร์ Ensemble Studios เป็นครั้งสุดท้าย ทุกอย่างยังอยู่ในความทรงจำ ความมืดที่ครอบคลุมชั้น 15 และลิฟต์สำหรับขึ้นไปยังชั้น 16 ผมยืนที่ห้องรับแขกมองไปยังห้องเซิร์ฟเวอร์ เห็นรูปปกเกมขนาดใหญ่ที่เรียงรายอยู่บนผนังพร้อมลายเซ็นของคนที่ออกแบบ
เราได้รับการต้อนรับจากดีไซเนอร์ซึ่งผมไม่ได้เห็นเขาตั้งแต่หลังจากงาน E3 และเขาก็ได้เป็นไกด์พาทัวร์ Ensemble Studios ทั้งสามชั้น
ไปที่โต๊ะทำงานของดีไซเนอร์ชื่อ Jeff Brown เราได้พูดคุยกับเขาและเพื่อนผู้ร่วมงาน แล้วเขาก็หยิบผลงานล่าสุดตลอดแปดปีที่ได้ทำงานที่สตูดิโอแห่งนี้ขึ้นมา มันสุดยอดมากและมันก็ดูน่าหดหู่มากสำหรับความรู้สึกในตอนนี้
เขาชี้ไปยังผู้ร่วมงานฝั่งตรงข้าม "มันคืองานในฝันของพวกเขา" ผู้ร่วมงานคนนั้นทำงานร่วมกับผู้พัฒนาอื่นๆใน Dallas แต่ก็พบว่า Ensemble เป็นที่เดียวซึ่งจัดการได้ดีที่สุด และเขาก็เป็นแฟนของเกม Halo และมีความสุขกับการทำงานให้กับแฟรนไชส์นี้
Jeff Brown ยังบอกอีกว่า"เราก็ได้เห็นสิ่งดีๆหลายอย่างจากตรงนี้" อีกสิ่งหนึ่งก็คือทีมงานได้รับค่าทำขวัญพิเศษจากบริษัทไมโครซอฟท์ และทีมงานบางคนก็คงจะต้องการเวลาพักผ่อนสักระยะ
โปรแกรมเมอร์สองคนได้ย้ายไปทำงานเกมบนเครื่อง iPhone และอีกครึ่งหนึ่งของสตูดิโอก็คงจะตาม Tony Goodman ไปยังบริษัทใหม่
ทุกคนรู้จักเกมหลายเกมที่ Ensemble Studios ได้พัฒนา แต่ก็มีอีกหลายเกมที่อยู่ในการพัฒนาและไม่ได้สำเร็จออกมาให้เราเห็นกัน สตูดิโอได้ทำเกมต้นแบบและเกมที่ดูดีก็จะถูกเลือกขึ้นมาและส่งไปให้บริษัทไมโครซอฟท์
ในนั้นมีเกมแฟนตาซีผจญภัยแบบอาร์พีจีที่ชื่อว่า Sorcerer, เกมชื่อ Nova ที่มีสไตร์การเล่นแบบ Diablo ในยุคอวกาศ, เกมโจรสลัดในสไตร์การเล่นแบบ Diablo, เกมชื่อว่า Wrench, เกมที่มีการเล่นแบบเกม Ratchet & Clank ที่ชื่อว่า Bam
ที่เราได้เห็นรายละเอียดมากที่สุดก็คือเกมที่ชื่อว่า Agent งานศิลป์ในเกมได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์อนิเมชันเรื่อง The Incredibles ของ Pixar และจะใช้ลักษณะการเล่นแบบ Tomb Raider ซึ่งดูจากงานออกแบบแล้วก็เห็นได้ว่าเกมน่าจะมีความพิเศษและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะอย่างมาก
อีกเกมหนึ่งออกแบบโดย Graeme Devine ชื่อว่าเกม Phoenix เกมวางแผนที่เป็นการต่อสู้ระหว่างโลกกับมนุษย์ต่างดาวปะทะกันในแบบของภาพยนตร์เรื่อง War of the Worlds โลกของเกมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและมันก็อาจจะเปลี่ยนแปลงกลายเป็นสิ่งอื่นที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงอย่าง Halo Wars
แล้วบริษัทก็ได้วางแผนที่จะทำ Halo MMO ซึ่งเริ่มต้นในปี 1998 หลังจาก Ultima Online โดยดีไซเนอร์ชื่อว่า Ian Fischer เป็นผู้เริ่มต้นและหลังจากนั้นการพัฒนาก็เริ่มจากโปรเจคชื่อว่า Titan
การออกแบบกระจายไปอย่างหลากหลายแล้วจากนั้นก็เริ่มประสานงานกับ Bungie Studios แล้วลิขสิทธิ์ของเกมก็ถูกนำมารวมกัน ต่อมาจึงมาเป็นโค๊ตแนมชื่อว่า Orion เนื้อเรื่องในเกมเป็นความคิดของ Joe Staten ผู้ซึ่งวางเนื้อเรื่องจากเกมภาคหนึ่งและสอง
ทุกคนใน Ensemble Studios ชื่อว่าเกมออนไลน์ตัวนี้คือเป้าหมายใหม่ งานเริ่มขึ้นในสถานที่แห่งใหม่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้และรองรับผู้พัฒนางานเกมออนไลน์ แล้ววันหนึ่งงานก็หยุดลง และไมโครซอฟท์ก็บอกว่าสตูดิโอแห่งนี้จะถูกปิด
ขณะที่เราทัวร์สตูดิโออยู่ก็รู้สึกได้ว่าทุกคนกำลังเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงอำลากันที่ North Dallas beer garden พวกเขารู้ว่าเขาได้สร้างเกมที่ยอดเยี่ยม และผมก็ได้บอกกันพวกเขาให้ลองย้อนกลับไปเล่นเกมเก่าๆและพูดคุยเกี่ยวกับการออกแบบทั้งหมดอีกครั้ง ความคิดในอดีตก่อเกิดความคิดใหม่สำหรับอนาคตได้
ผมได้ถามผู้อำนวยการสร้าง Harter Ryan เกี่ยวกับความเกี่ยวดองกับไมโครซอฟท์ ในเรื่องของการซื้อตัวผู้พัฒนาก่อนที่จะเข้าสู่ธุรกิจเกมคอนโซล เขานึกถึงตอนสร้างเกมตัวอย่างสำหรับเครื่อง Xbox พร้อมกับบอกว่า ไมโครซอฟท์ต้องการเน้นไปที่เครื่อง Xbox แน่นอน
Halo Wars เป็นเกมสุดท้ายของสตูดิโอเรา บนเครื่อง Xbox 360 ซึ่งออกแบบโดย Graeme Devine และได้ใส่สิ่งใหม่ที่ยอดเยี่ยมหลายอย่างลงไป ซึ่งไม่ต้องห่วงเรื่องเทคนิคในการเล่น
ผู้พัฒนาท่านหนึ่งบอกกับผมว่าจะกลับไปยัง Redmond เพื่อดูแลเซิร์ฟเวอร์และให้โหมดผู้เล่นหลายคนซึ่งเป็นมรดกจากเกมของ Ensemble Studios ได้รับการบำรุงรักษา
ผมได้รู้จักกับ Angelo Laudon หัวหน้าโปรแกรมเมอร์ เขาเป็นพนักงานคนที่สองของสตูดิโอเขาทำงานร่วมกับ Tony Goodman ก่อนจะทำ Ensemble Studios พวกเขาคุยกันว่าจะทำอะไรดี และก็ตัดสินใจกันว่าจะทำเกม
Angelo Laudon บอกว่าเรื่องที่น่าท้าทายมากว่าการทำเกมอันดับแรกซะอีกก็คือ"บริษัทอยู่รอดหรือเปล่า" แล้วเกมแรกของเขาก็ประสพความสำเร็จได้อย่างน่าอัศจรรย์ "แล้วเราก็นึกถึงเกมที่สอง ซึ่งมันน่าจะดีแน่เลย"เขากล่าว "และมันก็จะต้องดีกว่าที่ทุกคนคาดคิดไว้เสียอีก" แล้วในตอนท้าย Age of Empires ก็หลายเป็นตำนาน เป็นซีรีส์ที่ขายได้ถึง 20 ล้านชุด
ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำแฟรนไชส์พันล้านได้ ก่อนที่จะกล่าวคำอำลา ผมรู้ว่าพนักงานทุกคนของ Ensemble Studios จะยังคงจดจำเวลาที่ได้ทำงานที่สตูดิโอแห่งนี้ ผมยังจำที่ Tony Goodman กล่าวไว้ว่า "ทุกคนบอกว่าเกมที่ยอดเยี่ยมคือภารกิจของพวกเขา"
ต้องกล่าวคำอำลากันเสียที สุดท้ายผมก็ยังเชื่อว่า Ensemble Studios นั้นได้ประสพความสำเร็จเรียบร้อยแล้ว จากคำกล่าวที่ว่า "สร้างสถานที่ซึ่งยอดเยี่ยมสำหรับทำงานและจากนั้นก็ทำเกมที่ยอดเยี่ยมออกมาด้วย" เราคงจะได้เห็นผลงานของพวกเขาอีกในอนาคต แต่อาจจะไม่ใช่ในชื่อของ Ensemble Studios อีกต่อไป
ทิ้งท้ายกันด้วยงานออกแบบที่หลงเหลือของ Ensemble Studios ลองชมกันได้ครับ
ข้อมูลจาก
http://www.gamasutra.com/
