xs
xsm
sm
md
lg

"ใครว่าหนูไม่เคยลำบาก" ความจริง จาก "แพรวา พงศธร"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แพรวา พงศธร
ออกตัวว่าไม่ใช่คนที่มีชีวิตน่าสนใจกับเราตั้งแต่แรกเจอ สำหรับสาวสวย ที่เธอไม่อยากให้เรียกว่า “ไฮโซ” แต่รู้กันดีว่าสาวน้อยวัย 29 คนนี้เป็นที่รู้จักแล้วในสังคมไฮโซ หรือแวดวงเซเลบริตี้ทั้งหลาย วันนี้ M - open มีโอกาสพูดคุยกับ “แพรวา พงศธร” ลูกสาวคนโตในจำนวนพี่น้อง 2 คน ของวินัยและกรองกาญจน์ พงศธร (บก.นิตยสารเพื่อนเดินทาง) หนึ่งในผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ความงามของเครื่องสำอางยี่ห้อดัง

หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตากับงานภาพนิ่ง และภาพยนตร์โฆษณาของเธอ แต่สำหรับสื่อจะมาสัมภาษณ์แบบยาวๆ เธอบอกว่าส่วนใหญ่จะขอปฏิเสธ เพราะด้วยชีวิตสำหรับเธอนั้นไม่ได้มีอะไรน่าสนใจ แต่เราไม่คิดแบบนั้น ด้วยรูปร่างหน้าตา หน้าที่ และความน่ารักบางอย่างของเธอ (ที่ผู้คนเดินไปมาเข้ามาขอถ่ายภาพร่วมกับเธอ) ทำให้เราสัมผัสบางอย่างในตัวเธอไม่น้อย

"ให้แพรถ่ายรูปเป็นงานๆไป ได้เงินเนี่ยโอเค (หัวเราะ) คุยไม่เก่ง จะเข้าวงการมาเต็มตัวไม่ไหวค่ะ เคยออกทีวีนานมากแล้วตอนเด็กๆตอนเอ็นท์ติด เขามาสัมภาษณ์เรื่องวิธีการเอ็นท์ แล้วสรุปแล้วของเราผลตอบรับมันไม่ใช่ประเด็นที่น่าสนใจ ยังมีครอบครัว ที่เก่งกว่าเราตั้งเยอะ ปากกัดตีนถีบ เป็นบุคคลตัวอย่างมากกว่าเราตั้งเยอะ มีคนพูดถึงเราแบบนั้น เขาบอกมันมีคนที่น่าสนใจกว่า” ...สาวแพรบอกกับเราถึงการออกทีวีในอดีตของเธอ

เมื่อเรียนจบจากอักษรฯ จุฬาฯ มุ่งหน้าต่อปริญญาโทด้านการบริหารการตลาดที่ประเทศอังกฤษ ก่อนที่จะกลับมารับหน้าที่ Assistant Brand Manager ของบริษัท คลับ 21 (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งผลิตและนำเข้าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหลายแบรนด์ ด้วยความสามารถด้านการตลาดเบื้องแรกไม่มีเลยทำให้แพรวาบอกกับเราว่าไปเรียนอังกฤษครั้งแรกเธอสอบตกทันที แต่จนแล้วจนรอดเธอพยายามและตั้งใจจนสำเร็จ

"ตอนนี้ดูแลหลายแบรนด์ทีเดียวค่ะ ดูทุกอย่างของแบรนด์สินค้า พนักงาน มาร์เก็ตติ้ง ภาพรวมทั้งหมด จบอักษรฯ มา แล้วไปเรียนต่อด้านการตลาดที่อังกฤษ กลับมาก็ทำอันนี้เลย วิชามาร์เกตติ้งตกเลยนะคะ (หัวเราะ) ได้ 49 ไม่ถนัด เราจับทางไม่ได้ เราเรียนอักษรฯเรามาอีกแบบหนึ่งเลย สมมติให้เขียนเรียงความหรืออะไรอย่างหนึ่งเราต้องรู้ด้วยว่ามันมาจากไหน จะมาใช้ความคิดเรา ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ วิชาแรกก็ตกไปเลย หลังๆเราก็ปรับตัว พอมาเรียนจบแล้วจริงๆมันคนละอารมณ์กัน อักษรฯมันมีอารมณ์แบบเรามีความสุขคนเดียว แต่พอมาเป็นมาร์เก็ตติ้ง นอกจากเรามีความสำเร็จ นอกจากเรามีความสุขแล้วยังทำให้คนอื่นมีความสุขด้วย คือแบรนด์มีความสุข คนทำงานด้วยมีความสุข ทำให้ผู้ใช้มีความสุขมากกว่า"

เธอบอกว่าแม้เส้นทางการทำงานของเธอจะไม่ได้เครียด เพราะทำงานอยู่กับเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายที่เธอชอบ แต่ไม่ได้หมายความว่า ทุกอย่างได้มาง่ายเหมือนที่หลายคนเข้าใจในตัวเธอ

“งานแพรไม่ได้เครียด มันคืออยู่กับเสื้อผ้า อาจมีหนักในช่วงที่ทำรีพอร์ต แต่แพรชอบ ไม่ได้กดดันอะไร สนุกมาก ลำบากมั้ย ลำบากที่คนไม่เห็นว่าแพรลำบาก ตอนนั้นเผอิญที่ออฟฟิศมีตำแหน่งเปิดว่างแล้วมีคนมาสมัคร แพรสัมภาษณ์ 4 รอบกว่าจะได้ เพราะเขาไม่คิดว่าเราทำได้ มีครั้งหนึ่งคนโทร.กับมาหาเพื่อนแพร ถามว่ามีใครรู้จักคนในคลับ 21 มั้ย เขาก็บอกมี แพรไง คนคนนั้นเขาบอกว่า โอ๊ยฉันไม่ถามหรอกแพรวา เพราะว่าชีวิตเขาวันๆจะทำอะไร อยู่เฉยๆ บางทีมันก็รู้สึกง่อยนะ คือแบบว่าชีวิตแพรทำอะไรมาด้วยตัวเองเสมอ อาจไม่ทั้งหมด แต่ว่ามันดูเหมือนไม่ใช่ จริงๆใช้ชีวิตปกติเหมือนคนอื่นทุกอย่าง สมัครงานเองสัมภาษณ์เอง คือแบบมันดูเหมือนว่าไม่เป็นแบบนั้นเลย”

หนักใจมั้ย? เธอตอบเราทันทีว่าพร้อมพิสูจน์ตัวเองเสมอ... "มันก็ต้องทำให้เห็นมากกว่าแพรว่านะ มันอาจจะเสียใจมั้ย เสียใจ แต่ว่ารุ่งขึ้นมันก็หาย เราก็ต้องคิดว่าว่าเราจะทำให้คนไม่คิดแบบนั้น"

วนเวียนอยู่กับแวดวงแฟชั่น การแต่งตัว และการขายเสื้อผ้า แม้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ฟื้นตัวมากมายนัก แพรวาบอกเราว่ายอมรับยอดลดลงบ้างตามภาวะเศรษฐกิจ แต่สำหรับเธอแล้ว เธอมองว่าคนไทยแต่งตัวสวยไม่แพ้ชาติอื่น
"แพรคิดว่าคนไทยแต่งตัวสวยนะ ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย แพรว่าทุกคนใส่ใจตัวเองมากขึ้น สำหรับแพรก็ระดับหนึ่งนะคะ ก็คงจะมีบางวันเสาร์-อาทิตย์ไม่ค่อยแต่ง จริงๆการแต่งตัวมันคือภาพลักษณ์ของเราด้วย เราอาจจะไม่ต้องเนี้ยบตลอดเวลา ให้มันถูกต้อง ไปที่ไหนก็ให้ความเคารพสถานที่ ถ้าอยู่บ้านเฉยๆก็โอเค"

"ส่วนจะแต่งแนวไหนนี่มันแล้วแต่อารมณ์มากกว่า แพรไม่ใช่คนเปรี้ยว เวลาจะใส่อะไรอาจต้องดูรูปร่างนิดหนึ่งเพราะว่า ไม่ได้ใส่ได้ทุกอย่าง ไม่ใช่เป็นคนตัวสูง ถ้าจะให้พิถีพิถันจริงๆ คงเน้นไปในเรื่องของทรง และแบบมากกว่า ไม่ใช่ว่าชุดนั้นสวยฉันก็จะใส่ บางทีมันก็ใส่ไม่ได้ บางทีมันเปรี้ยวและเปิดเผยมากก็ไม่ได้ แต่ก็อาจจะมีบางวันที่อยากใส่สายเดี่ยว กางเกงยีนส์อะไรก็มี ส่วนใหญ่แพรจะเป็นคนชอบผ้าลูกไม้ ใส่อะไรมีลาย"

คนที่คอยติติงแบบตรงๆในการแต่งกายของเธอคือน้องชายของเธอนั่นเอง
"ส่วนใหญ่เสื้อผ้าแพรชอบดูเอง ชอบช็อปปิงคนเดียวเสียส่วนใหญ่ จะสนุกก็มีน้องชายที่ช่วยเบรก แล้วน้องชายจะพูดความจริงสวยไม่สวยพูดเลย คนขายอาจจะแบบอยากขาย"

ยอมรับแม้ว่าจะทำงานเกี่ยวกับการขายเสื้อผ้า รักในแบรนด์และงานที่ทำ แต่ไม่จำกัดว่าต้องใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมเท่านั้น
"ช้อปปิ้ง คือเราชอบอยู่แล้วมันคือความสุข แต่ถ้าเดือนไหนที่เราใช้เว่อร์ไปนิดก็ต้องกลับมาใช้ให้มันน้อยลงหน่อย บริหารตัวเองให้ได้ เป็นคนติดสินค้าแบรนด์มั้ย ไม่นะ เสื้อผ้าอะไรก็ใส่ได้ ขอให้ได้ช้อปปิ้งคือแบบแพลตตินั่ม สำเพ็งได้หมด อินกับแบรนด์ที่ตัวเองทำมั้ย ก็อินนะ อินมากด้วย อินเพราะมันคือผลงานของเรา แพรรู้สึกว่าคือถ้าเราจะทำให้อิน จะทำให้ดี เราต้องชอบมันก่อนรู้ดีเทลของมันก่อน ลองใส่ รักในแบรนด์”

แม้ว่าจะเป็นอดีตนักเรียนนอก แต่ชีวิตสาวทำงานหน้าละอ่อนคนนี้ ไม่ได้โดนเลี้ยงแบบปล่อยแต่อย่างใด ..."อยู่เมืองนอกไม่ค่อยปล่อยนะคะ เลี้ยงไปตามสเต็ป แต่ในการเลือกเรียน หรือสายการทำงานแพรเลือกเอง สมัครเอง ขวนขวายของเราเอง บังคับมั้ยอะไรมั้ยก็ไม่ ตะล่อมให้อยู่ในกรอบมากกว่า ถ้าเทียบกับบ้านคนอื่นก็ดุใช้ได้อยู่ ส่วนใหญ่ที่ดุ ก็เป็นห่วงเขาเป็นห่วง แม่กับลูกนะบางทีก็มีบ้าง”

ก่อนที่จะจบการสัมภาษณ์ในวันนั้น อดถามไม่ได้ว่าหน้าตาที่ขาวใสแบบเธอนี้ มีเคล็ดลับดูแลผิวพรรณความสวยความงามอย่างไรบ้าง เจ้าตัวบอก เน้นสะอาด และพักผ่อนให้เพียงพอ

" แพรคิดว่าแต่ละคนจะมีวิธีการที่ต่างกันในการดูแลตัวเอง บางคนแค่ทาครีมหน้าก็ใสแล้ว อาจต้องดื่มน้ำเยอะ ออกกำลังกายเยอะ แพรชอบนอนน่ะ คือถ้าแพรนอนโอเค หน้าเราไม่เป็นสิว การอดนอนหรือได้นอนมันต่างกันมาก ผิวจะดีมาก น้ำก็พยายามดื่ม ตอนนี้เริ่มกินวิตามินซีบ้าง ระวังอาหาร แอลกอฮอล์ก็แพ้ ดื่มแก้วเดียวก็เป็นลม ผื่นขึ้น ฉะนั้นเลยไม่กินดีกว่า ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี (ยิ้ม)"

"แพรวา" ทิ้งท้ายกับเราแบบนั้นและคงไม่ต้องถามเธอต่อไปว่ามีคนรู้ใจแล้วหรือยัง เพราะเธอยิ้มและบอกกับเราว่ามีคนที่ศึกษาบ้างแล้ว และดูเธอจะมีความสุขกับการทำงาน และมีฝันว่าอยากเปิดร้านเสื้อผ้าตัวเองสักร้านควบคู่กับงานประจำ การพูดจาที่ดูเรียบนิ่ง เครียดน้อย นี่คงเป็นสาเหตุอีกประการหนึ่งที่ไม่แปลกใจว่าทำไมเธอถึงหน้าใส และอ่อนวัยกว่าอายุจริง...

ประวัติ
แพรวา พงศธร อายุ 29 ปี
ระดับอนุบาล-โรงเรียนอนุบาลจุไรรัตน์
อนุบาล 2-มัธยมศึกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
สอบเทียบ ปริญญาตรี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (เป็นผู้เชิญพระเกี้ยวในการแข่งขันฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์) และไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษด้านการบริหารการตลาด

ประวัติการทำงาน
ดำรงตำแหน่ง Assistant Brand Manager บริษัท คลับ 21 ดูแลแบรนด์ Marc Jacobs , Marc by Marc Jacobs และ Pleats Please Issey Miyake


"ไฮโซเหมือนชื่อเรียก พฤติกรรมในการใช้ชีวิตทำให้มีคนเรียกแบบนั้น ไฮโซตัวจริง เช่นคนที่มาซื้อของที่ร้านแพรเนี่ย ไม่ใช่คนที่เราเห็นออกตามงานทั่วไป คนมีเงินจริง ใช้เงินสดทีละมากๆเยอะแยะ เจ้าของโรงงานอยู่ต่างจังหวัดก็มี แพรว่ามันเป็นเหมือนหัวโขนมากกว่า บางคนที่รวยจริงๆ ใช้ชีวิตที่รวยหรือไฮโซจริงเราแทบไม่รู้จัก” ...."ไฮโซ" ในความหมายของ "แพรวา"

ภาพโดย วรงค์กรณ์ ดินไทย




กำลังโหลดความคิดเห็น