หากจะย้อนกลับไปนึกว่าตลอดปี 2551 ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเกมมีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย “เกม” กลายเป็นหนึ่งในความบันเทิงที่เกาะกระแสสังคมคงอยู่ทั้งในบวกและลบ ขึ้นอยู่กับว่าคนที่อ่านข่าวนั้นมีความเข้าใจเกมมากน้อยขนาดไหน หรือยอมเปิดรับมันให้เข้าอยู่ในชีวิตของคุณหรือเปล่า เมื่อหลายคนเข้าใจก็จะรู้สึกสนุกไปกับมัน และจะไม่วิตกกังวลอีกต่อไป
ผลการสรุปยอดจำหน่ายเครื่องเล่นเกมในปีนี้ครอบคลุมทั่วโลก จากเว็บไซต์ vgchartz.com ณ วันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา พบว่ายอดขายเครื่องเกมพกพาจากนินเทนโด “นินเทนโด ดีเอส”(DS) ยังคงครองแชมป์อันดับหนึ่ง เป็นจำนวนถึง 94.40 ล้านเครื่องแล้ว ตามมาด้วยเครื่องคอนโซลจากค่ายเดียวกัน “นินเทนโด วี”(Wii) 43.61 ล้านเครื่อง ส่วนอันดับ 3 ตกเป็นของเครื่องเกมพกพาจากโซนี่ “เพลย์สเตชัน พอร์ตเทเบิล”(PSP) 42.15 ล้านเครื่อง ขณะที่เครื่องเกมคอนโซลยุคใหม่จากไมโครซอฟท์ “เอ็กซ์บ็อกซ์360”(Xbox360) ทำยอดขายได้ 26.48 ล้านเครื่อง และปิดท้ายด้วยเครื่องคอนโซลจากโซนี่ “เพลย์สเตชัน3”(PS3)ค่อยๆขายดีขึ้นเป็นลำดับอยู่ที่ 18.78 ล้านเครื่อง
"บลู-เรย์" คือผู้ชนะ
ดูเหมือนข่าวอนาคตของสงครามฟอร์แมตแผ่นบันทึกข้อมูลจะมีเค้าลางมาตั้งแต่ต้นปี เมื่อ“วอร์เนอร์ บราเธอร์” ผู้กุมตลาด 20 % ในอเมริกา และ“นิว ไลน์ ซีเนม่า” ตัดใจทิ้งฟอร์แมต “เอชดี-ดีวีดี”(HD-DVD) มาผลิตโฮมวิดีโอเฉพาะฟอร์แมต“บลู-เรย์ ดิสก์” (Blu-ray Disc) อย่างเดียว ไม่นานหลังจากนั้น ทางโตชิบาได้แถลงข่าวใหญเพื่อ่ล้มโปรเจกต์ “เอชดี-ดีวีดี” ลงอย่างเป็นทางการ และเปิดโอกาสให้ “บลู-เรย์” เป็นมาตรฐานใหม่ของสื่อบันทึกข้อมูลความจุสูง
งานนี้ทางโซนี่ผู้นำในฟอร์แมต “บลู-เรย์” ที่นำร่องมากับเครื่องเกม PS3 จึงนั่งอมยิ้มอยู่ในใจกับความสำเร็จในการตัดคู่แข่ง แต่ทว่าเครื่อง PS3 กลับขายไม่ได้ตามเป้าเหมือนอย่างที่คาด เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมที่รับเทคโนโลยีใหม่ในทันที ดังน้น จึงต้องรอดูกันยาวๆ ส่วนทางไมโครซอฟท์ที่ถือหาง “เอชดี-ดีวีดี” อยู่ คงได้แต่กลืนเลือดไปอึกใหญ่ เพราะได้ผลิตเครื่องเล่นแบบต่อภายนอกสำหรับเครื่อง Xbox360 ไปแล้ว จนต้องสั่งยกเลิกการผลิตตายตกไปตามกันหลังจากนั้น
PS3 ดิ้น PSP โมเดลใหม่
ถึงแม้ว่าโซนี่จะได้ชัยชนะมากับ “บลู-เรย์” แต่ก็ไม่หมายความว่าจะมีชัยเหนือกว่าเครื่องเกมคู่แข่งง่ายๆ ปีนี้เราได้เห็นโซนี่งัดกลยุทธ์ทางการตลาดมากมาย ทั้งเพิ่มและลดขนาดความจุของฮาร์ดดิสก์ รวมไปถึงเติมลูกเล่นลงไปในระบบการเล่นของเครื่องหลายตัว โดยในช่วงต้นปี โซนี่ประกาศเลิกทำ PS3 สองรุ่นแรกเริ่ม 20 GB กับ60GB ในญี่ปุ่น แล้วขยับไปโฟกัสเครื่องโมเดลใหม่ 40 GB แทน ถัดมาในช่วงกลางปี โซนี่แก้เกมคู่แข่งด้วยการประกาศส่งเครื่อง PS3 ขนาด 80 GB ช่วงเดือน ก.ย. ในราคา 399.99 เหรียญสหรัฐ เท่ารุ่น 40 GB ในปัจจุบัน
ด้าน "คาซ ฮิไร" ประธานโซนี่ คอมพิวเตอร์ เอนเตอร์เทนเมนท์ ออกมาเปิดใจว่าตลอดช่วงอายุของเครื่องเพลย์สเตชัน 3 ได้ตั้งเป้ายอดขายทั่วโลกเอาไว้ที่ 150 ล้านเครื่อง และเขาก็ปฏิเสธที่จะลดราคา PS3 ลงมาอีกแล้ว ต่อมาโซนี่ก็บ้าพลังเกทับคู่แข่งด้วยการออกเครื่อง PS3 ชุดพิเศษจำนวนจำกัด ที่เพิ่มความจุถึง 160 GB วางขายในยุโรปก่อนเพื่อน 31 ต.ค. และปิดท้ายปีด้วยการบอกยอดผู้เชื่อมต่อผ่านระบบออนไลน์ “เพลย์สเตชัน เน็ตเวิร์ก”(PSN)ทั่วโลกด้วยตัวเลขกลมๆ 14 ล้านคน ในโอกาสฉลองวันเกิดเครื่อง PS3 ครบ 2 ขวบ หลังลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ปี 2006
แถมด้วยข่าวดีที่มีคนนำหัวใจหลักของเครื่องPS3 “เซลล์”(Cell) มาประยุกต์จนกลายเป็นเครื่อง “ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก”ไปแล้วกับผลงานของค่าย IBM ที่เรียกว่า “Roadrunner”โดยแซงหน้าเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของตัวเองด้วยความเร็วในการประมวลผลคำสั่งที่ระดับ “Petaflop” หรือ 1,000,000,000,000,000 คำสั่งต่อวินาที และมันยังใช้ชิปโปรเซสเซอร์แค่ราวๆ 20,000 ตัวเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยกว่าเครื่องเทพตัวก่อนเยอะทีเดียว
โซนี่ปรุงโฉมเครื่องเกมพกพา “PSP” ด้วยโมเดลใหม่ 3000 ที่ยัดไมโครโฟนลงไปในตัวเครื่องและการปรับประสิทธิภาพจอใหม่ ช่วยลดแสงจ้าที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเล่นเกม (แต่ดูเหมือนหลังๆจะมีข่าวจอมีอาการไม่ดีนัก) สถานการณ์ของเครื่อง PSP ไม่ดีนัก (แต่ก็ยังดีกว่า PS3) เนื่องจากมีสถิติบ่งชี้ว่า บรรดานักพัฒนาเกมที่ไม่ใช่โซนี่ต่างพากันหมางเมินที่จะทำเกมป้อนให้ โดยตัวเลขในปี 2006 ระบุว่าเครื่อง PSP มีเกมมาลงเยอะที่สุด 153 เกม หลังจากนั้นปี 2007 มาอยู่ที่ 127 เกม และเข้าขั้นวิกฤตในปี 2008 ที่เหลือเกมมาลงให้เพียง 76 เกม จนทำให้ผู้บริหารของโซนี่ต้องเร่งคิดไอเดียการตลาดใหม่เพื่อให้มีเกมออกมาเยอะๆ โดยการใช้ระบบจำหน่ายเกมรูปแบบใหม่ที่เป็นดิจิตอลผ่าน "เพลย์สเตชัน สโตร์" ที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาเกมได้สร้างเกมแนวแคชวลที่สามารถเล่นได้ง่ายๆ และทำให้มีคอนเทนต์สำหรับดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น
สแควร์ เอนิกซ์ขยาย ยูบิซอฟต์มัลติมิเดีย
“สแควร์ เอนิกซ์”ค่ายเกมอีกแห่งหนึ่งของโลกที่ถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญในตลาดเกม RPGญี่ปุ่นที่จะชี้เป็นชี้ตายอนาคตของเครื่องเกมคอนโซลได้เลยทีเดียว ปีนี้ทางสแควร์ เอนิกซ์บอกว่าเอนจินทำเกม “ไฟนอล แฟนตาซี” ภาค 13 ที่ชื่อ“ไวท์ เอนจิน” จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “คริสตัล ทูลส์” เพื่อรองรับการทำงานบน PC และ Xbox360 แถมยังยอมรับว่าใช้ได้กับ Wii แต่ยังไม่เต็มร้อยนัก พร้อมกันนี้ยังได้เปิดเผยว่ากำลังใช้ทำเกมออนไลน์ใหม่อีกต่างหาก
ความเคลื่อนไหวของบริษัทนี้ในตลาดเกมโลกนั้น พวกเขาได้ตกลงเซ็นสัญญาเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้จำหน่ายเกมจากค่ายเกมจากฝั่งตะวันตกเป็นครั้งแรก นั่นก็คือ “Gas Powered Games” โดยจะรับหน้าที่จัดจำหน่ายเกมวางแผน RTS "Supreme Commander 2" นอกจากนี้ บริษัทได้รุกคืบไปตั้งสตูดิโอพัฒนาเกมแห่งใหม่ในลอส แองเจลลิส เพื่อสร้างเกมตัวใหม่แนวแอ็คชั่นบนเครื่อง Xbox360 และอาจจะมีบนเครื่อง Wii ติดไปด้วย
"Yves Guillemot" ซีอีโอของค่ายเกมยูบิซอฟต์ เปิดเผยวิสัยทัศน์ในอนาคตขององค์กรที่จะเปลี่ยนจากผู้จำหน่ายเกมไปสู่ธุรกิจความบันเทิงมัลติมิเดีย ด้วยการผลิตภาพยนตร์คอมพิวเตอร์ กราฟิก นอกจากนั้นยังรวมถึงการแตกไลน์สาขาเกมแนวใหม่ๆ แต่ในช่วงเริ่มต้นจะทุ่มเทไปเฉพาะการทำแอนิเมชันมากกว่าการจะสร้างภาพยนตร์จอเงิน โดยพัฒนาควบคู่ไปกับเวอร์ชันเกม และวางแผงพร้อมกัน ไม่เพียงเท่านั้น อนาคตผลิตภัณฑ์ต่างๆของยูบิซอฟต์จะมาอยู่ในตลาดรายการโทรทัศน์ พร้อมยืนยันว่าได้เริ่มต้นสร้างไปแล้วสำหรับซีรีส์โทรทัศน์
หลังจากนั้นก็รุกคืบเข้าซื้อกิจการของ "Hybride Technologies" สตูดิโอสร้างเอฟเฟกต์ที่มีฐานการผลิตอยู่ในมอนเทรียล ประเทศแคนาดา โดยมีภาพยนตร์ที่ผ่านการเจียระไนจากทีมงานดังกล่าว อาทิ 300 , Sin City และ Spy Kids
ยูบิซอฟต์เปิดตัวเกมน่าสนใจใหม่เกมที่ใช้ชื่อว่า “ไอ แอม อะไลฟ์” (I Am Alive) ออกมาให้เล่นบน 3 เครื่องเกม Xbox360,PS3 และพีซี ตัวเกมพัฒนาโดยทีม Darkworks ผู้ที่เคยสร้างเกม Alone in the Dark: The New Nightmare กับ Cold Fear เกมนี้ผู้เล่นจะต้องเอาชีวิตให้รอดจากเหตุแผ่นดินไหวในชิคาโก้ ตัวละครเอกมีชื่อว่า “อดัม” ผู้ที่พยายามรักษาชีวิตตัวเองให้พ้นจากเหตุภัยพิบัติที่ไม่ทราบสาเหตุ พร้อมกันนี้ ยังมีข่าวแว่วมาว่ายูบิซอฟต์ร่วมมือกับ"เจมส์ คาเมรอน" ผู้กำกับไททานิคในการสร้างเกม “อวาทาร์” (Avatar)เป็นภาพ 3 มิติที่จะขายแว่นตาควบคู่กันไปด้วย
Hero Master-Winning ลิขสิทธิ์ไทย
ปีนี้ถือเป็นการเปิดขายเกม RPG ฝีมือคนไทยบนเครื่องพีซีจากทีม “บิ๊กบั๊กสตูดิโอ”ที่ใช้กำลังคนทำเพียงแค่ 3 คนภายในเวลา 1 ปี ด้วยเงินทุนตัวเองกับเกมที่ชื่อ “ฮีโร่มาสเตอร์ :ศึกสมองกลอัจฉริยะ” (HeroMaster) แถมยังทำการตลาดเอง โดยมีนายวฤทธิ์ อาชวานันทกุล เป็นทั้งกรรมการผู้จัดการ และยังหน้าที่ในส่วนของโปรแกรมมิ่ง,แอนิเมชัน และเอฟเฟกต์ ส่วน นายชาคฤษ โนนคำทำในส่วนของภาพกราฟิก 2D ,คอนเซ็ปต์อาร์ต ,เท็กซ์เจอร์, อินเตอร์เฟส,ออกแบบตัวละคร และไอเทม ขณะที่“นายเกริก บุณยานุเคราะห์”เป็นโมเดลเลอร์ของเกม
อย่างไรก็ตาม ทีมบิ๊กบั๊กสตูดิโอกลับต้องผิดหวังในแง่การขาย หลังจากโดนนำเกมไปก๊อปปี้ขายและถูกแจกจ่ายผ่านบิต ทอร์เรนต์ จนต้องถอยทัพกลับไปตั้งหลักกันใหม่สำหรับโปรเจกต์เกมถัดไปที่ใช้ชื่อว่า “เกม 12 หาง” (12 Tails Online) เกมออนไลน์กึ่ง MMORPG กึ่ง Mission และต้องจั่วหัวกันชัดๆเลยว่า ถ้าพวกเขาดันเกมนี้ไปไม่ขึ้นแล้วก็คงต้องโบกมือลาตลาดเกมไทยไปเหมือนกัน
บริษัท “ซิลเวอร์ คอยน์” ผู้ให้บริการ 2 เกมออนไลน์ในตลาดไทย "16POUNDs" กับ “ทริคสเตอร์ ออนไลน์” ประกาศอย่างเป็นทางการได้ลิขสิทธิ์ผลิตภัณฑ์เกมทุกชิ้นจาก “โคนามิ” เจ้าของเกมฟุตบอลแห่งมวลมนุษยชาติ “วินนิ่ง อีเลฟเว่น” พอข่าวแพร่สะพัดก็เล่นเอาร้านเกมต้องปรับตัวกันยกใหญ่
Nintendo กลับมายิ่งใหญ่
นิตยสาร “เกม ดิเวลลอปเปอร์” และฝ่ายวิจัยเกม ดิเวลลอปเปอร์ รีเสิร์ชของ “Think Services” ได้ทำการเผยแพร่ผลการศึกษาชิ้นใหม่ด้วยการจัดอันดับ 50 สตูดิโอที่พัฒนาเกมทั่วโลก โดยรวบรวมเอาข้อมูลการตลาด,คะแนนเฉลี่ยจากคำวิจารณ์เกมและการสำรวจจากบรรดามืออาชีพด้านการพัฒนาเกมกว่า 700 คนผ่านเว็บไซต์ Gamasutra.com ผลปรากฏว่า บริษัทพัฒนาเกมที่อยู่ในอันดับหนึ่งของโลกในปีนี้ตกเป็นของบริษัท “นินเทนโด” จากประเทศญี่ปุ่นด้วยผลงานเกมอันโดดเด่นหลายต่อหลายตัวไม่ว่าจะเป็น Wii Play, Wii Sports, และ Brain Age
ไม่เพียงนินเทนโดจะขึ้นชื่อในเรื่องความสร้างสรรค์ของผลงานเกมแล้ว “ฮิโรชิ ยามาอุจิ” อดีตประธานนินเทนโด วัย 80 ปี ที่ล้างมือจากงานไปนอนตีพุงดูรุ่นน้องทำแทน ยังถูกนิตยสารฟอร์บส์จัดให้เป็นคนที่รวยที่สุดของญี่ปุ่น ด้วยทรัพย์สมบัติที่พุ่งสูงแบบก้าวกระโดด 248,000 ล้านบาท จากยอดขายเครื่องเกม Wii กับ DS และคงความรวยในอันดับ 149 ของโลก เรียกว่ารวยภายในเวลาไม่ถึง 4 ปี ทางด้าน “ไฟแนนเชียล ไทม์” เปิดเผยข้อมูลว่าพนักงานภายใต้สังกัดของนินเทนโดต่อคนสามารถทำกำไรให้บริษัทได้ถึง 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่า2 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Goldman Sachs และ กูเกิล
DSi โมเดลใหม่ 2 ตัวเสริม Wii
หลังจากลือมานานว่านินเทนโดเตรียมเปิดตัวเครื่องเกมพกพา DS โมเดลใหม่รอบ 3 สุดท้ายก็เป็นเรื่องจริง โดยเพิ่มตัว i ลงไปเป็น “DSi” พร้อมคุณสมบัติใหม่ จอกว้างขึ้น ติดกล้องในตัว 300,000 พิกเซล (resolution 640x480) เพิ่มสลอต SD การ์ด แต่ตัดสลอต GBA ออก ฟังเพลงฟอร์แมต AAC ร้องคาราโอเกะได้ และใส่อินเทอร์เน็ต เบราเซอร์มาให้ในตัว แต่แบตเตอรี่ใช้งานได้น้อยกว่า DS Lite เครื่องโมเดลนี้ติดป้ายขายไว้ที่ 6,200 บาท คลอดญี่ปุ่นก่อนในวันที่ 1 พ.ย. ด้วยสีขาวกับดำ
เมื่อถ่ายรูปด้วยกล้องแล้วจะสามารถมาปรับแต่งภาพในตัวเครื่องได้เลย โดยใช้ปากกาสไตลัสลากไปบนหน้าจอระบบทัชสกรีน สามารถทำให้ใบหน้าบิดเบี้ยวไปมาตามใจชอบ นอกจากผู้เล่นจะสามารถส่งภาพให้กันระหว่าง 2 เครื่องแล้ว ยังสามารถนำภาพใส่ SD การ์ดไปใช้บนพีซีหรือโทรศัพท์มือถือได้ด้วย ที่สำคัญนินเทนโดแจ้งเตือนว่า อุปกรณ์ที่ช่วยในการเล่นเกมละเมิดลิขสิทธิ์ต่างๆ อย่าง R4 จะไม่สามารถใช้งานได้บนเครื่อง DSi ตัวนี้ ทั้งนี้ หลังจากขาย DSi ที่ญี่ปุ่นครบ 1 เดือนสามารถทำยอดขายได้ถึง 535,379 เครื่องเลยทีเดียว
ขณะเดียวกันเครื่อง Wii ก็มีการเปิดตัว 2 อุปกรณ์ใหม่มาเสริมความสามารถอีก ก็คือ “Wii Speak”อุปกรณ์สนทนากันระหว่างผู้เล่น และ “วี โมชันพลัส” (Wii MotionPlus) เพื่อให้การทำงานของระบบการจับการเคลื่อนไหวจอยวี รีโมตแม่นยำมากขึ้นในแบบ 3D
เกมดังมาภาคใหม่
ปีนี้มีเกมภาคต่อหรือเกมในอดีตที่อยู่ในความทรงจำของผู้เล่นมานาน ได้ถูกนำกลับมาสร้างสรรค์ใหม่หลายตัวด้วยกัน เกมแรกที่ทราบข่าววงในมานานแล้วว่าอยู่ในกระบวนการผลิตนั้นก็คือ เกมจำลองชีวิตชื่อดังขวัญใจสาวๆ "เดอะซิมส์ 3" (The Sims3) ที่ EA ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการเสียที หลังทำมานานเกือบ 3 ปี ภาคนี้จะเปิดกว้างให้ชาวซิมส์เดินทางแบบอิสระแบบไร้พรมแดนรอยต่อของฉาก และมีปฏิสัมพันธ์กับชาวซิมส์คนอื่นด้วยระบบอุปนิสัยของซิมส์แบบใหม่ที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม แฟนประจำเกมซีรีส์นี้รอเล่นได้ในวันที่ 20 ก.พ.ปีหน้าบนพีซี ทั้งนี้ เกมตระกูล “เดอะ ซิมส์” ขายดีในหลัก 100 ล้านชุดทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกลายเป็นเกมพีซีที่ขายดีที่สุด หลังภาคแรกออกมาขายเมื่อปี 2000 ตัวเกมถูกแปลเป็น 22 ภาษา จำหน่ายใน 60 ประเทศ
ค่ายยูบิซอฟต์ จัดงานใหญ่ยูบิเดย์ 2008 เปิดตัวเกมใหม่ “Beyond Good & Evil2” จากฝีมือ Michel Ancel ด้วยการนำเสนอวิดีโอตัวอย่างของเกมใหม่ที่ทำให้แฟนเกมตื่นเต้นกันอีกครั้ง ขณะที่ค่าย id Software ยืนยันการพัฒนาเกม “Doom 4” อย่างเป็นทางการ ตัวเกมจะสามารถรีดพลังออกมาได้มากกว่าเกม Rage ถึง 3 เท่า และแสดงภาพอยู่ที่ 30 เฟรมต่อวินาที คงไม่ต้องถามค่ายนี้ว่าเกมจะออกมาเมื่อไร เพราะจะได้คำตอบเดิมก็คือ “เกมจะออกวางจำหน่ายเมื่อพร้อม”
ด้าน"อาตาริ"เปิดเผยเกมตระกูลสุดเก๋า Dungeons & Dragons ,Neverwinter Nights และBaldur's Gate กำลังเดินเครื่องทำกันอยู่ แต่คงยังไม่ใช่ปีหน้าแน่นอน ภายใต้การดูแลของ“ฟิล แฮร์ริสัน” อดีตประธานโซนี่ คอมพิวเตอร์ เอนเตอร์เทนเมนต์ เวิลด์ไวด์ สตูดิโอที่เข้ามาช่วยรื้อระบบเกมค่ายนี้ให้ถูกใจคนเล่นขึ้นกว่าเดิม
ข่าวดีที่สุดในรอบปีสำหรับคอเกม RPG ได้หลุดออกมาจากปากบลิซซาร์ดเองเสียที หลังใช้การตลาดเล่นกับการวิเคราะห์ของคนอ่านบนเว็บไซต์มาช่วงระยะหนึ่งกับภาพปริศนาที่ทยอยเปิดออกมา สุดท้ายก็มาจบที่เกม “Diablo III” บนเครื่องพีซีกับแมค ก่อนหน้านั้นก็มีข่าว“บลิซซาร์ด” ดอดไปหักคอเอาโดเมน เนมของเว็บไซต์ “Diablo3.com” เข้ามาเป็นของตัวเอง แบบที่เจ้าของเดิมให้ไปฟรีๆด้วยความเสน่ห์หา แต่ตอนนั้นหลายคนคงลืมคิดไป
บลิดซาร์ดบอกว่ามุมมองภาพจะเป็นแบบเดิมแต่ปรับฉากเป็น 3 มิติสมบูรณ์แบบ ,ใช้ระบบสุ่มฉากเหมือนภาคก่อน ,สิ่งๆต่างในฉากสามารถทำลายได้ ,ยังไม่ประกาศวันวางจำหน่าย และยืนยันว่าจะสนองต่อเครื่องพีซีสำหรับคนหมู่มาก ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่สเปคเทพแน่นอน ขณะที่แฟนพันธุ์แท้ Diablo กลับไม่พอใจในโทนสีของภาพเกมที่ดูสดใสเกินกว่าจะเป็น Diablo
ส่งท้ายปีด้วยการสร้างเซอร์ไพรซ์ในงานแถลงข่าวของบริษัทสแควร์ เอนิกซ์ที่แจ้งให้ทราบว่า “ดราก้อน เควสต์ 10”(Dragon Quest X) กำลังเดินทางสู่การพัฒนาบนเครื่อง Wii ขณะที่เกม “ดราก้อน เควสต์ 9”บน DS ได้กำหนดวันวางจำหน่ายในวันที่ 28 มี.ค.ปีหน้า
EA งาบไม่สำเร็จ เน้นคุณภาพ
บริษัทเทค-ทู อินเตอร์แอคทีฟ เจ้าของซีรีส์เกม “แกรนด์ เตฟต์ ออโต้” (Grand Theft Auto) หรือ GTA เนื้อหอมเป็นพิเศษสำหรับพี่เบิ้มจอมทุ่มอย่าง EA แม้จะถูกตามจีบอยู่นานสองนานเพื่อจะเข้ามาเป็นเจ้าของกิจการแทน โดยมีทีมงาน “ร็อกสตาร์” ผู้พัฒนา GTA เป็นแม่เหล็กใหญ่ แต่จนถึงที่สุดข้อเสนอต่างๆก็เป็นอันพับเก็บไป เพราะเทค-ทูไม่คิดจะวางมือ และออกมาเปิดเผยว่านอกจาก EA แล้วก็ยังมีบริษัทอื่นมาสนใจด้วย
คงไม่มีทางเลือกอื่นสำหรับ EA นอกจากการประกาศยุติความคิดในการขอซื้อกิจการด้วยเม็ดเงินราว 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และจะไม่มีการยื่นข้อเสนอใดๆกับทางเทค-ทูอีก ทั้งนี้ เทค-ทูได้แสดงจุดยืนตามมาว่าจะเป็นค่ายเกมอิสระ ไม่ขายกิจการให้กับบริษัทอื่น
EA ยืนยันว่า "Tiberium" เกมชูตติ้งมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ที่สร้างจากเค้าโครงซีรีส์เกม "Command & Conquer" ถูกสั่งล้มเลิกโครงการพัฒนา เนื่องจากคุณภาพของเกมยังไม่ได้อย่างที่ต้องการ ด้านประธานใหญ่ของ EA ก็บอกชัดว่าพร้อมจะล้มเลิกโปรเจตก์ทุกเมื่อ หากงานไม่เข้าท่า และให้ข้อมูลด้วยว่าอาจจะมีเกมที่ต้องล้มเลิกไปประมาณ 1 หรือ 2 เกมต่อปี เงื่อนไขดังกล่าวจะใช้แนวทางแก้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการให้เวลาพัฒนามากขึ้น , การเพิ่มงบประมาณเข้าไป , เปลี่ยนคอนเซปต์ของเกม หรือสุดท้ายคือยกเลิกเกมนั้นไปเลย หนึ่งในเกมที่ EA ไม่ปลื้มกับยอดขาย แต่รับได้กับคุณภาพเกม และพร้อมจะเสี่ยงสร้างภาคต่อไปนั่นก็คือ “Mirror’s Edge”
ราวเดือนต.ค.EA ประกาศนโยบายลดค่าใช้จ่ายของบริษัท ส่งผลให้มีการเลิกจ้างพนักงานของบริษัทกว่า 600 ตำแหน่ง หรือประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์ของแรงงานทั้งหมด ซึ่งช่วยให้บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ถัดมาในช่วงเกือบสิ้นปี EA เพิ่มสัดส่วนการลดจำนวนพนักงานเป็น 1,000 คน หรือราว 10 % และยุบ “Black Box Studio”สตูดิโอพัฒนาเกมซีรีส์ดัง “นีด ฟอร์ สปีด”ไปรวมกับทีมอื่น โดยส่งมอบหน้าที่การสร้างเกมแข่งรถตัวเก่งไปให้ทีมที่สร้าง “เบิร์นเอาต์” ทำต่อ
GTA4 ขายดีท่ามกลางปัญหาสังคม
แม้ข่าวฉาวจะออกมาชโลมให้เกมภาคใหม่ที่วงการเกมโลกจับตาอย่าง “GTA4” ต้องมัวหมองตลอดเวลา แต่ทว่ามันก็ไม่ได้ทำให้เกมนี้ขายไม่ออก ด้วยระบบเกม ,กราฟิก,เนื้อหา(สำหรับผู้ใหญ่) และคุณภาพของเกมส่งผลให้เกมนี้ได้รับคำชมเชยจากนักวิจารณ์โลกจนได้รับคะแนนเต็ม ขณะที่เกมเมอร์ชาวไทยถึงกับอึ้ง ทันทีที่เกมหลุดผ่านเว็บบิต ทอร์เรนต์ก่อนกำหนด ด้วยฉากเปิดเป็นเสียงโสเภณีพูดไทยขณะกำลังถูกเฆี่ยนตีว่า "อะไรว่ะ ชอบถูกตี ฝรั่งบ้า นี่แน่ะ"
ทาง“Chart-Track”หน่วยงานบันทึกสถิติวงการเกมในเกาะอังกฤษได้ยกสถิติใหม่ให้เป็นเกมที่มียอดขายดีที่สุดเมื่อรวมทุกฟอร์แมตในหนึ่งวันและหนึ่งสัปดาห์ 631,000 ชุดภายใน 24 ชั่วโมงหลังการเปิดวางจำหน่าย (29 เม.ย.) และ 926,000 ชุด ภายใน 5 วัน ส่วนทางเทค-ทูระบุว่า เกมนี้สัปดาห์เดียวสามารถขายไปได้ทั่วโลกราวๆ 6 ล้านชุด มีมูลค่ากว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในวันแรกที่ออกจำหน่ายนั้นถูกขายไปประมาณ 3.6 ล้านชุด คิดเป็นเงินราว 310 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะเดียวกัน “กินเนสบุ๊ค” ประกาศสถิติระดับโลกครั้งใหม่ ยกให้เกมโหด GTA4 เป็นเกมที่ทำรายได้มากที่สุดใน 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังเป็นผลิตภัณฑ์ความบันเทิงที่ทำรายได้ได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับความบันเทิงด้านอื่น และตอนสิ้นไตรมาสที่ 3 เทค-ทูเปิดเผยว่าเกมนี้สามารถทำยอดขายได้ถึง 10 ล้านชุดแล้ว นอกจากนี้ แฟนเกมอายุเกิน 18 เตรียมรอ “Grand Theft Auto: Chinatown Wars" บนเครื่อง DS กันต่อ 17 มี.ค.ปีหน้า
"แดน-แซม เฮาเซอร์" สองพี่น้องผู้ร่วมก่อตั้งค่ายเกมร็อกสตาร์ รู้สึกหงุดหงิดกับการต่อต้านของสังคม รวมไปถึงอคติของพวกนักการเมือง และนักหนังสือพิมพ์บางคนที่คิดว่าเกมนี้ไม่ปกติ สำหรับต้นทุนการพัฒนาเกมนี้อยู่ที่ 3,200 ล้านบาท โดยมีคนร่วมงานสร้างราวๆ 1,000 คน อย่างไรก็ตาม หลังจากเกมขายดี “ไมเคิล ฮอลลิกค์” วัย 35 ปี เจ้าของเสียงและบุคคลิก “นิโก้ เบลลิก” จากเกม GTA4 ออกอาการน้อยใจเล็กๆที่ไม่ค่อยได้รับการให้เกียรตินักเมื่องานจบ เผยรับค่าจ้าง 3 ล้านบาท ตลอด 15 เดือน หนำซ้ำต้นสังกัดยังนำเสียงของเขาไปโฆษณาผ่านสื่อแบบไม่ได้อะไรตอบแทนเพิ่มเติมทั้งๆที่เกมทำเงินได้มหาศาลในเวลาไม่ถึงเดือน
อ้างเลียนแบบ GTA จนเกิดเรื่อง
เชื่อว่าเหล่าคนเล่นเกมและพ่อแม่ผู้ปกครองคงยังไม่ลืมข่าว เด็กไทยวัย 18 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ไปฆ่าชิงทรัพย์แล้วสารภาพว่าได้เลียนแบบพฤติกรรมมาจากเกม GTA จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก ส่งผลให้ประเทศไทยถูกจารึกในประวัติศาสตร์วงการเกมโลกว่า ได้เกิดคดีแรกที่ผู้ก่อเหตุอ้างชัดเจนว่าเป็นผลมาจากเกม GTA ขึ้นแล้วในไทย ช่วงนั้นหน่วยงานในบ้านเราต่างเร่งทำงานเพื่อแก้ปัญหากันยกใหญ่ แต่หลังจากนั้นก็เงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะเปิดหลักเกณฑ์การจัดเรตเกมในช่วงต้นปีหน้า ส่วนนิวอีร่า อินเตอร์แอคทีฟ มีเดีย บริษัทผู้นำเกมตระกูลนี้เข้ามาก็เรียกเก็บเกมนี้ในเวอร์ชันถูกกฎหมายออกมาจากร้าน และจะไม่นำเกมภาค 4 เข้ามาจำหน่าย
ข่าวการเลียนแบบ GTA ในต่างประเทศก็มีมาอย่างต่อเนื่องทุกปี คดีแรกเป็นวัยรุ่นชาวอเมริกัน 6 คน ก่อเหตุชิงทรัพย์ทำร้ายร่างกายผู้คนบนท้องถนน และพยายามขโมยรถ ก่อนถูกตำรวจรวบตัวได้สำเร็จ พร้อมให้สารภาพทำตัวเลียนแบบเกม GTA ตามมาด้วยคดี 3 วัยรุ่นอเมริกันระเบิดรถด้วยระเบิดขวด อ้างเรียนรู้การทำระเบิดมาจากเกม GTA สุดท้ายโดนคดีไปคนละ 19 กระทง ขณะที่เหตุต้นไม้สวนสาธารณะในสวีเดนเสียหาย โยนบาปเกม GTA ตามระเบียบ
เกมเป็นหนัง-สาวตูมคนใหม่
"ไบโอช็อก" เกมชูตติ้งสุดฮอตจากค่าย 2K จะถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ โดยการดูแลของยูนิเวอร์เซิล พิคเจอร์ โดยจะได้ผู้กำกับชื่อดังอย่าง Gore Verbinski ผู้สร้าง Pirates of the Caribbean มาร่วมงานในฐานะผู้กำกับและควบคุมการผลิตทั้งหมด ทางด้านบทภาพยนตร์มีแนวโน้มสูงที่จะเป็นหน้าที่ของ John Logan (Sweeney Todd , The Aviator)
ส่วน 2 เกมในตำนานชื่อดังก็มีข่าวว่าบริษัทผลิตภาพยนตร์ Crystal Sky Pictures ได้งบประมาณก้อนใหม่ 200 ล้านเหรียญสหรัฐมาเพื่อสร้างภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยหนึ่งในนั้นก็คือภาพยนตร์ที่สร้างจากเกม “แพคแมน” กับ “Castlevania”
ไอดอสจับสาวโนเนม “อลิสสัน คาร์โรลล์” อายุ 23 ปี อดีตนักยิมนาสติกและพนักงานต้อนรับสนามกอล์ฟมารับบทเป็นฮีโร่สาว “ลาร่า ครอฟต์” คนใหม่ เพื่อโปรโมตเกม "ทูมบ์ เรเดอร์ อันเดอร์เวิลด์”
Xbox ไฟแดงไม่จบ-แผ่นขูด
“ไฟแดงมรณะ”ยังคงเป็นมหันตภัยสำหรับเครื่องเกม Xbox360 ของที่ผู้บริโภคต่างลังเลใจในการซื้อหามาไว้ในครอบครอง บรรดาผู้สันทัดกรณี บ้างก็ให้ความเห็นว่าเกิดจากความงกของไมโครซอฟท์ที่อยากลดต้นทุนการจ้างผู้เชี่ยวชาญออกแบบชิปการ์ดจอแล้วใช้ทีมตัวเองทำแทน ชี้ได้ไม่คุ้มเสีย สุดท้ายต้องไปจ้างมืออาชีพทำใหม่อยู่ดี งานนี้ไมโครซอฟท์ก็โดนดีเข้าจนได้เมื่อหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคสหรัฐ ยื่นฟ้องไมโครซอฟท์จากกรณีปัญหาไฟแดงมรณะ 3 ดวง แล้วทำให้เครื่องใช้งานไม่ได้ โดยต้องการให้คืนเงินกำไรทั้งหมดที่ได้มาจากการขายเครื่อง และปรับปรุงระบบการคืนเงินให้กับเจ้าของเครื่องที่เกิดปัญหาอีกด้วย ส่วนอีกคดีก็คงเป็นเรื่องแผ่นดิสก์เกมถูกขูดเป็นรอยเมื่ออยู่ในเครื่อง หากผู้ใช้ขยับเครื่องระหว่างทำงาน ซึ่งบ่งชี้ขัดว่าไมโครซอฟท์รู้แล้วว่าเครื่อง Xbox360 ของตัวเองมีปัญหาเรื่องแผ่นขูด ก่อนที่จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2005 เนื่องจากไม่มีตัวป้องกันการเคลื่อนที่ของแผ่น
ปีนี้ไมโครซอฟท์ปรับแผนกลยุทธ์ใหม่ด้วยการเพิ่มขนาดความจุฮาร์ดดิสก์ขึ้นเป็น 60 GB และเตรียมจะส่งขายในตลาดอเมริกาในราคา 349 เหรียญสหรัฐ ช่วงต้นเดือน ส.ค. ส่วนรุ่นฮาร์ดดิสก์ 20 GB ได้ลดราคามาอยู่ที่ 299.99 เหรียญสหรัฐจนกว่าของจะหมด ส่วนในญี่ปุ่นได้ลดราคาเครื่อง Xbox360 เพื่อต้อนรับการมาของเกม Infinite Undiscovery โดยรุ่น Arcade ที่ไม่มีฮาร์ดดิสก์ จากเดิมราคา 27,800 เยน เหลือ 19,800 เยน(6,100 บาท) สำหรับรุ่น Pro(20 GB) ลดราคาเหลือ 29,800 เยน(9,200 บาท) และเครื่องรุ่น Elite(120 GB) ลดราคาเหลือ 39,800 เยน(12,300 บาท)
ผลของการลดราคาส่งผลให้ตัวเลขยอดขายเครื่องเกมล่าสุดในญี่ปุ่นสิ้นสุดวันที่ 14 ก.ย.เครื่อง Xbox360 สามารถทำยอดขายได้ถึง 28,681 เครื่องมากกว่าเครื่องวีที่ทำได้ 27,057 เครื่อง ถือเป็นครั้งแรกที่เครื่อง Xbox360 มียอดขายมากกว่าเครื่องวีในญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังอัปเดตแดชบอร์ดใหม่ "New Xbox Experience" (NXE) บนเครื่อง Xbox360 ในวันที่ 19 พ.ย.ใช้เนื้อที่ฮาร์ดดิสก์ประมาณ 128 MB และไมโครซอฟท์ก็ยอมรับว่าปรับปุ่ม d-pad ของจอย Xbox36 ตัวเก่าไม่ดีพอสำหรับการเล่นเกมฟุตบอลตระกูล “วินนิ่ง อีเลฟเว่น” จึงทำจอยใหม่สีเขียว โดยมันสามารถบังคับได้ 8 ทิศทางอย่างแท้จริง
เกมใหญ่เริ่มไม่ Exclusive
สแควร์ เอนิกซ์เป็นค่ายแรกที่ออกมาย้ำจุดยืนความเป็นกลางในการทำงานร่วมกับบริษัทเกม และผู้ผลิตเครื่องเกม โดยเลือกที่จะไม่ทำเกมป้อนให้กับเครื่องเกมใดเป็นพิเศษ หลังเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นภายในงาน E3 ที่ผ่านมา เมื่อเกม “ไฟนอล แฟนตาซี 13” จากเดิมที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟลงเฉพาะเครื่อง PS3 ประกาศปันใจไปลงให้กับเครื่อง Xbox360 ของไมโครซอฟท์ด้วย รวมไปถึงเกมไฟต์ติ้งในตำนานอย่าง “เทคเคน6” ที่ขอเพิ่มสังเวียนมาลงใน Xbox360 ด้วย
ด้าน"เดวิด รีฟฟ์" ประธานโซนี่ยุโรป แสดงความเห็นเกี่ยวกับสัญญาเกมเอ็กซ์คลูซีฟที่ลงเฉพาะแพลตฟอร์มนั้นได้กลายเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว โดยแนะให้ยึดแนวทางใหม่ด้วยการทำงานโดยตรงแบบมีส่วนร่วมกับผู้พัฒนาเกมแทน ขณะที่ค่าย “แคปคอม”ที่เตรียมมุ่งเป้าขยายตลาดในซีกโลกตะวันตกก็ตอกย้ำอนาคตของบริษัทว่าจะทำเกมในหลายเครื่องเกม และไม่มีเอ็กซ์คลูซีพเฉพาะเครื่องอีกแล้ว
แว่นดำอำลาเทคโม
ต้นเดือน มิ.ย. “โทโมโนบุ อิตางากิ” เจ้าของคาแร็กเตอร์ผมยาวแว่นดำ ผู้สร้าง“นินจา ไกเดน-เดด ออร์ อะไลฟ์” ประกาศเอาคืนต้นสังกัด “เทคโม” ที่เบี้ยวเงินพิเศษในการทำเกมเดด ออร์ อะไลฟ์ภาค 4 โดยเขาประกาศลาออกและฟ้องศาลเรียกเงินถึง 46 ล้านบาท ต้อนรับการวางแผงเกม “นินจา ไกเดน2”เสียเลย ก่อนหน้านี้ตัวอิตางากิเองก็ไม่ค่อยพอใจประธานเทคโมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เนื่องจากมุ่งแสวงหาผลกำไร โดยปราศจากความสนใจด้านคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการพอร์ตเกม Rygar ไปบนเครื่อง Wii หรือการพอร์ตเกม Ninja Gaiden Sigma ไปยังเครื่อง PS3
หลังจากนั้นสิ่งที่ตามหลังมาก็คือเทคโมได้รับผลกระทบราคาหุ้นตกไปเกือบ 11 % แม้“โยชิมิ ยาสุดะ”ประธานบริษัท “เทคโม” จะร่อนคำแถลงขอโทษแฟนเกมและผู้ถือหุ้นตามมา ไม่นานหลังจากนั้น ประธานบริษัทเทคโมประกาศไขก๊อกลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ เท่านั้นยังไม่พอ 2 อดีตพนักงานของเทคโมได้ฟ้องบริษัทเพิ่มเข้าอีกดอก เนื่องจากไม่ยอมจ่ายค่าทำงานล่วงเวลา (OT)ให้พนักงาน 300 คน เป็นจำนวนเงินสูงถึง 8.3 ล้านเยน หรือประมาณ 2.6 ล้านบาท หลังจากพนักงานทำงานล่วงเวลากว่า 100 ชั่วโมงแต่เบี้ยวไม่จ่ายเงิน แถมยังสร้างเอกสารเท็จเพื่อปกปิดบัญชีอีกต่างหาก ตอนนี้คดีความก็ยังเงียบอยู่ ตัวเฮียแว่นดำเองก็หมดหนทางกลับรังเก่า แถมเทคโมมีแผนจะควบรวมบริษัทกับ “โคเอะ” อีกด้วย
